ภาพรวม
- ยาโคบส่งคนใช้และครอบครัวไปพบเอซาวก่อน ส่วนตัวเขาอยู่ที่เปนูเอล และที่นั่นเขาได้ปล้ำสู้กับทูตสวรรค์และได้รับการอวยพร
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ปฐมกาล บทที่ 32 ขณะที่ ยาโคบกำลังเดินทางกลับไปยังคะนาอัน ก็มีเหล่าทูตสวรรค์มาพบเขา
ยาโคบจึงเรียกที่นั่นว่า “มาหะนาอิม” (กองทัพสองกองทัพ)
จากนั้นยาโคบส่งหลายคนไปหาเอซาว เพื่อบอกเขาว่า ยาโคบผู้รับใช้ของเขา ได้กลับมาจาก การอยู่กับลาบัน มาหาเขาแล้ว
คนเหล่านั้นกลับมารายงานยาโคบ ว่า เอซาวกำลังจะมาพบยาโคบ พร้อมกับผู้ชาย 400 คน
ยาโคบจึงกลัวและทุกข์ใจยิ่งนัก
ยาโคบอธิษฐาน ต่อพระเจ้าของอับราฮัม และพระเจ้าของอิสอัค ว่า
– เขาได้ทำตามที่พระองค์ทรงสั่ง คือกลับมาที่คะนาอัน
– เขารู้ตัวดี ไม่สมควรจะรับความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์แม้เล็กน้อยที่สุด
– เขาสำนึกพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทรงอวยพระพรแก่เขามากมาย ตอนไปเขามีแต่ไม้เท้า และเดี๋ยวนี้เขามีมากมาย
– เขาขอพระองค์ทรงช่วยกู้เขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเอซาว
– เขาบอกความกลัวของเขาต่อพระเจ้า
– เขาระลึกถึงพระสัญญาของพระเจ้า ว่า พระองค์จะอวยพรเขา
ยาโคบแบ่งคนที่มาด้วย และฝูงแพะแกะ ฝูงโค ฝูงอูฐ ออกเป็นกลุ่มๆ
แล้วทยอยส่งไปพบกับเอซาว เพื่อว่าถ้าเอซาวโกรธแล้วเริ่มฆ่าพวกของยาโคบ กลุ่มที่ตามมาจะได้หนีทัน
ยาโคบได้ส่งของขวัญไปให้เอซาว คือ
– แพะตัวเมีย 200 ตัว
– แพะตัวผู้ 20 ตัว
– แกะตัวเมีย 200 ตัว
– แกะตัวผู้ 20 ตัว
– อูฐแม่ลูกอ่อน 30 ตัว
– ลูกโคตัวเมีย 40 ตัว
– โคตัวผู้ 10 ตัว
– ลาตัวเมีย 20 ตัว
– ลาตัวผู้ 10 ตัว
รวมเป็น 550 ตัว
แล้วในตอนกลางคืน ยาโคบก็ส่งภรรยาและลูกๆ พร้อมทรัพย์สมบัติทั้งหมดข้ามแม่น้ำยับบอกไป
ยาโคบพักอยู่ที่เดิม
คืนนั้นเอง มีบุรุษผู้หนึ่งมาปล้ำกับเขาจนรุ่งสาง
เมื่อบุรุษผู้นั้น แตะที่ข้อต่อสะโพกของยาโคบ ขณะที่ปล้ำสู้กัน
ข้อต่อสะโพกของยาโคบก็เคลื่อน
บุรุษนั้นจึงว่า
“ปล่อยเราไปเถิดเพราะใกล้สว่างแล้ว”
แต่ยาโคบตอบว่า
“ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า”
บุรุษผู้นั้นจึงอวยพรยาโคบ ด้วยการเปลี่ยนชื่อให้เขา จาก ยาโคบ(ผู้จับส้นเท้า) เป็น อิสราเอล(ผู้ปล้ำสู้กับพระเจ้า) แล้วก็อวยพรเขา
