ภาพรวม
- คนอิสราเอลบ่นต่อว่าโมเสส เพราะไม่มีน้ำดื่ม พระเจ้าให้โมเสสสั่งหินให้น้ำออกมา แต่โมเสสกลับตีหินแทน
ต่อมาอาโรนก็เสียชีวิต ใกล้เขตแดนของเอโดม
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/numbers20-84772
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กันดารวิถี บทที่ 20 เมื่อพระเจ้าทรงสั่งโมเสสและอาโรน เรื่องพิธีน้ำชำระมลทินแล้ว
หลายปีต่อมา (น่าจะเป็นปีที่ 40 หลังออกจากอียิปต์) ในเดือนที่ 1
คนอิสราเอลก็เดินทางมาถึงถิ่นทุรกันดารศิน พักอยู่ที่คาเดช
และมิเรียมสิ้นชีวิต แล้วถูกฝังไว้ที่นั่น
ที่นั่นประชาชนไม่มีน้ำ พวกเขาจึงประชุมกันต่อต้านโมเสสและอาโรน
กล่าวว่า ถ้าพวกเขาตายไปพร้อมกับคนที่กบฏ ใน กดว.16 ก็น่าจะดี
ทำไมโมเสสจึงพวกเขาออกจากอียิปต์ และนำมายังที่เลวทรามนี้?
แล้วโมเสสและอาโรนจึงไปที่ประตูพลับพลาแล้วซบหน้าลง
และพระสิริของพระเจ้าปรากฏแก่เขาทั้งหลาย
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
ให้ถือไม้เท้าและเรียกประชุมประชาชน
แล้วให้โมเสสและอาโรน บอกหินต่อหน้าประชาชนให้มันหลั่งน้ำออกมา
โมเสสกับอาโรนก็เรียกชุมนุมชนให้ไปพร้อมกันที่หิน
โมเสสพูดกับพวกเขาว่า
“เจ้าพวกกบฏจงฟัง จะให้เราเอาน้ำออกจากหินนี้ให้พวกเจ้าดื่มหรือ?”
โมเสสก็ยกมือขึ้นตีหินนั้น 2 ครั้งด้วยไม้เท้า
และน้ำก็ไหลออกมาอย่างมากมาย
ชุมนุมชนและสัตว์เลี้ยงของเขาก็ได้ดื่มกัน
น้ำนั้นจึงถูกเรียกว่า น้ำแห่งเมรีบาห์
พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า
เพราะพวกเขาทั้งสองไม่ได้เชื่อมั่นในพระเจ้า ที่จะถวายความศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้าต่อหน้าคนอิสราเอล
เพราะฉะนั้นพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้นำคนในที่ประชุมนี้ เข้าไปในแผ่นดินคานาอัน
ต่อมาขณะที่ยังอยู่ที่คาเดช โมเสสส่งผู้สื่อสารไปยังกษัตริย์ของเอโดม เพื่อขอผ่านเขตแดนของเอโดม ไปยังคานาอัน โดยสัญญาว่าจะเดินไปตามทางหลวงเท่านั้น จะไม่ผ่านไร่นาหรือสวนองุ่น จะไม่ดื่มน้ำจากบ่อของเอโดมเลย
แต่เอโดมไม่ยอมให้ผ่าน
แล้วเอโดมก็ออกมาต่อสู้กับคนอิสราเอลด้วยคนมากมาย
คนอิสราเอลจึงยกออกจากคาเดชมาถึงภูเขาโฮร์
แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนที่ภูเขาโฮร์ ที่ริมพรมแดนแผ่นดินเอโดม ว่า
อาโรนจะเสียชีวิตและจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินคานาอัน เพราะพวกเขาทั้งสองกบฏต่อคำสั่งของพระเจ้าที่น้ำแห่งเมรีบาห์
พระเจ้าให้อาโรนและเอเลอาซาร์ ลูกของเขา ขึ้นไปบนภูเขาโฮร์
แล้วให้อาโรนถอดชุดเสื้อตำแหน่งออก
แล้วสวมให้แก่เอเลอาซาร์
อาโรนก็สิ้นชีวิตที่นั่น
คนอิสราเอลทั้งหมดก็ร้องไห้ไว้ทุกข์ให้อาโรนอยู่ 30 วัน
1. ในบทนี้ น่าจะเป็นปีที่ 40 นับตั้งแต่ออกจากอียิปต์ เพราะเปรียบกับ กดว. 33:38 ที่กล่าวว่า
“และอาโรนปุโรหิตขึ้นไปยังภูเขาโฮร์ตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์และสิ้นชีวิตที่นั่น ในวันที่ 1 เดือนที่ 5 ปีที่40 นับตั้งแต่วันที่คนอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์”
