ภาพรวม
- พระเจ้าทรงประทานมานาและนกคุ้มเป็นอาหารสำหรับคนอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
อพยพ บทที่ 16 หลังที่คนอิสราเอลออกจากอียิปต์ ผ่านทะเลแดง ก็มาพบกับน้ำขมที่มาราห์ จากนั้นก็มาพบโอเอซิสที่ เอลิม
ต่อมาพวกเขาก็เดินทางออกจากเอลิม ก็มาถึงถิ่นทุรกันดารสีน
ในวันที่ 15 เดือนที่ 2 นับตั้งแต่ออกจากอียิปต์
คนอิสราเอลทั้งหมดก็เริ่มบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดาร ว่า
ตอนอยู่อียิปต์ แม้จะเป็นทาสยังอาหารอิ่มหนำ
แต่โมเสสกับอาโรนกลับนำพวกเขาออกมายังถิ่นทุรกันดารนี้ เพื่อให้หิวตาย
พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า
พระองค์จะให้อาหารตกลงมาเหมือนฝนจากท้องฟ้าสำหรับคนอิสราเอล
แต่มีคำสั่ง เพื่อจะลองใจ พวกเขาว่า จะเชื่อฟังพระองค์หรือไม่ ดังนี้
– เมื่อออกไปเก็บแต่พอกินเฉพาะวันหนึ่งๆ
– ในวันที่ 6 ให้เก็บเพิ่มเป็นสองเท่าของวันอื่นๆ
แล้วโมเสสจึงให้อาโรน บอกกับคนอิสราเอล ให้มาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
ขณะที่อาโรนกำลังพูดอยู่นั้น พระรัศมีของพระเจ้าก็ปรากฏอยู่ในเมฆ
แล้วตรัสกับโมเสสว่า
พระองค์ได้ยินคำบ่นของคนอิสราเอลแล้ว
ดังนั้นโมเสสจงบอกแก่พวกเขาว่า
ในเวลาโพล้เพล้ พวกเขาจะได้กินเนื้อ ทั้งในเวลาเช้าเจ้าจะได้อาหารกินจนอิ่ม
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเย็น ฝูงนกคุ่มบินมาเต็มค่าย
ในเวลาเช้า รอบค่าย ก็มีน้ำค้างที่พอระเหยไปแล้ว
ก็มีเกล็ดบางละเอียดเหมือนน้ำค้างแข็งอยู่บนพื้นดิน
พอแดดออกร้อนจัดแล้ว สิ่งนั้นก็จะละลายไป
คนอิสราเอลเรียกอาหารนั้น ว่า “มานา” (นี่อะไรหนอ?)
มีลักษณะเหมือนเมล็ดผักชีสีขาว
มีรสเหมือนขนมแผ่นผสมน้ำผึ้ง
โมเสสจึงบอกพวกเขาว่า นี่เป็นอาหารที่พระเจ้าประทานให้พวกท่านรับประทาน
แล้วโมเสสจึงบอกให้พวกเขาเก็บเท่าที่พอรับประทานอิ่ม คนละ 2 ลิตร
แต่พวกเขาบางคนเก็บมาก บางคนเก็บน้อย กว่า 2 ลิตร
พอเอาไปตวงดู คนที่เก็บได้มากก็ไม่มีเหลือ และคนที่เก็บได้น้อยก็ไม่ขาดแคลน
ทุกคนเก็บได้เท่าที่คนหนึ่งรับประทานได้
โมเสสสั่งอีกว่า อย่าให้ใครเหลือไว้จนรุ่งเช้า
แต่ก็มีบางคนเหลือไว้จนรุ่งเช้า
อาหารนั้นก็มีหนอนขึ้น และบูดเหม็น
โมเสสสั่งอีกว่า เมื่อถึงวันที่ 6 ให้เก็บอาหาร 2 เท่า
วันที่ 7 เป็นวันหยุดพัก เป็นสะบาโต วันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า
เมื่อพวกเขาทำตามที่โมเสสสั่ง อาหารนั้นไม่บูดเหม็นและไม่มีหนอนใน วันที่ 7
โมเสสสั่งว่า ในวันสะบาโต อย่าออกไปเก็บอาหารเพราะจะไม่พบ
แต่บางคนออกไปเก็บ แต่ก็ไม่พบเลย
แล้วพระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า
คนอิสราเอลจะขัดขืนบัญญัติและกฎหมายของพระเจ้านานสักเท่าไร?
