ภาพรวม
- อับราฮัม ส่งคนใช้ที่ไว้ใจที่สุดไปยังเมโสโปเตเมีย เพื่อหาภรรยาให้แก่อิสอัค แล้วคนใช้นั้นได้นำเรเบคาห์กลับมาแต่งงานกับอิสอัค
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ปฐมกาล บทที่ 24 เมื่ออับราฮัม อายุมากแล้ว (ราว 140 ปี)
อับราฮัมเรียกคนใช้ที่มีอาวุโสที่สุดในบ้าน ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของเขา มา แล้วใช้ให้เขาไปหาภรรยาให้แก่อิสอัค โดยให้เขาสาบานในพระนามพระเจ้า ว่า
จะหาภรรยาให้อิสอัค จากหมู่ญาติของอับราฮัมเท่านั้น ไม่หาจากคนคะนาอัน
และไม่พาอิสอัคออกจากคะนาอัน ไปแต่งงานในต่างประเทศ
เพราะพระเจ้าทรงสัญญาว่า พระองค์จะมอบแผ่นดินนี้ให้แก่เชื้อสายของอับราฮัม
แต่ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมมากับเขา เขาก็จะพ้นจากคำสาบาน
คนใช้ก็สาบานต่ออับราฮัมตามนั้น
เขาจึงออกเดินทางไป พร้อมกับอูฐ 10 และ ของมีค่าต่างๆ พร้อมคนใช้จำนวนหนึ่ง ไปยังเมโสโปเตเมีย ดินแดนที่อับราฮัมเคยจากมา
เมื่อมาถึง ริมบ่อน้ำข้างนอกเมืองของนาโฮร์
ตอนนั้นเป็นเวลาเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้หญิงจะออกมาตักน้ำ
เขาอธิษฐาน ขอพระเจ้าสำแดงหญิงที่พระองค์เตรียมให้กับอิสอัค ขอให้เป็นหญิง คนที่เมื่อเขาพูดกับนางว่า ‘โปรดลดเหยือกของเธอลง ให้ฉันดื่มน้ำ’
แล้วคนนั้นจะตอบว่า ‘เชิญดื่มเถิดและดิฉันจะให้น้ำอูฐของท่านกินด้วย’
เขาอธิษฐานยังไม่ทันเสร็จ
เรเบคาห์ ก็แบกไหน้ำเดินมา แล้วลงไปที่น้ำพุเติมน้ำเต็มเหยือกแล้วก็ขึ้นมา
คนใช้นั้นเห็นนางงดงามมาก จึงวิ่งไปต้อนรับเธอ แล้วพูดว่า
“ขอน้ำจากเหยือกน้ำของเธอให้ฉันดื่มสักหน่อย”
เธอตอบว่า “นาย เชิญดื่มเถิด” แล้วเธอก็ให้เขาดื่ม
แล้ว เธอจึงว่า “ดิฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย”
เธอรีบเทน้ำในเหยือกของเธอใส่ราง
แล้ววิ่งไปตักน้ำที่บ่ออีก
เธอตักน้ำให้อูฐทั้งหมดของเขา
คนใช้นั้นเพ่งดูเธอเงียบๆ
เมื่ออูฐกินน้ำเสร็จแล้ว
คนใช้นั้นก็ให้ แหวนทองคำหนัก 6 กรัม (เกือบ 2 สลึง)
และกำไลข้อมือคู่หนึ่ง ทองหนัก 120 กรัม (ราว 7.5 บาท) แก่เธอ
และถามว่า เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร? บ้านของเธอมีที่ให้พักไหม?
