ภาพรวม
- พระเจ้าทรงให้มีภัยพิบัติอย่างที่ 5 , 6 และ 7 เกิดขึ้นในอียิปต์ ได้แก่ โรคระบาดในสัตว์ ฝีพุพอง และไฟกับลูกเห็บ แต่ฟาโรห์ก็ยังใจแข็งกระด้างไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
อพยพ บทที่ 9 หลังจากภัยพิบัติที่ 3 ฝูงเหลือบ ผ่านพ้นไป ฟาโรห์ก็ใจแข็งกระด้างอีก จึงกลับคำไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป
พระเจ้าจึงทรงใช้โมเสส ไปบอกฟาโรห์ว่า จงปล่อยประชากรของพระเจ้าไปนมัสการพระองค์
ถ้าไม่ยอมปล่อย พรุ่งนี้ พระเจ้าจะทำให้ฝูงสัตว์ในทุ่งนา ฝูงม้า ฝูงลา ฝูงอูฐ ฝูงโค และฝูงแพะแกะ เป็นโรคระบาดร้ายแรง
แต่ฝูงสัตว์ของคนอิสราเอลจะไม่ตาย
แล้วฟาโรห์ก็ไม่ยอม พระเจ้าจึงทรงทำสิ่งที่ทรงตรัสไว้นั้น
แต่ใจของฟาโรห์ยังคงแข็งกระด้าง
ไม่ทรงยอมปล่อยให้ประชากรไป
พระเจ้าจึงสั่งโมเสสและอาโรน ให้กำเขม่าจากเตาให้เต็มกำมือ แล้วให้โมเสสซัดขึ้นไปในอากาศต่อหน้าฟาโรห์ แล้วเขม่านั้นจะกลายเป็นฝุ่นปลิวไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ แล้วทำให้เกิดเป็นฝีพุพองทั้งตัวคนและสัตว์ทั่วแผ่นดินอียิปต์
โมเสสกับอาโรนก็ทำตาม แล้วก็เกิดขึ้นอย่างที่พระเจ้าตรัสไว้
แต่พระเจ้าทรงให้ใจของฟาโรห์กระด้าง ไม่ยอมฟังโมเสสและอาโรน
พระเจ้าสั่งโมเสส ให้ไปบอกฟาโรห์ ให้ปล่อยคนอิสราเอลไป
มิฉะนั้น พรุ่งนี้พระเจ้าจะให้ลูกเห็บตกลงมาอย่างหนัก อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอียิปต์
เพราะฉะนั้น จงสั่งให้ต้อนฝูงสัตว์และสารพัดที่อยู่ในทุ่งนาให้เข้าที่กำบัง เพื่อจะไม่โดนลูกเห็บตาย
ปรากฏว่า มีข้าราชการของฟาโรห์ที่เกรงกลัว คำตรัสของพระเจ้า ก็ให้ทาสและฝูงสัตว์ของตนหลบเข้าไปในบ้าน
แต่ผู้ที่ไม่สนใจ ก็ปล่อยให้ทาสและฝูงสัตว์ของตนอยู่ในทุ่งนา
แล้วพระเจ้าให้โมเสส ชูมือขึ้นยังท้องฟ้า แล้ว มีเสียงฟ้าร้อง มีลูกเห็บ และไฟตกบนแผ่นดิน อย่างต่อเนื่อง ทำลายทุกอย่างที่อยู่ในทุ่งนาทั่วแผ่นดินอียิปต์ทั้งคน สัตว์ ต้นไม้ และผักหญ้าทุกอย่างในทุ่งนา
แต่ที่แผ่นดินโกเชนซึ่งคนอิสราเอลอยู่นั้น ไม่มีลูกเห็บตกเลย
ฟาโรห์จึงพูดกับโมเสสและอาโรน ว่า ครั้งนี้เขาทำบาป เขากับพลเมืองของเขาผิด พระเจ้าเป็นฝ่ายถูก
ดังนั้นขอโมเสสช่วยทูลพระเจ้า ให้ยุติเสียงฟ้าร้องและลูกเห็บด้วยเถิด
แล้วเขาจะปล่อยคนอิสราเอลไป
โมเสสก็ร้องทูลพระเจ้า แล้ว เสียงฟ้าร้องกับลูกเห็บนั้นก็หยุด
แต่พอฟาโรห์ทราบว่า ฝน ลูกเห็บและฟ้าร้องนั้นหยุดแล้ว
ก็กลับคำอีก ทั้งฟาโรห์และพวกข้าราชการก็มีใจแข็งกระด้าง
ไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป
1. ภัยพิบัติที่ 5 เกิดโรคระบาดทำให้ฝูงสัตว์ในทุ่งนาตายหมด(อพย. 9:6) ไม่ใช่สัตว์ทั้งหมดในอียิปต์ แต่เฉพาะในทุ่งนา เพราะใน อพย.9:9 และ 9:20-21 ก็การกล่าวถึงฝูงสัตว์อีก และอพย.14 ก็มีกล่าวถึงม้าของทหารอียิปต์ตอนไล่ตามอิสราเอล
ท่ามกลางการพิพากษาอันรุนแรงของพระเจ้า ก็ยังพบพระเมตตาในนั้น
เหมือนใน อพย. 9:32 เมื่อลูกเห็บตกมาทำลายพืชเสียสิ้น ก็ยังทรงเหลือต้นข้าวสาลีและต้นข้าวสเปลต์ เอาไว้
2. เมื่อพระเจ้าทรงให้ภัยพิบัติจากลูกเห็บเกิดขึ้น
บางคนที่เชื่อและเกรงกลัวคำเตือนจากพระเจ้า พวกเขาไม่พบความเสียหายใดๆ
ส่วนคนที่ไม่เชื่อหรือไม่เกรงกลัวคำเตือนนั้น พวกเขาต้องพบการสูญเสียครั้งใหญ่
เมื่อพระเจ้าเตือน แล้วเราเกรงกลัวแล้วรีบกลับใจ เราจะปลอดภัย
ต่อให้มีเหตุการร้ายนั้นเกิดขึ้นจริงๆ แต่เราก็จะรอดปลอดภัย
แต่ถ้าไม่อย่างนั้น เราจะพบกับความเสียใจ
3. ใน อพย. 9:27 เป็นครั้งแรกที่ ฟาโรห์เริ่มตระหนักว่า ภัยพิบัติต่างๆ นั้น เป็นเพราะการที่เขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า
ฟาโรห์ดูเหมือนจะกลับใจ แต่เป็นการกลับใจแค่ชั่วคราว ซึ่งเป็นการกลับใจจอมปลอม
ไม่อาจนำผลการเปลี่ยนที่แท้จริงให้เกิดขึ้นได้
วันนี้ เรารู้ตัวและสำนึก ในสิ่งเราทำผิดพลาดพลั้งบาปไป หรือยัง?
แล้วเราพร้อมที่จะตัดสินใจ กลับอย่างแท้จริง อย่างจริงใจ แล้วหรือยัง?
คำคม
“ การกลับใจชั่วคราว เป็นการกลับใจจอมปลอม ”