ดังนั้น กดว.19 และ กดว.20 น่าจะห่างกันราว 37 ปี
37ปีผ่านไป คนอิสราเอลก็ยังคงบ่นต่อว่าโมเสสเหมือนเดิม
ทั้งที่พระเจ้าทรงเลี้ยงดูพวกเขามาตลอด 40 ปี
แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ได้ทำให้เขาเชื่อวางใจในพระเจ้า
สำหรับการกันดารน้ำที่กำลังประสบในคราวนี้ ได้เลย
วันนี้ ประสบการณ์ที่พระเจ้าช่วยเราในอดีตตลอดเวลาที่ผ่านมาก
เพียงพอหรือยัง ที่จะทำให้เรา ไว้วางใจในพระเจ้า สำหรับเหตุการณ์ในวันนี้
2.คาเดช คือ คาเดชบารเนีย (กดว. 32:8) ที่ที่โมเสสส่งคนให้ไปสอดแนมดูแผ่นดินคานาอัน
เมื่อ 38 ปีก่อน ณ ที่นี่ คนอิสราเอลเคยคิดว่า โมเสสไม่น่าพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์เลย
บัดนี้ พวกเขาก็ยังพูดเหมือนเดิม คิดเหมือนเดิม
เวลาที่พระเจ้าทรงใช้ เพื่อนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ ประมาณ 40 วัน
แต่เวลาที่ใช้ เพื่อนำอียิปต์ออกจากใจคนอิสราเอล นานกว่า 40 ปี
วันนี้ ในเมื่อเราตัดสินใจเดินติดตามพระเจ้าอย่างหมดหัวใจแล้ว
ใจของเรายังเอนเอียง ปรารถนาตามค่านิยมของโลกนี้อยู่หรือเปล่า?
3. เมื่อคนอิสราเอลบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรน เรื่องไม่มีน้ำดื่ม และใส่ร้ายป้ายสีโมเสสว่า หลอกพวกเขา นำพวกเขามาที่เลวร้ายเช่นนี้
ท่ามกลางการคิดกบฏของคนอิสราเอล พระเจ้าประสงค์ที่จะสำแดงพระเมตตาแก่เขา
จึงบอกให้โมเสส สั่งหินเพื่อให้น้ำออกมา ต่อหน้าพวกเขา
แต่โมเสสซึ่งกระทำในฐานะตัวแทนของพระเจ้า
กลับ ต่อว่าพวกเขา แล้วใช้ไม้เท้าตีหิน แทนที่จะสั่งหิน
ซึ่งเรื่องนี้ ดูเหมือนอาโรนจะเห็นชอบหรือมีส่วนร่วมด้วย
สังเกตจากการที่พระเจ้าทรงลงโทษ ทั้งโมเสสและอาโรน
เมื่อเราทำสิ่งใดในฐานะตัวแทนของพระเจ้า
การกระทำของเราเป็นการสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าให้ผู้อื่นได้เห็น
เราจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะกระทำตามการทรงนำของพระเจ้า
วันนี้ ขณะที่เราอยู่ในโลกนี้ เราเป็นตัวแทนของพระเจ้า ที่จะสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าแก่คนในโลกนี้
ดังนั้นพระเยซูจึงสั่งให้เราเป็นผู้ดีรอบคอบเหมือนอย่างพระบิดาของเราเป็นผู้ดีรอบคอบ(มธ. 5:48)
วันนี้ จะพูดอะไร จะทำอะไร จงระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังเป็นตัวแทนของพระเจ้า บนโลกนี้
4. เอโดม เป็นเชื้อสายของเอซาว ซึ่งเป็นพี่ชายของยาโคบ(อิสราเอล)
ดังนั้น คนอิสราเอล และ คนเอโดม จึงถือว่า เป็นพี่น้องกันก็ว่าได้
การที่คนเอโดมไม่ยอมให้คนอิสราเอล เดินผ่านประเทศของตน
ทำให้คนอิสราเอลต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่ง เพราะไม่อยากสู้รบกับคนเอโดมที่เป็นพี่น้องกัน
การไม่ยอมช่วยเหลือคนอิสราเอลในครั้งนี้ ได้นำการพิพากษามาถึงเอโดมในอนาคต
การไม่มีน้ำใจต่อพี่น้อง ดูเหมือนพระเจ้าทรงถือว่า เป็นเรื่องใหญ่มาก
วันนี้ เราได้สำแดงความรัก ความมีน้ำใจต่อพี่น้อง มากน้อยเพียงใด?
คำคม
“ การเชื่อฟังเพียงบางส่วน เป็นเหมือนการไม่เชื่อฟัง ”