ภาพรวม
- พระเจ้าสั่งให้อับราฮัมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา ที่ภูเขาโมริยาห์ อับราฮัมก็เชื่อฟังทำตาม พระเจ้าให้ทูตสวรรค์มายับยั้งอับราฮัมไว้ก่อนที่จะลงมือฆ่าอิสอัค และทรงอวยพระพรแก่อับราฮัมผู้เชื่อฟัง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ปฐมกาล บทที่ 22 พระเจ้าทรงตรัสกับอับราฮัม ว่า
ให้พาอิสอัค ไปยังดินแดนโมริยาห์ และถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา บนภูเขาลูกหนึ่ง
อับราฮัมลุกขึ้นแต่เช้ามืด คนใช้ 2 คนกับอิสอัค พร้อมกับเตรียมฟืนสำหรับเครื่องบูชา แล้วออกเดินทางไป
พอถึงวันที่ 3 ก็มาถึงที่นั้น
อับราฮัมบอกคนใช้ทั้งสอง ให้รออยู่กับลา ส่วนเขากับอิสอัคจะไปนมัสการพระเจ้า แล้วจะกลับมา
ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเดินไป อิสอัคจึงถามว่า ไฟและฟืนก็พร้อมแล้ว แต่ไม่มีลูกแกะสำหรับเครื่องบูชา
อับราฮัมตอบว่า พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมให้เอง
เมื่อเขาทั้งสองมาถึงจุดหมาย อับราฮัมก็สร้างแท่นบูชาที่นั่น
เรียงฟืนเป็นระเบียบ แล้วมัดอิสอัควางไว้บนแท่นบูชา
แล้วอับราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าอิสอัค
แต่ทูตของพระเจ้า มาห้ามเขาไว้ กล่าวว่า
“อย่าแตะต้องเด็กนั้น อย่าทำอะไรเขาเลย
เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรงพระเจ้า
และเจ้าไม่ได้หวงบุตรชายคือบุตรชายคนเดียวของเจ้าไว้จากเรา”
อับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองดู เห็นมีแกะผู้ตัวหนึ่ง เขาของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ทึบ
อับราฮัมจึงจับแกะตัวนั้น มาถวายเป็นเครื่องบูชาแทนอิสอัค
อับราฮัมจึงเรียกสถานที่นั้นว่า ยาห์เวห์ยิเรห์ (พระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียม)
พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์ บอกกับอับราฮัม ว่า
เราจะอวยพรเจ้าแน่
– เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มาก ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล
– เราจะให้เชื้อสายของเจ้ามีชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหลาย
– เราจะให้ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า
แล้วอับราฮัม อิสอัค และคนใช้จึงกลับไปยังเบเออร์เชบา
ต่อมา อับราฮัม ได้ข่าวว่า นาโฮร์น้องชายของเขามีบุตรหลายคน หนึ่งในบุตรเหล่านั้น คือ เบธูเอล ผู้เป็นบิดาของเรเบคาห์ (ซึ่งต่อมาจะเป็นภรรยาของอิสอัค)
– พระเจ้าทดลองความเชื่อของอับราฮัม
ไม่ใช่เพราะว่าพระองค์ไม่ทราบว่า อับราฮัมมีความเชื่อมากแค่ไหน
แต่เพราะพระเจ้าประสงค์ให้ความเชื่อที่มีของอับราฮัมนั้น
สำแดงออกมาให้ปรากฏ
และเพราะความเชื่อนั้นเองอับราฮัมจึงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
ด้วยการพิสูจน์ให้โลกนี้ห็นว่า พระเจ้าที่เขาเชื่อใจนั้น ไว้ใจได้
วันนี้พระเจ้าทรงทราบว่าเรามีความเชื่อเท่าใด
และพระเจ้าประสงค์ความเชื่อเท่าที่เรามีอยู่นี้ ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
จึงทรงอนุญาตให้สถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเรา
เพื่อเราจะมีโอกาสใช้ความเชื่อที่มีอยู่นั้นออกมาถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ดังนั้นในเหตุการณ์ที่เราเผชิญอยู่นี้ ไม่น่ากลัวเลย
เพราะมันจะไม่เกินขนาดความเชื่อของเรา ที่จะผ่านมันไปได้
– อับราฮัม พาคนใช้ 2 คนและลา ไปด้วย
เพราะจำเป็นที่ต้องใช้ในการขนฟืนและเสบียง เดินทางนานถึง 3 วัน
แต่เมื่อมาใกล้ ที่จะถวายอิสอัค อับราฮัมละคนใช้ทั้งสองและลาเอาไว้
เพราะว่าบัดนี้ สิ่งที่เคยเป็นประโยชน์สนับสนุนอับราฮัมในการทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า
อาจกลายเป็นอุปสรรค ในการทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้
ถ้าตอนจะฆ่าอิสอัค คนใช้ทั้งสองมาห้ามไว้ หรือมาขอร้อง หรือมาเตือนสติ อับราฮัมอาจโลเล ได้
หรือ ถ้ามีลาอยู่ด้วย ใจมนุษย์ธรรมดาอย่างอับราฮัม อาจจะหวั่นไหว
“เอ…เราใช้ลาถวายแทนอิสอัคดีไหม?” ซึ่งเป็นการทำสิ่งที่ผิดเรื่องการถวายเครื่องบูชา
แต่ก็น่าสนใจเมื่อฟังเสียงอ้อนวอนของอิสอัค
บทเรียนสำคัญเรื่องการเชื่อฟังพระเจ้า ที่เราเรียนรู้จากอับราฮัม คือ
อย่าเปิดช่องใดๆเลย ที่จะทำให้เกิดการอะลุ่มอล่วยหรือประณีประนอม เพื่อจะไม่เชื่อฟัง
(เรื่องนี้ เอวา พลาดมาแล้ว ตอนยอมคุยกับงู ที่พูดดูถูกพระเจ้า)
– อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียม เขาจึงพบการจัดเตรียมของพระเจ้า
อับราฮัม ถวายทั้งหมดแด่พระเจ้า พระเจ้าทรงประทานให้ทั้งหมดที่เขาถวายนั้นให้แก่เขาแล้วขยายขึ้นอีกนับล้านเท่า
วันนี้ เรายอมเชื่อย่างสุดใจหรือไม่ว่า พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเรา?
วันนี้ เรายังหวงอะไรไว้ต่อพระเจ้า ไม่ยอมจำนนกับพระองค์?
– ก่อนที่อับราฮัมถวายอิสอัคแด่พระเจ้า พระเจ้าก็ทรงจัดเตรียมการเกิดของว่าที่ภรรยาอิสอัคไว้เรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่เราจะถวายสิ่งใดให้กับพระองค์ พระเจ้าได้เตรียมการอวยพรไว้สำหรับเราไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
คำคม
“ การยื่นมือถวายสิ่งใดแด่พระเจ้า แท้จริงเป็นการยื่นมือออกไปรับพระพรจากพระองค์ ”