ภาพรวม
- คนอิสราเอลบ่นว่าไม่มีเนื้อกิน พระเจ้าทรงเมตตาพวกเขาสัญญาว่าจะประทานเนื้อให้ตลอด 1 เดือน แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อในคำสัญญาของพระเจ้าอยู่ดี
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/numbers11-83466
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กันดารวิถี บทที่ 11 เมื่อประชาชนอิสราเอลเริ่มเดินทางออกจากถิ่นทุรกันดารซีนาย พวกเขาก็เริ่มบ่น
ประชาชนบ่นว่าเรื่องความลำบากของพวกเขา
พระเจ้าจึงทรงกริ้ว มีไฟจากพระเจ้ามาเผารอบนอกค่ายไปบางส่วน
พวกเขาก็ร้องต่อโมเสส
โมเสสจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า แล้วไฟก็ดับ
ต่อมา มีคนชาติอื่นที่ติดตามมาด้วย (อพย. 12:38 มีคนชาติอื่นจำนวนมากติดตามไปด้วย …) เป็นคนตะกละเห็นแก่กิน จึงมีผลทำให้คนอิสราเอลเริ่มร้องไห้คร่ำครวญอยากกินเนื้อ
บอกว่า คิดถึงปลา แตงกวา แตงโม กระเทียมจีน หอมใหญ่ หัวกระเทียม ในอียิปต์
เพราะกินแต่มานาจนเบื่อแล้ว
ประชาชนร้องไห้กันไปทั่ว ที่ประตูเต็นท์ของตน
และพระเจ้าทรงกริ้วอย่างยิ่ง โมเสสก็ไม่พอใจด้วย
โมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า ทนไม่ไหวแล้วที่จะต้องคอยดูแลเอาใจคนที่นิสัยเหมือนเด็กทารกพวกนี้
เป็นภาระหนักเกินไปสำหรับโมเสส
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า ให้รวบรวมพวกผู้ใหญ่ในอิสราเอลมาที่พลับพลา 70 คน
แล้วพระเจ้าจะให้พระวิญญาณเจิมคนเหล่านั้น เพื่อพวกเขาจะช่วยโมเสสแบกภาระของคนอิสราเอล
และพระเจ้าจะประทานเนื้อให้แก่คนอิสราเอล กินไป 1 เดือนเต็มๆ จนเอือมระอาไปเลย
แต่โมเสสทูลพระเจ้าว่า ถ้าจะเลี้ยงผู้ชาย 600,000 คน ยังไม่รวมผู้หญิงและเด็ก ให้พวกเขากินเนื้อจนครบ 1 เดือน ต้องใช้เนื้อมากมายมหาศาล ซึ่งจะเป็นไปได้ยังไง
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
“พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์สั้นไปหรือ? บัดนี้เจ้าจะเห็นว่าคำของเราจะสำเร็จเพื่อเจ้าจริงหรือไม่”
โมเสสจึงออกไปบอกประชาชน ตามที่พระเจ้าตรัส และท่านรวบรวมพวกผู้ใหญ่ 70 คน แล้วให้มายืนรอบๆ พลับพลา
พระเจ้าก็เสด็จลงมาในเมฆ และตรัสกับโมเสส แล้วพระวิญญาณก็เจิมพวกผู้ใหญ่เหล่านั้น แล้วเขาทั้งหลายก็เผยพระวจนะ แต่ก็ทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
แต่มีผู้ใหญ่ 2 คนที่ยังอยู่ในค่าย คือ เอลดาด และ เมดาด
แล้วพระวิญญาณก็เจิมเขาทั้งสองด้วย
และเขาทั้งสองก็เผยพระวจนะในค่าย
เมื่อโยชูวาทราบ ก็บอก โมเสสให้ไปห้ามเขาทั้งสอง
แต่โมเสสตอบว่า โมเสสอยากให้ประชาชนทุกคนเผยพระวจนะและมีการเจิมของพระวิญญาณด้วยซ้ำไป
แล้วมีลมพัดฝูงนกคุ่มจากทะเลมาตกอยู่ที่ข้างค่ายโดยอยู่รอบๆ
อยู่ห่างออกไปจากค่ายเป็นระยะทางเดิน 1 วัน
และอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร
วันนั้นประชาชนก็เที่ยวจับนกคุ่มกันทั้งวันทั้งคืน และตลอดวันถัดมาด้วย
คนที่จับได้น้อยที่สุดก็ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัม
แล้วเขาทั้งหลายก็เอามากางตากกันทั่วโดยอยู่รอบๆ ค่าย
และขณะที่นกอยู่ในปาก ยังไม่ทันได้เคี้ยว
พระเจ้าก็ทรงกริ้วและประหารประชาชนเหล่านั้นด้วยภัยพิบัติร้ายแรง
เขาจึงเรียกชื่อตำบลนั้นว่า ขิบโรทหัทธาอาวาห์
แล้วประชาชนยกออกเดินจากที่นั่น มาหยุดที่ฮาเซโรท
1. พระเจ้าทรงไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง ต่อการบ่นของประชากรของพระองค์
เพราะการบ่น เป็นการใส่ร้ายป้ายสีต่อพระเจ้า
เป็นการหาว่า พระเจ้าไม่รักษาสัญญา ทั้งที่พระองค์ไม่เคยผิดสัญญาเลย
สำหรับเหตุการณ์ในวันนี้ เราบ่น หรือ ขอบพระคุณพระเจ้า?
