ภาพรวม
- คนอิสราเอลละทิ้งพระเจ้า พวกเขาจึงพ่ายแพ้ต่อศัตรู พวกเขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระองค์ทรงเมตตาพวกเขา ส่งผู้วินิจฉัยมาช่วยพวกเขา แล้วพวกเขาก็ละทิ้งพระองค์อีก
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/judges02-144169
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ผู้วินิจฉัย บทที่ 2 เมื่อคนอิสราเอลบุกเข้ายึดครองดินแดนต่างๆในแผ่นดินคานาอัน แต่ไม่ขับไล่คนในแผ่นดินนั้นออกไป
ทูตของพระเจ้าจากกิลกาล ได้มาถึงโบคิม แล้วกล่าวว่า
พระเจ้าได้นำคนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ เข้ามายังแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้
พระเจ้าทรงทำตามพันธสัญญาทั้งสิ้น
และทรงห้ามไม่ให้คนอิสราเอลทำพันธสัญญากับชาวแผ่นดินนี้ และให้ทำลายแท่นบูชาของพวกเขาเสีย
แต่คนอิสราเอลกลับไม่เชื่อฟังพระเจ้า
ดังนั้นพระเจ้าจะไม่ช่วยคนอิสราเอลขับไล่เขาเหล่านั้นออกไปให้พ้นหน้าแล้ว
เขาเหล่านั้นจะเป็นหอกข้างแคร่ของคนอิสราเอล
และบรรดาพระของเขาเหล่านั้นจะเป็นบ่วงดักคนอิสราเอล
เมื่อคนอิสราเอลทั้งปวงได้ยินแล้ว ประชาชนก็ส่งเสียงร้องไห้
และถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้าที่นั่น
และเรียกที่นั่นว่า โบคิม แปลว่า ผู้ร้องไห้
(ชื่อเดิมของสถานที่นี้ น่าจะเป็น ชิโลห์ ที่ตั้งของพลับพลา ยชว. 19:51 )
ช่วงที่โยชูวา และพวกผู้ใหญ่ที่ได้เห็นพระราชกิจยิ่งใหญ่ทั้งสิ้นของพระเจ้า ซึ่งได้ทรงทำเพื่ออิสราเอล มีชีวิตอยู่ คนอิสราเอลได้ปรนนิบัติพระเจ้า
แต่เมื่อคนเหล่านี้ตายไปหมดแล้ว
คนอิสราเอลรุ่นใหม่ ก็ไม่รู้จักพระเจ้า และไม่รู้เรื่องพระราชกิจที่ทรงทำเพื่ออิสราเอล
คนอิสราเอลทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า และปรนนิบัติบรรดาพระบาอัลและพระอัชทาโรท
พวกเขาละทิ้งพระเจ้า ไปติดตามพระอื่น ทำให้พระเจ้าทรงกริ้ว
ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงทำให้พวกเขาไม่สามารถต่อต้านศัตรูได้
ดังที่พระเจ้าทรงปฏิญาณไว้กับพวกเขา
และพวกเขาก็เป็นทุกข์ยิ่งนัก
แล้วพระเจ้าทรงให้เกิดผู้วินิจฉัย มาช่วยพวกเขาให้พ้นมือศัตรู
เพราะพระยาห์เวห์ทรงสงสารพวกเขา เมื่อทรงฟังเสียงคร่ำครวญของพวกเขา
แต่เมื่อผู้วินิจฉัยนั้นสิ้นชีวิต
ไม่ช้าเขาก็หันไปจากพระเจ้า ไปหาพระอื่นอีก
พระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล
และพระองค์ตรัสว่า
เพราะชนชาตินี้ได้ละเมิดพันธสัญญาและไม่ยอมฟังเสียงของพระเจ้า
ดังนั้นพระเจ้าจะไม่ขับไล่บรรดาประชาชาติ ไปจากพวกเขาอีกต่อไป
เพื่อพระเจ้าจะใช้ประชาชาติเหล่านั้นทดสอบคนอิสราเอล ว่า
พวกเขาจะดำเนินตามทางของพระเจ้าหรือไม่
1. พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ แต่คนอิสราเอลกลับผิดสัญญา
พระเจ้าจึงทำตามสิ่งที่พระองค์ได้ปฏิญาณไว้ คือไม่ช่วยคนอิสราเอลให้สามารถรบชนะศัตรู
ก่อนหน้านี้คนอิสราเอลรบชนะศัตรูเรื่อยมา โดยการช่วยเหลือของพระเจ้า
แต่พวกเขา เข้าใจผิดคิดว่าเพราะว่าพวกเขาเก่งกว่าศัตรู
เมื่อพระเจ้าเลิกช่วยพวกเขา พวกเขาจึงรู้ความจริง ว่า
แท้จริงแล้ว พวกเขาไม่อาจต่อกรกับศัตรูได้เลย หากปราศจากพระเจ้า
ที่เรามีวันนี้ได้เพราะพระเจ้า อย่าให้เราลืมตัวและถอยห่างไปจากพระองค์
2. ทั้งที่คนอิสราเอลทำผิดต่อพระเจ้าก่อน
แต่พอพวกเขาตกที่นั่งลำบาก แล้วร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
พระเจ้าก็ยังคงเมตตาพวกเขาอยู่ดี โดยส่งผู้วินิจฉัยมาช่วยพวกเขา
วันนี้ ไม่ว่าเราผิดพลาดพลั้งไปสักเพียงใด
หากเรากลับมาหาพระเจ้าด้วยจริงใจ อย่างถ่อมใจ
พระองค์จะทรงโปรดช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน
3. เมื่อคนอิสราเอลยังคงดื้อรั้น ละทิ้งพระเจ้าต่อไป ไม่ว่าพระองค์จะเมตตาพวกเขาสักเพียงใด
พวกเขาจึงก้าวเข้าไปอยู่ในอีกสถานการณ์หนึ่ง คือ
มีคนต่างชาติและพระต่างด้าว เป็นตัวทดสอบพวกเขา
เพื่อให้พวกเขาพิสูจน์ตนเองว่า พวกเขากลับใจจริงๆ พวกเขาเดินในทางที่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าแต่พระองค์เดียว
โดยปกติพระเจ้าจะปกป้องเราให้พ้นจากการทดลอง เหมือนพระเจ้าบอกคนอิสราเอลให้ขับไล่คนคานาอันออกไปให้หมด
แต่หากเพราะความดื้อดึงของเราหรือความบาปที่เราทำ นำพาเรา วันนี้มาอยู่ในสภาวะที่หลีกจากการทดลองไม่ได้แล้ว
ก็ให้รู้เถิดว่า การทดลองนั้น จะเป็นบทพิสูจน์ความรักที่เรามีต่อพระเจ้า
ว่า ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ฉันยังจะเลือกพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์
คำคม
“ สิ่งที่เรากำลังเผชิญในวันนี้ เป็นบทพิสูจน์ความรักที่เรามีต่อพระเจ้า ”