ภาพรวม
- พระเจ้าทรงสั่งคนอิสราเอลเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องทำเมื่อเข้าไปในแผ่นดินคานาอันแล้ว
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/numbers15-84097
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กันดารวิถี บทที่ 15 เมื่อคนอิสราเอลกบฎต่อพระเจ้า พระองค์จึงบอกพวกเขาว่ายังไม่ต้องเข้าคานาอันก่อน จนกว่าจะวนเวียนในถิ่นทุรกันดารครบ 40 ปี
แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสส เกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่คนอิสราเอลต้องทำเมื่อเข้าไปในแผ่นดินคานาอันแล้ว
1.เรื่องเครื่องถวายบูชา
– เครื่องบูชาเผาทั้งตัว หรือเป็นเครื่องสัตวบูชา หรือเครื่องบูชาถวายด้วยความสมัครใจ หรือ เครื่องบูชาถวายในเทศกาลเลี้ยงต่างๆ
ให้ถวายพร้อมธัญบูชา ดังนี้
>> เมื่อถวายลูกแกะ ให้ถวายพร้อม แป้งอย่างดี 1 กิโลกรัมเคล้าน้ำมัน 1 ลิตร และ เหล้าองุ่น 1 ลิตร
>> เมื่อถวายแกะผู้ ให้ถวายพร้อม แป้งอย่างดี 2 กิโลกรัมเคล้าน้ำมัน 1.5 ลิตร และ เหล้าองุ่น 1.5 ลิตร
>> เมื่อถวายลูกโค ให้ถวายพร้อม แป้งอย่างดี 3 กิโลกรัมเคล้าน้ำมัน 2 ลิตร และ เหล้าองุ่น 2 ลิตร
– คนพื้นเมืองหรือคนต่างด้าว ที่มาอาศัยกับคนอิสราเอลก็จะต้องทำตามกฏเดียวกันนี้ทุกคน
– เมื่อเก็บเกี่ยว ให้เอาข้าวผลแรกมาบดเป็นแป้ง มาทำขนมก้อนหนึ่งถวายเป็นเครื่องถวาย แด่พระเจ้า
2.เรื่องคนที่ทำผิดโดยไม่เจตนา
– หากประชาชนอิสราเอลทำผิดโดยไม่เจตนา โดยไม่ได้ทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า
ให้ชุมนุมชนทั้งหมดถวายโคหนุ่ม 1 ตัว เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว พร้อมกับธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา และถวายแพะผู้ 1 ตัว เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
– หากคนอิสราเอลคนหนึ่งคนใด ทำบาปโดยไม่เจตนา
ให้คนนั้นถวายแพะเมียอายุ 1 ปี เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
– คนพื้นเมืองหรือคนต่างด้าว ที่มาอาศัยกับคนอิสราเอลก็จะต้องทำตามกฏเดียวกันนี้ทุกคน
3.เรื่องคนที่ทำผิดอย่างจงใจ
– ผู้ที่จงใจทำผิด คนนั้นได้หมิ่นประมาทพระเจ้า เขาจะต้องถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของตน
ในช่วงที่คนอิสราเอลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
มีชายคนหนึ่งไปเก็บฟืนในวันสะบาโต
จึงถูกพามาหาโมเสส อาโรน และชุมนุมชนทั้งหมด
แล้วพระเจ้าสั่งโมเสส ให้ชุมนุมชนทั้งหมดต้องเอาหินขว้างเขาให้ตายที่นอกค่าย
ชุมนุมชนทั้งหมดก็ทำตามนั้น
แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
ให้คนอิสราเอลทำพู่ที่มุมของชายเสื้อคลุม และให้เอาด้ายสีฟ้าติดที่พู่ของแต่ละมุม
เพื่อจะระลึกถึงและจดจำพระบัญญัติทั้งหมดของพระเจ้าแล้วปฏิบัติตาม และเป็นคนบริสุทธิ์แด่พระเจ้า
1. หลังจากพระเจ้าบอกคนอิสราเอลว่า ไม่ต้องเข้าคานาอันก่อนในช่วงนี้ ในบทที่ 14 พอมาถึงบทที่ 15 พระเจ้าสั่งโมเสสเกี่ยวกับเรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆ เมื่อคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน
พระเจ้าทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้แล้วว่า คนอิสราเอลจะได้เข้าไปในแผ่นดินคานาอันอย่างแน่นอน
จึงได้สั่งโมเสสอย่างเจาะจงเเกี่ยวกับสิ่งที่คนอิสราเอลต้องทำเมื่อพวกเขาเข้าแผ่นดินคานาอันแล้ว
จากประเด็นนี้ทำให้เราเข้าใจชัดเจนว่า สำหรับพระเจ้าแล้ว ปัจจุบันและอนาคต ไม่แตกต่างกันเลย
พระองค์ทรงรู้ตอนจบตั้งแต่เริ่มต้น
ดังนั้นการฝากชีวิตของเราไว้กับพระองค์ ไว้วางใจในพระองค์ จึงเป็นการกระทำที่ฉลาดและมีปัญญาอย่างยิ่ง
2. ผู้ที่ทำผิดโดยไม่เจตนา อาจเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพราะความอ่อนแอของตน
พระเจ้าทรงพร้อมที่จะให้อภัยแก่เขา ช่วยให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เมื่อเราสำนึกบาปและกลับใจใหม่
แต่ผู้ที่จงใจทำผิด จงใจลบหลู่พระเจ้า ไม่สามารถได้รับการอภัย
เปรียบเสมือนกับ คนที่ได้รับรู้แล้วว่า
โดยทางพระเยซูคริสต์บาปของเขาสามารถได้รับการอภัยได้
เพียงแค่เขากลับใจใหม่ และสารภาพบาปต่อพระองค์
แต่เขายังไม่คิดจะกลับใจ จงใจไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง จงใจหาว่าพระเยซูพูดโกหก
แล้วคนเช่นนี้จะได้รับการอภัยได้อย่างไร?
3. การระลึกถึงและจดจำพระคำของพระเจ้าแล้วปฏิบัติตาม นั่นจะนำพระพรยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิตของเรา
การอ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ
การท่องจำพระคัมภีร์
และการฝึกปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้าอยู่เสมอ
เป็นสิ่งที่ผู้เชื่อทุกคนควรกระทำให้เป็นวิถีชีวิตของเรา
คำคม
“ พระเจ้าทรงสามารถรู้และควบคุม อดีต ปัจจุบบัน และอนาคต ”