ภาพรวม
- พระเจ้าทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่โมเสสและให้อาโรนมาช่วยโมเสส โมเสสและอาโรนจึงมาบอกคนอิสราเอลถึงการช่วยกู้ของพระเจ้าที่กำลังจะมาถึง
- สามารถรับชมรายละเอียดคำอธิบายเพิ่มเติม ของ อพยพบทที่ 3 ที่นี่ครับ >>
https://youtu.be/5cajcmgVziY
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
อพยพ บทที่ 4 พระเจ้าทรงเรียกโมเสสให้ไปนำคนอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในอียิปต์
โมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า พวกเขาคงจะไม่เชื่อโมเสส
พระเจ้าจึงถามโมเสสว่า อะไรอยู่ในมือของเขา
โมเสสตอบว่า “ไม้เท้า”
พระเจ้าสั่งให้โมเสสโยนไม้เท้าลงที่พื้น
พอเขาโยนลง ไม้เท้านั้นก็กลายเป็นงู
โมเสสตกใจก็หนีไปจากงูนั้น
พระเจ้าสั่งให้โมเสส เอื้อมมือไปจับหางงูนั้น
พอโมเสสทำตาม งูก็กลายเป็นไม้เท้า
พระเจ้าสั่งโมเสสอีกว่า ให้เอามือสอดไว้ที่อกของเขา
เมื่อเขาทำตาม พอชักมือออก
มือของเขาก็เป็นโรคเรื้อน ขาวเหมือนหิมะ
พระองค์สั่งให้เอามือสอดไว้ที่อกอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเขาทำตาม พอชักมือออกมา
มือนั้นก็กลับเป็นปกติ
พระเจ้าตรัสว่า ถ้าพวกอิสราเอลยังเขาไม่ยอมเชื่อโมเสสอีก
ก็ให้โมเสสตักน้ำจากแม่น้ำไนล์และเทลงบนดินแห้ง
แล้วน้ำนั้นจะกลายเป็นเลือด
แต่โมเสสทูลพระเจ้าว่า เขาพูดไม่เก่งตั้งแต่อดีตแล้ว พอถึงตอนนี้ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก เขาพูดไม่คล่องแล้วด้วย
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์ ทรงสามารถให้มนุษย์ พูดได้หรือเป็นใบ้ หูหนวก ตาดี หรือตาบอด ตามแต่พระประสงค์ของพระองค์
ดังนั้น ถ้าพระเจ้าจะทรงช่วยโมเสสให้พูด เขาจะทำได้อย่างดีเป็นแน่
แต่ท่านทูลว่า “องค์เจ้านาย โปรดใช้คนอื่นไปเถิด”
พระเจ้าจึงกริ้วโมเสส
แล้วตรัสว่า อาโรน พี่ชายของโมเสสเป็นคนพูดเก่ง
พระเจ้าทรงให้เขาเดินทางมาพบโมเสส
ให้เขาไปกับโมเสส
แล้วพระเจ้าจะช่วยเขาทั้งสองในการพูด ว่าควรทำอย่างไร
โมเสส จงถือไม้เท้านี้ไว้เพื่อทำหมายสำคัญต่างๆเถิด
โมเสสจึงกลับไปหา เยโธรพ่อตาของตน
แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า กลับไปอียิปต์ได้แล้ว
เพราะคนทั้งหลายที่จะฆ่าโมเสสนั้นตายหมดแล้ว
โมเสสจึงพาภรรยาและลูกๆกลับไปยังอียิปต์
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า เมื่อกลับไปถึงอียิปต์
ให้โมเสสทำการอัศจรรย์ต่างๆที่พระเจ้าประทานให้ ต่อหน้าฟาโรห์
แต่พระเจ้าจะทำให้ใจของฟาโรห์กระด้าง ไม่ยอมให้ประชากรไป
ให้โมเสสบอกฟาโรห์ว่า พระเจ้าตรัสว่า
จงปล่อยอิสราเอลบุตรของพระเจ้าให้ไปนมัสการพระเจ้า
ถ้าฟาโรห์ไม่ยอม พระเจ้าจะประหารบุตรหัวปีของฟาโรห์เสีย
ระหว่างทาง พระเจ้าเสด็จมาหาโมเสส และทรงประสงค์จะประหารโมเสสเสีย
(น่าจะเป็นเพราะ ยังไงๆ โมเสสก็ไม่ยอมให้ลูกๆเข้าสุหนัตไม่ยอมให้กลายเป็นคนอิสราเอล)
นางศิปโปราห์จึงรีบเข้าสุหนัตให้ลูกๆของโมเสส
แล้วเอาไปปลายหนังองคชาติไปแตะเท้าของโมเสส
โมเสสจึงรอดตาย
เมื่ออาโรนมาพบโมเสสตามที่พระเจ้าบอกแก่เขา
โมเสสจึงเล่าเรื่องราวทั้งสิ้นให้อาโรนฟัง
เมื่อกลับมาถึงอียิปต์ โมเสสกับอาโรนก็เรียกประชุมบรรดาผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล
