ภาพรวม
- แม่ของมีคาห์ สร้างรูปเคารพให้แก่มีคาห์ เขาจึงไปจ้างคนเลวีคนหนึ่งมาเป็นปุโรหิตประจำบ้านของเขา
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ผู้วินิจฉัย บทที่ 17 หลังจากเรื่องของแซมสันแล้ว ผู้เขียนพระธรรมผู้วินิจฉัยได้บันทึกอีกเรื่องหนึ่งต่อจากแซมสัน
มีชายคนหนึ่ง ชื่อ มีคาห์ เป็นชาวเทือกเขาเอฟราอิม
วันหนึ่งเขาได้ขโมยเงินของแม่ไป 1,100 แผ่น
แม่ของเขา ไม่ทราบว่าเป็นเขา จึงได้แช่งสาปคนที่เอาไป
ต่อมาเมื่อแม่ทราบ และเขาเอาเงินมาคืน
แต่แม่ต้องการถวายแด่พระยาห์เวห์ เพื่อมีคาห์
นางจึงนำเงิน 200 แผ่นมอบให้ช่างเงิน ให้ทำเป็นรูปแกะสลักและรูปหล่อโลหะ
แล้ววางรูปนั้นอยู่ในบ้านของมีคาห์
ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ทุกคนก็ทำตามที่ตนเองเห็นชอบ
มีคนเลวี คนหนึ่ง จากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์
เดินทางผ่านมาถึงบ้านของมีคาห์
มีคาห์จึงเชิญเขา ให้มาเป็นบิดาและปุโรหิตของมีคาห์ โดยสัญญาว่าจะให้เงินเขาปีละ 10 แผ่น ให้เสื้อผ้าสำรับหนึ่ง และอาหารด้วย
คนเลวีนั้นก็พอใจที่จะอยู่กับมีคาห์
และคนเลวีก็เป็นเหมือนลูกคนหนึ่งของเขา
มีคาห์ก็แต่งตั้งคนนั้น ให้เป็นปุโรหิตของเขา
และอยู่ในบ้านของเขา
มีคาห์กล่าวว่า
“บัดนี้ข้าพเจ้าทราบแล้วว่าพระยาห์เวห์จะทรงดีต่อข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีเลวีคนหนึ่งเป็นปุโรหิต”
1. แม่ของมีคาห์ เผลอแช่งลูกที่ขโมยเงินไป จึงแก้ไขโดยพยายามถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพื่อลูก เพื่อว่าพระพรของพระเจ้า จะได้ตกมายังลูก
เป็นท่าทีที่งดงาม ด้วยความรักของแม่
แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นางได้ทำรูปเคารพและเอโฟดขึ้น เพื่อจะนมัสการพระเจ้าได้โดยไม่ต้องไปถึงชิโลห์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพลับพลา ที่อยู่ห่างไกล
การกระทำด้วยการขาดความรู้ในพระคำของนาง
แทนที่จะนำพระพรมาสู่ลูก กลับนำคำแช่งสาปมาสู่ลูก และยังเป็นเหตุชักจูงคนอิสราเอลให้หลงออกไปจากพระเจ้า
การกระทำด้วยท่าทีที่จริงใจ แต่ไม่สนใจว่าพระคำของพระเจ้า สั่งไว้ว่าอย่างไรนั้น
แทนที่จะเป็นพระพร แต่กลับจะนำเหตุร้ายมาสู่ตนได้
เราสมควรใส่ใจในคำแนะนำจากพระคำของพระเจ้า โดยนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ
2. คนเลวี มีความรู้ความเข้าใจพระคำของพระเจ้าเป็นอย่างดี
เมื่อมีคาห์ ชวนเขาทำสิ่งที่ขัดกับพระคำของพระเจ้า
แทนที่จะห้ามปราม หรือแนะนำสิ่งถูกต้องแก่มีคาห์
แต่เพราะเห็นแก่ความสะดวกสบายของตนเอง ในยามบ้านเมืองยากลำบาก
เขาจึงเลือกความสบาย แทนที่จะเลือกทำตามพระคำของพระเจ้า
ซึ่งการเลือกเช่นนั้นกำลังนำความเสียหายร้ายแรงมาสู่ตัวเขาและผู้อื่น
วันนี้ เราจะเลือกข้างใด ระหว่าง การทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า หรือ การทำตามใจปรารถนาของตนเอง?
3. มีคาห์เข้าใจผิด คิดว่า การกระทำใดๆที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทุกการกระทำนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย จึงทรงอวยพรเขา
แต่ความจริงแล้ว เราไม่อาจใช้การประสบความสำเร็จ วัดความพอพระทัยของพระเจ้าได้
แต่ต้องวัดด้วยพระคำของพระเจ้า
การกระทำใดๆที่ขัดกับพระคำของพระเจ้า
ย่อมไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
ซึ่งแม้วันนี้มันจะออกมาดูประสบความสำเร็จ
แต่สิ่งนั้นจะไม่ยั่งยืน อีกไม่นานมันก็จะหายไปสิ้น
คำคม
“ พระคำของพระเจ้า จะเป็นเข็มทิศนำทางชีวิตไปสู่พระพร ”