ภาพรวม
- โยเซฟเปิดเผยตนเองให้พี่น้องได้รับรู้ แล้วยกโทษให้แก่พวกพี่ๆที่ขายเขามาเป็นทาสในอียิปต์ แล้วฟาโรห์ก็ส่งรถไปรับครอบครัวของยาโคบเข้ามาอาศัยในอียิปต์
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ปฐมกาล บทที่ 45 เมื่อโยเซฟเห็นพวกพี่ๆ ยอมรับผิดเพื่อช่วยเบนยามิน
โยเซฟจึงกลั้นน้ำตาไม่ได้อีกต่อไป
จึงสั่ง ให้ทุกคนออกไปให้หมด นอกจากพวกพี่น้อง
แล้วโยเซฟก็ร้องไห้เสียงดัง
จากนั้นก็เปิดเผยตัวเองให้พวกพี่น้องได้รู้
พวกเขาตกใจกลัวมาก
โยเซฟจึงปลอบใจพวกพี่ๆว่า อย่าเสียใจไปเลย อย่าโกรธตัวเองที่ขายโยเซฟมาที่อียิปต์
เพราะว่านี่เป็นแผนการของพระเจ้า เพื่อจะได้ช่วยชีวิตของคนในครอบครัว และผู้คนมากมาย
ดังนั้น พวกพี่ๆไม่ใช่เป็นผู้ให้โยเซฟมาที่นี่ แต่พระเจ้าทรงให้มา
โยเซฟจึงบอกให้พวกพี่ๆรีบกลับไปหายาโคบ
เล่าให้เขาฟังถึงยศศักดิ์ทั้งหมดที่โยเซฟมีอยู่ในอียิปต์
แล้วรีบรับยาโคบและครอบครัวมาที่อียิปต์
เพราะกันดารอาหาร ผ่านมา 2 ปีแล้วก็จริง
ต่จะเป็นต่อไปอีก 5 ปี
โยเซฟและเบนยามิน ก็กอดคอกันร้องไห้
โยเซฟจึงจูบพี่ชายทั้งหมดและร้องไห้
แล้วพี่น้องก็พูดคุยกับโยเซฟ
ต่อมาเมื่อฟาโรห์กับข้าราชการ ทราบว่าพี่น้องของโยเซฟมาที่อียิปต์ก็พากันยินดี
ฟาโรห์จึงสั่งให้ นำของมากมายเอาของบรรทุกบนหลังสัตว์กลับไปดินแดนคานาอัน
พร้อมกับรถม้าไป เพื่อให้ไปพาพ่อของโยเซฟและครอบครัว มาที่อียิปต์
ฟาโรห์จะดูแลพวกเขาอย่างดี
โยเซฟให้เสื้อแก่พี่ๆคนละชุด แต่ให้เงินแก่เบนยามิน 300 แผ่นกับเสื้อ 5 ชุด
โยเซฟฝากของต่อไปนี้ให้ยาโคบ
– ลา 10 ตัวบรรทุกของดีที่สุดในอียิปต์
– ลาตัวเมีย 10 ตัวบรรทุกข้าว ขนมปัง และเสบียงอาหาร
เมื่อพวกลูกๆของยาโคบกลับมาถึงบิดา
ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ยาโคยฟัง
ยาโคบงงงันเพราะไม่เชื่อพวกเขา
แต่ยาโคบเมื่อเห็นสิ่งที่โยเซฟส่งมา
เขาก็เชื่อและจิตใจของเขาก็ฟื้นแช่มชื่นขึ้น
– โยเซฟมองว่า ความทุกข์ยากลำบากต่างๆที่เขาพบเจอ เมื่อถูกพี่ๆขายมาเป็นทาสในอียิปต์นั้น เป็นไปตามแผนการอันดีเลิศของพระเจ้า
ด้วยท่าทีเช่นนี้ ทำให้เขาไม่มีความขมขื่นกับสถานการณ์ หรือผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา
วันนี้ หากเรายอมจำนนต่ออำนาจอธิปไตยของพระเจ้า
ยอมเชื่อใจว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหรือกำลังเกิดขึ้น กับเรานั้น
อยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า
จะทำให้เราหลุดพ้นจากความเคียดแค้น ขมขื่นใจ กับบุคคลใดๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราได้
– โยเซฟตั้งใจจะรับพ่อและครอบครัวมาอียิปต์อยู่แล้ว
แต่ปรากฏว่า ก่อนที่โยเซฟจะทำอะไร
ฟาโรห์ก็สั่งการเสียแล้ว ให้พาพ่อและครอบครัวของโยเซฟมาอยู่ที่อียิปต์
เมื่อชีวิตของเราดำเนินอย่างถูกต้องตามทางของพระเจ้า
สิ่งที่เราปรารถนานั้น พระเจ้าจะทรงดลใจให้มีคนนำมาให้เราเอง
– ก่อนหน้านี้ยาโคบ อาจจะหมดหวังกับพระสัญญาของพระเจ้าไปแล้วก็เป็นได้
ที่พระเจ้าเคยสํญญาว่า เขาจะได้รับพระพรมากมาย และเชื้อสายของเขาจะได้ครอบครองดินแดนคานาอัน
อาจคิดว่า
“นี่หรือได้รับพระพร ลูกสุดที่รักก็มาตายไปก่อนเวลาอันควร”
“ครอบครองดินอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์เนี่ยนะ ดูสิ ผึ้งสักตัวยังไม่มีเลย มีแต่ความแห้งแล้งกันดาร เหมือนถูกสาป”
แต่บัดนี้ เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า ความหวังอันแช่มชื่นกลับมาสู่เขาอีกครั้ง
ลูกสุดที่รักของเขายังไม่ตาย และได้เป็นใหญ่เป็นโต และจะนำสมบัติมาให้มากมาย
สำหรับสายตาของมนุษบ์ บางครั้งดูเหมือน จะสิ้นหวังแล้ว พระสัญญาของพระเจ้าคงไม่เป็นจริงแล้ว
แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน พระเจ้าก็ยังคงจะรักษาสัญญาอยู่ดี
สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ จะเกิดขึ้นเป็นจริง
– พระเจ้าทรงอวยพระพรอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ให้ร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติและฝูงสัตว์มากมาย
คิดแบบผิวเผิน ดูเหมือนว่า ใช่แล้ว สิ่งเหล่านี้แหละที่จะเพิ่มพูนมากขึ้นกว่านี้อีกแล้วพระสัญญาของพระเจ้าจะเป็นจริง
แต่ความจริงแตกต่างจากนั้นไปอย่างสิ้นเชิง
ยาโคบและครอบครัวและทรัพย์สมบัติทั้งหมด กำลังเข้าไปในอียิปต์
แล้วจากนี้ไปอีก 400 ปี ของที่เป็นของเขาทั้งหมดจะถูกพวกอียิปต์ยึดไปทั้งหมด
แล้วพวกเขาเอง จะตกเป็นทาสรับใช้คนอียิปต์ถึง 400 ปี
สิ้นเนื้อประดาตัว
แล้ว เมื่อนั้นแหละพร้อมแล้ว ที่พระสัญญาของพระเจ้าจะสำเร็จเป็นจริงสำหรับเชื้อสายของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
พระเจ้าทรงทำ ในยามที่มนุษย์บอกว่า เวลานั้นเป็นไปไม่ได้เลย และเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะที่สุด
คำคม
“ ทุกสิ่งที่เกิดกับเรานั้น พระเจ้าทรงมีแผนดีเลิศเกินความเข้าใจของเรา ”