แล้วอาโรนก็เล่าทุกอย่างให้พวกเขาฟัง
แล้วโมเสสก็ทำการอัศจรรย์ต่างๆ นั้น ให้ประชาชนได้เห็น
ประชาชนก็เชื่อ พวกเขาต่างกราบลงนมัสการพระเจ้า
1. เมื่อพระเจ้าทรงเรียกโมเสส สิ่งที่มีอยู่ในมือของเขา มีเพียงไม้เท้าอันเดียวเท่านั้น
แต่นั่นก็เพียงพอที่โมเสสจะใช้ทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่มากมาย และนำคนอิสราเอลกว่า 3 ล้านคน
ออกจากการเป็นทาสในอียิปต์
วันนี้ สิ่งเรามีเพียงพอ หากเรายอมให้พระเจ้าทรงใช้ เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าให้สำเร็จได้
2. เมื่อไม้เท้ากลายเป็นงูแล้ว โมเสสตกใจจนวิ่งหนีงู
แต่พระเจ้ากลับบอกให้เขาจับหางงู
ซึ่งเป็นการจับที่ไม่ถูกต้อง เพราะงูจะหันมากัดแน่นอน
แต่โมเสสก็เชื่อฟัง จึงได้เห็นการอัศจรรย์
ตอนแรกพระเจ้าให้แค่โยนไม้ลงพื้น เมื่อเชื่อฟังเห็นอัศจรรย์
ต่อมาให้จับหางงู โจทย์ยากขึ้น เมื่อเชื่อฟังก็เห็นการอัศขรรย์
พระเยซูจะค่อยๆพัฒนาความเชื่อของเรา ด้วยการสั่งให้เราทำตามพระคำของพระองค์
โดยการเริ่มจากสิ่งง่ายๆ แล้วค่อยๆพัฒนามากขึ้นทีละน้อยๆ
เพื่อให้เรามีความเชื่อและมีประสบการณ์กับพระเจ้ามากขึ้นทุกวันๆ
3. พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างมนุษย์ และประทานความสามารถให้แก่มนุษย์
ดังนั้นต่อให้เราไม่มีความสามารถสักเพียงใดก้ตาม
ถ้าพระเจ้าทรงใช้ให้เราทำ พระองค์จะประทานให้เราสามารถทำสำเร็จได้แน่ๆ
4. โมเสสเรียกพระเจ้าว่า เจ้านาย (Lord) ไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า
พระเจ้าจึงทรงกริ้ว
เมื่อพระเจ้าทรงกริ้วแล้ว ก็ช่วยโมเสสให้กล้าที่จะเชื่อฟัง โดยการส่งอาโรนมาช่วยโมเสส
นี่คือพระลักษณะของพระเจ้า พระองค์ไม่พอพระทัยเมื่อเราไม่เชื่อฟังพระองค์
ถึงกระนั้นพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา
ทรงรู้จักความอ่อนแอของเรา
ทรงส่งตัวช่วยมาช่วยเราให้เชื่อฟังพระองค์
วันนี้ อย่าให้เราทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยคือ ไม่เชื่อฟังพระองค์
พระองค์ทรงพร้อมที่จะช่วยเราเสมอ เพื่อให้เราเชื่อฟังพระองค์ได้สำเร็จ
5. พระเจ้าทรงใช้โมเสสไปทำภารกิจสำคัญ
และทรงทราบล่วงหน้าแล้วว่า จะมีอุปสรรค
คือฟาโรห์จะไม่ยอม
อย่างไรก็ดีพระเจ้า จะทรงช่วยให้โมเสสผ่านอุปสรรคนั้นไปได้
ในการเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ได้หมายความว่าจะพบแต่ทางราบรื่นไม่มีขวากหนามใดๆเลย
ตรงกันข้ามมักจะมีอุปสรรคขวากหนาม
แต่พระเจ้าจะทรงนำให้เราผ่านสิ่งนั้นไปอย่างสง่างาม
เชื่อฟังพระเจ้า ไม่ต้องกลัวอุปสรรค
6. โมเสสเชื่อฟังพระเจ้า โดยยอมเดินทางเสี่ยงตายไปอียิปต์ แต่ ไม่ยอมให้ลูกเข้าสุหนัต
พระเจ้า ไม่ยอม ในเรื่องนี้
เราไม่อาจเชื่อฟังพระเจ้า ครึ่งๆกลางๆได้
หากจะเชื่อฟัง ต้องเชื่อฟัง ทั้งหมด
7. เมื่อโมเสสบอกข่าวดีแก่ประชาชนและทำอัศจรรย์ให้พวกเขาดู
พวกเขาก็เชื่อโมเสส และสรรเสริญพระเจ้า
แต่ในบทต่อมา พวกเขาก็ด่าว่าโมเสส
การยอมรับจากมนุษย์ เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว
อย่าหลงยึดติดกับมัน หรือดิ้นรนแสวงหามัน
แต่จงแสวงหาที่จะการยอมรับจากพระเจ้า
คำคม
“ พระเจ้าทรงสามารถใช้สิ่งเท่าที่เรามี ทำสิ่งยิ่งใหญ่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้ ”