ภาพรวม
- บุตรสาวของของเศโลเฟหัด ได้มาร้องเรียนต่อโมเสส ขอส่วนแบ่งในมรดกที่ดินที่เป็นของบิดาผู้ล่วงลับ
และพระเจ้าทรงบอกโมเสสถึงเรื่องการจากโลกนี้ไปของโมเสสที่กำลังจะมาถึง
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/numbers27-85812
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กันดารวิถี บทที่ 27 หลังจากที่โมเสสและเอเลอาซาร์ ได้นับประชากรตามคำสั่งของพระเจ้าแล้ว
บุตรหญิงของเศโลเฟหัด เผ่ามนัสเสห์ ได้แก่ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์ และทีรซาห์ ได้ มาเข้าพบ โมเสสและเอเลอาซาร์ปุโรหิต กล่าวว่า
พ่อของพวกเธอตายในถิ่นทุรกันดาร และท่านไม่มีลูกชาย
ทำไมจึงลบชื่อพ่อของเธอจากตระกูล เพราะเหตุที่ท่านไม่มีลูกชาย?
ขอโปรดให้มรดกแก่พวกเธอ ท่ามกลางพี่น้องของพ่อด้วย
โมเสสจึงนำเรื่องนี้ไปทูลถามพระเจ้า
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
ให้มอบกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นมรดกแก่พวกเธอ ท่ามกลางพี่น้องของพ่อของพวกเธอ และให้มรดกของพ่อตกทอดมาถึงพวกเธอ
จากนี้ไป ถ้าชายคนหนึ่งตาย
-ไม่มีบุตรชาย
ก็ให้มรดกของเขาตกทอดไปยังบุตรหญิงของเขา
– ถ้าเขาไม่มีบุตรหญิง
ก็ให้มรดกของเขาแก่พี่น้องของเขา
– ถ้าเขาไม่มีพี่น้อง
ก็ให้มรดกของเขาแก่พี่น้องบิดาของเขา
– ถ้าบิดาของเขาไม่มีพี่น้อง
ก็ให้มรดกแก่ญาติที่ถัดจากเขาไปในตระกูลของเขา
แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
ให้ขึ้นไปบนภูเขาอาบาริม แล้วมองดูแผ่นดินคานาอัน
แล้ว โมเสสก็จะจากโลกนี้ไป เหมือนอย่างอาโรน
โมเสสจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินนั้น
เพราะว่าโมเสสและอาโรน กบฏต่อถ้อยคำของพระเจ้า ที่เมรีบาห์
โมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า
ขอทรงแต่งตั้งชายคนหนึ่งให้ทำหน้าที่แทนโมเสส เพื่อว่าชุมนุมชนของพระเจ้าจะไม่เป็นดุจฝูงแกะที่ปราศจากผู้เลี้ยง
และพระเจ้าจึงให้โมเสสเรียกโยชูวามายืนต่อหน้าเอเลอาซาร์ปุโรหิตและต่อหน้าชุมนุมชนทั้งหมด แล้ววางมือบนเขา
แล้วมอบอำนาจของโมเสสแก่เขา เพื่อให้ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดจะเชื่อฟังเขา
แล้วโมเสสก็ทำตามทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาเขา
1. ตามปกติแล้ว มรดกที่ดินจะสืบทอดจากบิดาถึงบุตรชาย แต่ เศโลเฟหัดไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรสาว 5 คน พวกเธอจึงมาร้องเรียนเพื่อขอสิทธิ์รับมรดกที่ดินในสิทธิ์บิดาผู้ล่วงลับ
เมื่อพวกเธอกล้าขอ พระเจ้าก็พร้อมที่จะประทานให้
พระเจ้าไม่ได้ประทานแค่ตามที่พวกเธอขอเท่านั้น แต่ประทานมากยิ่งกว่านั้นอีก
คือจากนี้ไป ชายคนใดไม่มีบุตรชาย ก็ยังมีอีกหลายทอดที่จะรับมรดกของเขาได้
ให้เรามีใจกล้าที่จะเข้ามา ร้องทูลขอต่อพระเจ้า ผู้ทรงเมตตา พระองค์จะทรงโปรดประทานให้มากยิ่งกว่าที่เราทูลขอเสียอีก
เหมือนใน อฟ. 3:20 ที่กล่าวว่า “ขอให้พระเกียรติมีแด่พระองค์ผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งได้มากยิ่งกว่าที่เราทูลขอหรือคิด โดยฤทธานุภาพที่ทำกิจอยู่ภายในเรา”
พระองค์ประทานให้มากกว่าที่เราทูลขอเสียอีก
2. เรื่องบุตรสาวของเศโลเฟหัด น่าสนใจมาก
ขณะนั้นคนอิสราเอลยังอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ยังไม่ได้เข้าในแผ่นดินคานาอันเลย
จะเข้าได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ พวกเขาหลายคนคงลุ้นกันอยู่
แต่ผู้หญิงเหล่านั้น เชื่อมั่น ราวกับว่ามันได้เกิดขึ้นแล้ว
เดือดเนื้อร้อนใจ ว่า จะไม่ได้ที่ดินตามสิทธิ์ของพ่อผู้ล่วงลับ
จนพวกเธอต้องรวบรวมความกล้า ทำอะไรบางอย่าง
เนื่องจากผิดวิสัยที่สตรีจะมีปากมีเสียง ในข้อเสนอใดๆในชุมชนเวลานั้น
ทั้งหมดนี้ เกิดจากการที่พวกเธอเชื่อมั่นอย่างไม่สงสัยว่า
พระสัญญาของพระเจ้าจะเกิดขึ้นเป็นจริงอย่างแน่นอน
ผมเชื่อว่า นั่นเป็นอีกเหตุผลสำคัญ ที่พระเจ้าทรงสดับฟังคำเรียกร้องของพวกเธอ
วันนี้ สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ อาจจะยังไม่เกิดขึ้น
หรืออาจจะไม่มีวี่แวว ว่า จะเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำไป
แล้วเราจะมีท่าทีอย่างไรต่อพระสัญญานั้น
จงเรียนจากเหล่าบุตรสาวของเศโลเฟหัดเถิด
3. พระเจ้าให้โมเสส ขึ้นไปบนภูเขาอาบาริม เพื่อจะจากโลกนี้ไปที่นั่น เพราะภูเขาอาบาริมสามารถเห็นแผ่นดินคานาอันเกือบทั้งหมด เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในแผ่นดินโมอับ และอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลตาย
แม้โมเสสจะไม่ได้เข้าในแผ่นดินคานาอัน เนื่องจากการทำผิดบางอย่างของเขา
แต่พระเจ้าผู้พิพากษาอันเที่ยงธรรม ก็เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา
ทรงให้เขาได้เห็นดินแดนคานาอัน เพื่อเขาจะได้รู้ว่าพระเจ้าจะทรงรักษาสัญญา
สิ่งที่เขาทำมาตลอด 40 ปี จะไม่สูญเปล่าไป
สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาจะเกิดขึ้นเป็นจริงอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าบางครั้งตัวเราเองจะอ่อนแอ หรือผิดพลาดพลั้งไปมากสักเพียงใดก็ตาม
4. บทเรียนสำคัญจากลักษณะชีวิตของโมเสส สุดยอดผู้นำ ที่ปรากฏในบทนี้ ได้แก่
ก.โมเสสพึ่งพาพระเจ้าอย่างถ่อมใจ
– เมื่อพวกผู้หญิงซึ่งไม่ค่อยมีความสำคัญเหล่านั้นมาร้องเรียนต่อโมเสส
แทนที่โมเสส ซึ่งยุ่งวุ่นวายมากมายอยู่แล้ว จะไล่ตะเพิดไป
โมเสสกลับฟังพวกเธอ แล้วนำเรื่องของพวกเธอมาถามพระเจ้า
– โมเสสมีอะไรก็ถามพระเจ้าก่อนเสมอ
ข. โมเสสยอมจำนนต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า
– เมื่อพระเจ้าบอกว่า จะไม่ให้โมเสสเข้าแผ่นดินคานาอัน
โมเสสไม่เถียงหรือไม่ต่อรองสักคำเดียว
– โมเสสยอมรับการตัดสินของพระเจ้าเสมอ ถ้าพระเจ้าต้องการให้เป็นเช่นนั้น ขอให้เป็นไปตามนั้นเถิด
ค. โมเสสรักพระเจ้า สะท้อนออกมาเป็นรักประชากรของพระเจ้า
– เมื่อโมเสสกำลังจะหมดอำนาจลง เขาไม่หวงอำนาจเลย ยินดีเต็มใจปละปรารถนาให้พระเจ้า เลือกใครบางคนมาแทนเขา
เขาขอให้พระเจ้าเลือกคนมาแทนเขา ไม่ใช่เพื่อสิ่งที่เขาทำมามันจะได้คงอยู่สืบสานต่อไป
แต่ความสนใจของเขาอยู่ที่พระเจ้า
ที่เขาต้องการให้คนมาแทน ก็เพื่อประชาชนเหล่านี้ ซึ่งเป็นประชากรของพระเจ้า จะได้ไม่ปราศจากผู้เลี้ยง
เพราะเขารักพระเจ้า จึงสามารถรักประชาชนผู้ไม่น่ารักเหล่านี้ได้
– โมเสสรักคนของพระเจ้า เพราะเขารักพระเจ้า
ขอให้เราใช้ลักษณะชีวิตของโมเสสนี้ เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าเถิด
คำคม
“ พระสัญญาของพระเจ้า จะสำเร็จแน่นอน ”