ภาพรวม
- ทูตสวรรค์ 2 องค์ พาโลทออกจากเมืองโสโดม แล้วให้ไฟกำมะถันตกลงมา ทำลายเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์ และเมืองอื่นๆโดยรอบเสียสิ้น
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ปฐมกาล บทที่ 19 เมื่อทูตสวรรค์สององค์ เข้าในเมืองโสโดม ในเวลาเย็น
โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อเขาเห็นท่านทั้งสอง
เขาก็ลุกขึ้นไปต้อนรับและโน้มตัวลงหน้าซบดินคำนับ
จากนั้น ก็รบเร้าเชิญทั้งสองให้ไปพักที่บ้านของเขา
เมื่อเข้าไปในบ้านของเขาแล้ว โลทก็จัดงานเลี้ยงท่านทั้งสอง
ค่ำคืนนั้นพวกผู้ชายเมืองนั้น ทั้งหนุ่มและแก่ทั้งหมดจากทุกมุมเมืองพากันมาล้อมบ้านนั้นไว้
แล้ว สั่งให้โลทส่งบุรุษทั้งสองออกมาให้พวกเขา เพื่อจะได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา
โลทจึงขอร้องชาวเมือง อย่าให้ทำเช่นนั้น
เอาลูกสาว 2 คน ของโลทไปข่มขืนแทนก็ได้ แต่อย่าทำร้ายบุรุษทั้งสองนั้น
แต่ชาวเมืองไม่ยอม พวกนั้นผลักโลทอย่างแรง และพยายามที่จะพังประตู
ทูตสวรรค์ทั้งสองจึงดึงโลทเข้ามาในบ้านและทำให้พวกผู้ชายที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอดไปทุกคน
แล้วท่านทั้งสองจึงบอกโลท ให้นำญาติหรือคนของเขาทุกคน ออกไปจากเมืองโสโดม
เพราะทูตสวรรค์ทั้งสองกำลังจะทำลายเมืองนี้
โลทจึงออกไปพูดกับว่าที่ลูกเขยทั้งสอง พวกเขากลับหาว่าโลทล้อเล่น
พอรุ่งเช้า ทูตสวรรค์ทั้งสองจึงเร่งโลทให้รีบออกจากเมืองโสโดม แต่โลทยังรีรอ
ดังนั้นท่านทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง นำพวกเขาออกมาอยู่ที่นอกเมือง
แล้วพูดว่า
“หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังและอย่าหยุดที่ไหนในที่ลุ่มทั้งหมด หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกทำลาย”
โลทพูดว่า
“อย่าเลยเจ้านายของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่สามารถหนีไปที่เนินเขา เกรงว่าภัยพิบัตินั้นจะตามทัน
และข้าพเจ้าจะตายเสีย
ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ แล้วชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด”
ทูตสวรรค์พูดกับเขาว่า
“นี่แน่ะ เราอนุญาตเรื่องนี้ด้วย คือเราจะไม่ทำลายเมืองที่ท่านพูดถึงนั้นเสีย
เร็วเข้า หนีไปที่นั่น เพราะเราจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าท่านจะไปถึงที่นั่น”
เมืองนั้นชื่อว่า เมืองโศอาร์ โลทมาถึงเมืองนี้ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว
แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟ ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์และ เมืองต่างๆในลุ่มทั้งหมด แผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาเผา ชาวเมืองทั้งสิ้นก็ตายหมด
แต่ภรรยาของโลท มองกลับไป นางจึงกลายเป็นเสาเกลือ
เวลาเช้ามืด อับราฮัมออกไปยังที่ที่เขาคุยกัยพระเจ้า
มองลงไปทางเมืองต่างๆ ในที่ลุ่ม ก็เห็นเมืองเหล่านั้นถูกทำลายสิ้น
โลทก็ออกจากเมืองโศอาร์ และไปอาศัยอยู่ในถ้ำบนเนินเขากับบุตรหญิงสองคน
เพราะเขากลัวที่จะอยู่ในเมืองโศอาร์
ลูกสาวคนโตปรึกษากับน้องสาว ว่า พ่อแก่แล้วคงหาภรรยาใหม่ไม่ทันแล้ว และ พวกเราสองคนก็ไม่มีโอกาสแต่งงาน ดังนั้น ให้พวกเรามอมเหล้าพ่อ แล้วเขาไปหลับนอนกับพ่อกันดีกว่า เพื่อจะได้มีลูกหลานสืบตระกูลต่อไป