ยาโคบจึงเรียกสถานที่นั้นว่า เปนีเอล (พระพักตร์พระเจ้า)
เมื่อออกจากที่นั้นมา ยาโคบก็เดินโขยกเขยกเพราะเจ็บสะโพก
ดังนั้นคนอิสราเอลจึงไม่กินเส้นเอ็นที่สะโพก จนทุกวันนี้
– เมื่อยาโคบกำลังจะเผชิญแรงกดดันครั้งสำคัญ พระเจ้าได้ส่งเหล่าทูตสวรรต์มาพบเขา เพื่อหนุนใจเขาก่อน พบการทดสอบครั้งสำคัญ
พระเจ้ามักจะจัดเตรียมการหนุนใจ การเสริมกำลังให้แก่เรา ทั้งก่อนและหลังการทดลองต่างๆในชีวิต
และในขณะที่ถูกทดลองนั้น พระองค์เองที่สถิตกับเราอยู่เคียงข้างเราอีกด้วย
– เอซาวมาพร้อมกับชาย 400 คน เรื่องนี้มองในสายตาของมนุษย์เป็นเรื่องร้าย เป็นอันตราย
แต่เราทราบความจริงในพระคัมภีร์แล้วว่า สุดท้าย มันไม่ใช่อันตรายอย่างที่คิดเลย
เมื่อปัญหากำลังจะเกิดขึ้นกับเรา เรามักมองมันใหญ่โตกว่าที่ควรจะเป็นอยู่เสมอ
แต่โดยความเชื่อ จะทำให้มันเล็กลงได้
– คำอธิษฐานของยาโคบ : ระลึกถึงพระคุณของพระเจ้า รู้ตัวว่าตนไม่สมควร ยอมรับความอ่อนแอของตน ร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ยึดมั่นในพระสัญญาของพระองค์
– การวางแผนของยาโคบ ทั้งการส่งของกำนัลไปมากมาย ทั้งการส่งคนไปเสี่ยงตายก่อนหน้าเขา
ล้วนแต่เป็นการพยายามเอาตัวรอดตามกำลัง ตามสติปัญญาของของตนเอง
แต่การคลี่คลายสถานการณ์จริงๆ กลับไม่ได้อยู่ที่แผนเหล่านี้
แต่อยู่ที่ การได้พบกับพระเจ้า
วันนี้ การคลี่คลายสถานการณ์ของเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสติปัญญาหรือความสามารถของเรา แต่อยู่ที่การได้พบกับพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์ในวันนี้
– ทูตสวรรค์ที่มาปล้ำสู้กับยาโคบ แน่นอนสามารถชนะยาโคบได้อย่างสบาย แต่ที่ต้องปล้ำสู้กันทั้งคืน เพราะพระเจ้าต้องการสอนยาโคบบางอย่าง
เป็นเหมือน พ่อที่เล่นต่อสู้กับลูกน้อย ดูเหมือนพ่อเอาชนะเจ้าหนูน้อยนั่นไม่ได้สักที ไม่ใช่เพราะเด็กน้อยแข็งแรงกว่า แต่เพราะพ่อไม่อยากเอาชนะ เพื่อให้เจ้าหนูน้อยได้รับอะไรบางอย่าง
สิ่งสำคัญที่ยาโคบได้รับในคืนนั้น คือ ได้รับการอวยพระพรจากพระเจ้า เพราะเขาหิวกระหาย ไม่ย่อท้อ เพื่อจะได้รับการอวยพรจากพระเจ้า
วันนี้ ถ้าเราหิวกระหายมากพอ เราจะมีประสบการณ์กับพระเจ้ามากขึ้นอย่างแน่นอน
คำคม
“ สิ่งที่น่าปรารถนาที่สุดสำหรับมนุษย์ คือ การได้อยู่จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า ”