ภาพรวม
- อาโรนและมิเรียมต่อต้านโมเสส พระเจ้าจึงทำให้มิเรียมเป็นโรคเรื้อน จนพวกเขากลับใจ
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/numbers12-83757
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กันดารวิถี บทที่ 12 เมื่อคนอิสราเอลออกเดินจาก ขิบโรทหัทธาอาวาห์ มาหยุดที่ฮาเซโรท แล้ว
มิเรียมกับอาโรน ผู้เป็นพี่สาวและพี่ชายของโมเสส ก็พูดต่อต้านโมเสสในเรื่องที่โมเสสแต่งงานกับหญิงชาวคูช ซึ่งอาจหมายถึงนางศิโปราห์ หรืออาจหมายถึงผู้หญิงอีกคนหนึ่ง พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุชัดเจน
แล้วก็ต่อต้านก็ลามไปถึง เรื่องที่ว่า พระเจ้าตรัสผ่านโมเสสคนเดียวเท่านั้นจริงหรือ?
ในทันใดนั้นพระเจ้าจึงตรัสสั่งโมเสส อาโรน และมิเรียม ให้ออกมาที่พลับพลา
แล้วพระองค์ทรงเรียกอาโรนและมิเรียม ออกมาข้างหน้า
พระองค์ตรัสว่า พระองค์ตรัสกับโมเสสเป็นพิเศษ แบบซึ่งๆ หน้าอย่างชัดเจนโดยไม่พูดเป็นปริศนา ไม่เหมือนสำแดงแก่คนอื่น เพราะโมเสสซื่อสัตย์
และพระเจ้ายังได้สำแดงให้โมเสสเห็นสัณฐานของพระเจ้าอีกด้วย
แล้ว ทำไมอาโรนและมิเรียม จึงกล้าพูดต่อต้านโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า เช่นนี้
แล้วมิเรียมก็เป็นโรคเรื้อนขาวเหมือนหิมะ
อาโรนจึงอ้อนวอนโมเสส ให้ช่วยมิเรียมด้วย พวกเขาทำผิดไปแล้ว
แล้วโมเสสร้องทูลพระเจ้า
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า ให้กักมิเรียมไว้นอกค่าย 7 วัน แล้วก็จะหาย
ต่อมาเมื่อมิเรียมหายแล้ว ประชาชนก็ยกออกเดินทางจากตำบลฮาเซโรท
ไปตั้งค่ายอยู่ที่ถิ่นทุรกันดารปาราน
1. การทักท้วงของอาโรนและมิเรียม ตอนแรกก็เป็นเรื่องการแต่งงานของโมเสส แต่ต่อมาพัฒนาลุกลามไปถึงเรื่องสิทธิอำนาจของโมเสส
คงเป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งสอง เห็นผู้ใหญ่ 70 คนเผยพระวจนะได้
จึงตั้งข้อสังเกตว่า พระเจ้าไม่จำเป็นต้องตรัสกับโมเสสคนเดียวนี่นา
ดูเหมือนพระเจ้าไม่ได้ตำหนิพวกเขา ที่ทักท้วงเรื่องการแต่งงานของโมเสส
แต่พระเจ้ากริ้วพวกเขา เมื่อก้าวล่วง สิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้แก่โมเสส
การกระทำที่ถูกต้องอันหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าการกระทำครั้งต่อมาจะถูกต้องเสมอไป
สิ่งที่พระเจ้าไม่อนุญาตให้มนุษย์ก้าวล่วงล้ำ คือ เรื่องสิทธิอำนาจ
เมื่อพระเจ้าจะประทานสิทธิอำนาจให้แก่ใคร เป็นสิทธิขาดของพระองค์
มนุษย์หน้าไหน ก็ไม่มีสิทธิเข้ามาก้าวก่าย ไม่ว่าจะมีเหตุผลที่ดีสักเพียงใดก็ตาม
2. พระคัมภีร์กล่าวว่า โมเสสเป็นคนถ่อมใจยิ่งกว่าคนทั้งหมดบนพื้นแผ่นดิน
โมเสส จัดการกับการต่อต้านสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้ ด้วยการไม่ทำอะไรเลย
เพียงแต่รอคอยพระเจ้าจัดการ
และพระเจ้าก็จัดการจริงๆ
จนในที่สุด คนเหล่านั้นก็เลิกต่อต้านและกลับยิ่งยำเกรงโมเสส
เราไม่ควรต่อต้านสิทธิอำนาจที่พระเจ้าเจิมตั้งเอาไว้
และถ้าหากใครมาต่อต้านสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานแก่เรา
เราก็ควรอธิษฐานเผื่อพวกเขา ให้รีบกลับใจก่อนจะสายเกินไป
3. อาโรนกับมิเรียม ร่วมกันต่อต้านโมเสส
ปรากฏว่า มิเรียมเป็นโรคเรื้อนคนเดียว อาโรนรอด
ซึ่งน่าจะเป็นเพราะอาโรนทำหน้าที่มหาปุโรหิต ถ้าเป็นมลทินด้วยโรคเรื้อนจะยุ่งกันใหญ่
และพระองค์รู้ว่า แค่ให้มิเรียมเป็นโรคเรื้อนคนเดียว ก็เพียงพอให้ทั้งสองคนกลับใจใหม่แล้ว
การตัดสินลงโทษใคร อย่างไรนั้น เป็นสิทธิขาดของพระเจ้า
ไม่ใช่ธุระของเรา
ขอให้เราเพียงแต่รู้ก็พอแล้วว่า พระเจ้าเลือกวิธีที่ดีที่สุด ด้วยพระสติปัญญาอันล้ำเลิศของพระองค์
คำคม
“ การให้เกียรติสิทธิอำนาจ เป็นการให้เกียรติพระเจ้า ”