2. คนชาติอื่นที่ติดตามมาด้วย ที่ตะกละเห็นแก่กิน ส่งผลทำให้คนอิสราเอลเกิดความคิดที่ไม่เหมาะสมตามมา
พวกเขาคิดว่า อียิปต์ดีกว่า ออกเดินทางตามพระเจ้ามา
สิ่งที่เราต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิตคริสเตียนคือ ค่านิยมของโลก ของคนรอบข้างที่อยู่ฝ่ายโลกนี้
ถ้าค่านิยมเหล่านั้นเริ่มมีอิทธิพลต่อเรามากเท่าใด ชีวิตของเราก็จะเริ่มออกห่างจากชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าเท่านั้น
3. เอลดาด และ เมดาด ไม่ยอมเชื่อฟังโมเสส ไม่ได้มาที่พลับพลาในวันนั้น
ด้วยเหตุผลใด ก็ไม่ทราบ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พระเจ้ายังคงให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เจิมเหนือพวกเขา เหมือน ผู้ใหญ่คนอื่นๆ
การเจิมนี้เป็นสิทธิขาดของพระเจ้า ว่าพระองค์จะเลือกเจิมใคร
คนนั้นอาจดูไม่น่าจะได้รับการเจิม เหมือนอย่างที่โยชูวาคิด
แต่พระเจ้าย่อมรู้ดีกว่ามนุษย์ และพระองค์เป็นผู้เลือกเอง
และเมื่อพระเจ้าทรงเลือกเช่นนั้น
โมเสสผู้รู้หัวใจของพระเจ้า ก็ยินดีที่พระเจ้าทรงเลือกเช่นนั้นตามที่พระองค์เห็นชอบ
วันนี้ เรายินดีในสิ่งที่พระเจ้าทรงเลือกให้เกิดขึ้น ตามอำนาจอธิปไตยของพระองค์หรือไม่?
4. เหตุที่พระเจ้าทรงกริ้วและประหารคนเหล่านั้นที่ออกไปเก็บนกคุ่ม
น่าจะเป็นเพราะพวกเขา โลภมากและไม่เชื่อสิ่งที่พระเจ้าตรัสสัญญาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการดูถูกพระเจ้า
ทั้งที่พระเจ้าตรัสสัญญาว่า จะมีนกคุ่มมาทุกวันตลอด 1 เดือน
แล้วในวันนั้น พวกเขาก็เริ่มเห็นแล้วว่าพระเจ้าทรงรักษาสัญญาจริงๆ
พวกเขาไปเก็บกักตุนมากมาย คนที่จับนกมาน้อยที่สุดจับมา 1 ตัน
ซึ่งแน่นอน ไม่มีใครสามารถกินนก 1 ตันได้หมดใน 1 วัน
พวกเขาไม่เชื่อว่า พรุ่งนี้พระเจ้าจะส่งนกมาอีกตามสัญญา
ทั้งที่ วันนี้เขาเห็นกับตาแล้วว่า พระเจ้าทรงรักษาสัญญา
ที่ผ่านมาเราเห็นแล้วหรือยังว่า พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ
แล้วในวันนี้ เรายังคิดจะดูถูกพระเจ้า ด้วยการสงสัยในพระสัญญาของพระเจ้าหรือ?
คำคม
“ บ่น = ดูถูกพระเจ้า ”