พวกเธอจึงได้ทำตามแผนดังกล่าว
จนในที่สุด พวกเธอทั้งสองก็ตั้งครรภ์กับบิดาของพวกเธอเอง
ลูกสาวคนโต คลอดบุตรชายคนหนึ่ง และตั้งชื่อว่าโมอับ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนโมอับ
ลูกสาวคนที่สอง คลอดบุตรชายคนหนึ่งด้วย และตั้งชื่อว่า เบน-อัมมี ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนอัมโมน
– โลทต้อนรับทูตสวรรค์อย่างดีที่สุด เพราะเขาสังเกตได้ว่า นี่เป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมา
แต่ชาวเมืองโสโดม ไม่รับรู้เลยว่า ทั้งสองท่านนั้น คือ ผู้ที่พระเจ้าส่งมา พวกเขาเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอกว่า ดูสง่างาม น่าฟัด
จุดจบของโลท และ ชาวเมือง จึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หากเรา สังเกตให้ดี เราจะเห็นสัญญาณจากพระเจ้า เพราะพระเจ้าประสงค์ให้เราเห็นอยู่แล้ว
เมื่อเราเห็น และตอบสนองอย่างถูกต้อง เราจะปลอดภัย
เหมือน ช่วง โควิด 19 กำลังระบาดนี้ หากเราสังเกตให้ดี เราจะรับรู้ว่า พระเจ้าประสงค์จะให้เราทำอะไร
– โลทนั่งที่ประตูเมือง ซึ่งมักเป็นตลาดและผู้อาวุโสในเมืองมักได้สิทธินั่งที่ประตูเมือง โลทน่าจะได้รับการยอมรับจากชาวเมืองระดับหนึ่ง
แต่พอราคะตัณหาเข้าครอบงำ ชาวเมืองก็ไม่สนใจการห้ามปรามของโลท
– เมื่อโลทไปบอกว่าที่ลูกเขย พวกเขาไม่เชื่อ จึงไม่ได้ออกขากเมือง
เป็นเหมือนเรื่องข่าวประเสริฐที่ถูกประกาศออกไป เพื่อให้คนทั้งหลายหนีออกจากไฟแห่งการพิพากษาของพระเจ้า ที่กำลังจะมาถึง
แต่เฉพาะคนที่เชื่อและทำตามเท่านั้น ที่สามารถรอดพ้นการพิพากษานี้ได้
– ทูตสวรรค์สั่งให้โลท หนีไปที่ภูเขา แต่ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดของโลท เขาคิดว่า เขาไม่สามารถหนีไปที่เนินเขา เขาควรหนีไปเมืองโศอาร์ ทูตสวรรค์ก็ใจดียินยอม แต่สุดท้ายโลทก็ไปที่เนินเขาอยู่ดี(ข้อ 30)
โลท คิดไปเองว่า วิธีของพระเจ้าไม่ปลอดภัย เขาต้องตายแน่ ถ้าใช้วิธีที่พระเจ้าบอก จึงคิดวิธีของตนเองขึ้นมา
ความจริงแล้ว ยังไงเขาก็จะปลอดภัย เพราะทูตสวรรค์ยังจะไม่ลงมือจนกว่าเขาจะถึงที่หมาย(ข้อ22) ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ภรรยาของโลทอาจไม่ต้องตายก็ได้ เพราะหนีไปไกลมากแล้ว ก่อนที่ไฟกำมะถันจะตกลงมา
วิธีของพระเจ้า หลายครั้งดูเหมือนช่างเสี่ยงอันตราย แต่จะปลอดภัย
วิธีของเรา ดูเหมือนจะปลอดภัยกว่ามาก แต่มักจะสร้างปัญหาตามมามากมาย
– ภรรยาของโลท แม้ตัวหนีออกมาจากหายนะแล้ว แต่จิตใจยังปักใจกับสิ่งนั้นอยู่
แล้วโดยใจที่ปักใจอยู่กับสิ่งที่กำลังจะพินาศนั้น จึงนำเธอไปสู่ความพินาศ
เหมือนใน รม. 8:6 ที่กล่าวว่า “ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนัง ก็คือความตาย และซึ่งปักใจอยู่กับพระวิญญาณ ก็คือชีวิตและสันติสุข”
– เพราะโลท ละทิ้งความเชื่อว่า พระเจ้าจะปกป้องเขาจากไฟกำมะถัน เขากลัวจึงหนีไปอยู่ในถ้ำ จนเกิดเรื่องน่าอับอายขึ้น
เพราะลูกสาวของโลท ละทิ้งความเชื่อว่า พระเจ้าจะอวยพรให้พวกเธอได้พบสามีที่ดี พวกเธอจึงจีดสินใจทำสิ่งที่น่าอับอาย
วันนี้ อย่าให้เราละทิ้งความเชื่อ ความไว้วางใจในพระเจ้า มิฉะนั้นเราจะพบกับความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่นำความน่าอับอายมาสู่ชีวิตได้
คำคม
“ ท่ามกลางมหันตภัย พระเจ้าจะทรงปกป้องผู้ที่เชื่อฟังพระองค์ให้ปลอดภัย ”