พระเจ้าสั่งให้โมเสส ตวงมานา 2 ลิตร เก็บไว้ตลอดชั่วชาติพันธุ์ของอิสราเอล
เพื่อพวกเขาจะได้เห็นแล้วระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อพวกเขาได้
โมเสสจึงเอามานาเก็บใส่ไหลูกหนึ่ง แล้ววางมานานั้นลงหน้าหีบแห่งสักขีพยาน(อพย. 25:10-22)
คนอิสราเอลได้กินมานา 40 ปี
จนพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญา
1. พระเจ้าทรงลองใจคนอิสราเอล เพื่อให้พวกเขารู้ตัวเองว่า พวกเขาดื้อดึง ไม่เชื่อฟังมากเพียงใด
ซึ่งพวกเขาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่า ไม่ว่าพระเจ้าสั่งอะไร เขาไม่เชื่อฟังทั้งสิ้น
ถึงกระนั้นพระเจ้ายังทรงเมตตาพวกเขา ประทานมานาและนกคุ้ม เป็นอาหารให้แก่พวกเขา
เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา เป็นไปได้ว่าพระเจ้า กำลังจะทรงเปิดเผยให้เราได้รู้จักความอ่อนแอของเรา หรือจุดอ่อนของเราเอง เพื่อเราจะถ่อมใจลง เข้าหาพระเจ้า แล้วรับการเปลี่ยนแปลงโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์
บางคนอาจจะถามว่า แล้วทำไมพระเจ้าไม่เปลี่ยนเองเลย
คำตอบ ก็เพราะพระองค์อ่อนสุภาพและให้เกียรติมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นตามแบบพระฉายาของพระองค์ พระองค์ให้เสรีภาพแก่มนุษย์ว่า จะเลือกยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงเขาหรือไม่
2. คนอิสราเอลต้องออกไปเก็บมานา มาเป็นอาหารทุกวัน
แต่เมื่อพระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอล ไม่ต้องออกไปเก็บมานาในวันสะบาโต
จึงไม่ใช่ธุระของพวกเขาที่จะกังวลว่า ในวันสะบาโต จะเอาอะไรกิน มานาที่เก็บเช้าวันที่ 6 ค้างคืนถึงวันสะบาโตจะบูดหรือไม่
ธุระของเขาก็แค่ เชื่อฟัง ทำตามคำสั่งของพระเจ้าก็เพียงพอ ที่เหลือ ปล่อยเป็นหน้าที่ของพระองค์เอง
เมื่อพระเจ้าทรงสั่งให้เราทำอะไร หน้าที่ของเราก็แค่เชื่อฟัง
ที่เหลือไม่ว่ามีปัญหาอะไร พระองค์เคลียเอง
3. คนอิสราเอลมีมานากินตลอด 40 ปี ในถิ่นทุรกันดาร
มาหมดไป เมื่อพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้มันอีก เพราะเข้าในแผ่นดินคะนาอันแล้ว
พระเจ้าจะประทานสิ่งจำเป็นแก่เรา ตรายเท่าที่เรายังจะเป็นต้องมีมัน
วันใดที่มันหมดไป แสดงว่า พระเจ้าเห็นว่าเรา เราไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว
คำคม
“ พระเจ้าประทานสิ่งที่จำเป็นแก่เรา อย่างเพียงพอเสมอ ”