จึงได้ความว่า เธอเป็น หลานสาวของนาโฮร์ น้องชายของอับราฮัม นั่นเอง
เรเบคาห์ก็วิ่งไปบอกคนในครอบครัว
ลาบันก็วิ่งไปหาคนใช้นั้นที่น้ำพุ
แล้วเชิญเขาเข้าไปที่บ้าน
แล้วลาบันจัดอาหารมาเลี้ยงเขา
แต่เขา ขอไม่ทานก่อน จนกว่าจะทำธุระให้เสร็จก่อน
เขาจึง แนะนำตัวเอง ว่า เป็นคนใช้ของอับราฮัม และเล่าให้พวกเขาฟังว่าพระเจ้าอวยพระพรให้อับราฮัมมั่งคั่งมากมายสักเพียงใด และอับราฮัมจะยกสมบัติทั้งหมดแก่อิสอัค
อับราฮัมจึงใช้เขา มาหาภรรยาให้อิสอัค จากที่นี่ เพราะไม่อยากให้อิสอัคแต่งงานกับหญิงคะนาอัน
แล้วคนใช้นั้นก็เล่าเรื่องราว ที่เขาได้พบกับเรเบคาห์ และมั่นใจว่าพระเจ้าเตรียมเธอให้แก่อิสอัค
ดังนั้น ถ้าลาบันและเบธูเอล เห็นชอบในการแต่งงานนี้ ขอกรุณาบอกมาเถิด ถ้ามิฉะนั้นเขาก็จะคงต้องจะหาผู้หญิงคนอื่นแทน
ลาบันและเบธูเอลจึงตอบว่า “สิ่งนี้มาจากพระเจ้า …เชิญพาเรเบคาห์ไปแต่งงานกับอิสอัคเถิด…”
คนใช้นั้นจึงนำเอาของอันมีค่า ที่เตรียมมามอบให้แก่เรเบคาห์ , พี่ชายและมารดาของเธอด้วย
แล้วพวกเขาก็รับประทานและดื่ม และค้างคืนที่นั่น
วันรุ่งขึ้นคนใช้นั้นก็จะรีบพาเรเบคาห์กลับไป แต่พี่ชายและมารดา อยากให้เธออยู่ก่อนอีกสัก 10 วัน
แต่คนใช้นั้นก็ยินกรานอยากจะรีบกลับ ดังนั้นพวกเขาจึงถามเรเบคาห์
เธอตอบว่ายินดีไป
ดังนั้นคนใช้ของอับราฮัมจึงพา เรเบคาห์กับพี่เลี้ยงของเธอ(เดโบราห์ ปฐก.35:8) กลับไปคะนาอัน
เมื่อมาถึง เรเบคาห์ก็ได้พบกับอิสอัค
อิสอัคก็รับเธอเป็นภรรยา และรักเธอ
อิสอัคจึงได้รับความเล้าโลมใจ โดยเรเบคาห์ ภายหลังที่แม่ของเขาสิ้นชีวิตแล้ว
– เมื่ออับราฮัมจะเลือกคนที่จะมาทำงานที่สำคัญที่สุด เขาเลือกคนที่เขาไว้ใจที่สุด ให้ทำงานนั้น
วันนี้ อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา?
แล้ว ในกรณีที่เราไม่สามารถทำเองได้ เรามอบให้ใครจัดการสิ่งนั้น?
– อับราฮัมเชื่อในสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญา ดังนั้นเขาจึงหาภรรยาให้อิสอัคแบบ สอดคล้องกับคำสัญญาของพระเจ้า
คือ ไม่ได้มาจากเชื้อสายของคะนาอัน และ อิสอัคต้องไม่ไปกลับเมโสโปเตเมีย ต้องอยู่ในคะนาอันเพื่อรับตามพระสัญญา
วันนี้เราเชื่อในพระสัญญาที่ทรงสัญญาไว้กับเราหรือไม่?
ถ้าเชื่อ จงเลือกตัดสินใจ ให้สอดคล้องกับความเชื่อนั้นเถิด
– เมื่อคนใช้นั้น จะตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุด สิ่งที่เขาทำคือ อธิษฐาน และนั่นทำให้เขาตัดสินใจได้อย่างไม่ผิดพลาด
วันนี้ หากเราต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ เราทำอย่างไร?
– ก่อนออกเดินทาง คนใช้นั้นเห็นปัญหามากมาย เช่น จะไปหาผู้หญิงคนไหนก็ไม่รู้ และ ต่อให้พบแล้วเธอจะยอมมาด้วยหรือ และ ต่อให้เธอยอมมาแล้วพี่แม่พี่น้องจะยอมปล่อยให้มากับใครไม่รู้อย่างนั้นหรือ
แต่เมื่อไปถึงหน้างานจริงๆ เมื่อเป็นแผนการจัดเตรียมของพระเจ้า ทุกอย่างง่ายดายกว่าที่คิดมาก และบรรดาความกังวลทั้งหมดของเขาแทบไม่ได้เกิดขึ้นจริงเลย
วันนี้ เราอาจจะกำลังกลัวหรือกังวลไปเกินกว่าความเป็นจริง เพราะเมื่อเราพึ่งพาพระเจ้า สิ่งที่เรากังวลจำนวนมากจะไม่เกิดขึ้น และไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นจริงก็จะกลายเป็นผลดีแก่เราอยู่ดี
– อับราฮัมยอมถวายอิสอัคแด่พระเจ้า (ปฐก.22) แล้วดูสิอะไรเกิดขึ้นกับอิสอัค
อิสอัคช่างเป็นชายที่มีความสุข อะไรเช่นนี้
>> แม้แม่ของเขาจะอายุมากแล้วเมื่อมีเขา ก็ยังได้อยู่กับเขานานถึง 37 ปี
>> เมื่อแม่ที่รักเขาจากไป เขาก็ยังมีพ่อที่รักเขาอย่างยิ่งอยู่ด้วย
>> ก่อนพ่อของเขาจะจากไป เขาก็มีภรรยาแสนสวยที่เขารักและรักเขาอยู่เคียงข้างเขา
>> แล้วเมื่อพ่อจากไป ทรัพย์สมบัติมหาศาลทั้งหมดของพ่อ ได้ตกเป็นของเขา
เมื่อเรายอมถวายสิ่งใดหรือคนใด แด่พระเจ้า อย่างจริงใจ สิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งนั้นหรือคนนั้นจะดีเลิศเสมอ
คำคม
“ พระเจ้าจะอวยพระพรแก่สิ่งที่เราถวายแด่พระองค์เสมอ ”