แนวคิด :
– ในบทนี้ได้บันทึกคำอธิษฐานของพระเยซูอย่างละเอียดมากกว่าที่ใดๆในพระคัมภีร์
– คำอธิษฐานในบทนี้ เกิดก่อนที่พระองค์และพวกสาวกจะออกเดินทางไปยังสวนเกทเสมนี (ยน.18:1)
– หลังจากที่พระเยซูได้สอนและเตือนพวกสาวกในบทที่ 13-16 แล้ว พระองค์ก็เริ่มอธิษฐานต่อพระบิดา
– พระเยซูทรงอธิษฐานต่อพระบิดา ว่า ถึงเวลาแล้วสำหรับการที่พระเยซูจะเข้าสู่กระบวนการได้รับเกียรติ ด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อนรับโทษแทนความผิดบาปของมนุษย์ และเป็นขึ้นมาจากควา,ตายในวันที่3
– ซึ่งในกระบวนการทั้งหมดนี้ พระเยซูทรงกระทำเพื่อให้พระบิดาได้รับพระเกียรติ ในการสำแดงความรักเมตตาแก่มนุษย์ ช่วยมนุษย์ให้กลับคืนดีกับพระเจ้าได้
– พระเยซูตรัสว่า “ถึงเวลาแล้ว” ไม่ได้หมายถึง พระเยซูบอกให้พระบิดารู้เวลา เพราะพระบิดาต่างหากเป็นผู้กำหนดวันเวลาเหล่านั้น
– แต่หมายถึง พระเยซูบอกกับพระบิดาว่า พระเยซูทรงทราบเวลาของพระบิดา และเวลานั้นก็มาถึงแล้ว พระเยซูทรงพร้อมแล้วสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
การประยุกต์ใช้ :
– พระเยซูทรงรู้เวลาของพระบิดา เมื่อเวลานั้นมาถึง
– ในทำนองเดียวกันพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะทรงสอนเราให้รู้เวลาของพระเจ้าเมื่อเวลานั้นมาถึง
– “ถึงเวลาแล้ว” มีความหมายลึกซึ้งอีกมุมหนึ่งคือ เวลาวันนั้นเป็นเวลาที่พระเยซูจะถูกจับกุม ถูกทรมาน และตรึงตายบนไม้กางเขน ต้องรอไปอีกถึง 3 วันกว่าจะพระเยซูจะเป็นขึ้นมาจากความตาย แล้วถึงได้รับพระเกียรติอย่างสมบูรณ์
– แต่พระเยซูกลับ เรียกเวลาในวันนั้นว่า “ถึงเวลาแล้ว”
– นั่นคือ ในมุมมองฝ่ายวิญญาณ กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่จับกุม สิ้นพระชนม์ และฟื้นคืนพระชนม์ เป็นเหตุการณ์เดียวกัน คือเหตุการณ์ที่พระบิดาทำให้พระเยซูได้รับพระเกียรติ
– หากเรามีความเชื่ออย่างไม่สงสัยว่า พระเจ้าจะทรงช่วยเราให้เกิดผลอันดีในทุกเหตุการณ์ วันนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรกำลังเกิดขึ้นกับเรา เราสามารถมองด้วยสายตาแห่งความเชื่อได้ว่า นี่เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับการที่พระเจ้าช่วยเราให้เกิดผลดีผ่านเหตุการณ์นี้
