ภาพรวม
- พระเจ้าสั่งให้โมเสสสอนกฎหมายเกี่ยวกับการคืนของ และเกี่ยวกับจริยธรรม ให้แก่ประขาชน
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/exodus22-72470
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
อพยพ บทที่ 22 นอกจากกฎหมายเรื่องทาส การทารุณ และความรับผิดชอบ แล้ว พระเจ้าทรงสั่งให้โมเสสสอนกฎหมาย ต่อไปนี้แก่ประชาชนด้วย
1. กฎหมายเกี่ยวกับการคืนของ
1.1 ใครลักโคหรือแกะไป ต้องชดใช้โค 5 ตัวแทนโค 1 ตัว และแกะ 4 ตัวแทนแกะ 1 ตัว
1.2 ใครตีขโมยตาย ในเวลากลางคืน เขาไม่มีความผิด แต่ถ้าดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว ผู้ตีจะมีความผิด
1.3 ใครเป็นขโมย ต้องชดใช้เป็น 2 เท่า ถ้าไม่มีอะไรจะใช้ให้ เขาต้องขายตัวเป็นทาสเพื่อจ่ายค่าชดเชยนั้น
1.4 ใครจุดไฟ แล้วไฟลุกลาม ไปทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ผู้ที่จุดไฟนั้นต้องจ่ายค่าเสียหายเต็มจำนวน
1.5 ใครทำของที่เพื่อนบ้านฝากเอาไว้หาย ก็ให้เขามาเข้าเฝ้าพระเจ้า เพื่อจะดูว่าตัวเขาเอง ได้ลักสิ่งของของเพื่อนบ้านนั้นหรือไม่
1.6 คดีฟ้องร้องทุกอย่าง ถ้าตัดสินไม่ได้ ให้นำคดีของคู่ความนั้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า พระเจ้าจะทรงตัดสินเอง
โดยให้ผู้ต้องสงสัยนั้น สาบานต่อพระเจ้า ต่อหน้าคู่กรณี แล้วคู่กรณีนั้นจะต้องยอมรับ ส่วนผู้ต้องหานั้นไม่ต้องจ่ายค่าชดใช้
1.7 ใครทำให้สัตว์ของเพื่อนบ้านบาดเจ็บหรือล้มตาย ต้องจ่ายค่าชดใช้เต็มตามจำนวน
2. กฎหมายเกี่ยวกับจริยธรรม
2.1 ใครล่อลวงหญิงพรหมจารี ไปหลับนอนด้วย ผู้นั้นจะต้องเสียเงินสินสอด และต้องรับหญิงนั้นมาเป็นภรรยาของตน แต่ถ้าบิดาของนางไม่ยอมยกนางให้ เขาก็ต้องเสียเงินเท่าสินสอดตามธรรมเนียมเช่นกัน
2.2 ใครทำสิ่งต่อไปนี้ ให้มีโทษประหารชีวิต
– เป็นแม่มด
– ร่วมประเวณีกับสัตว์
– ถวายบูชาแด่พระต่างๆ นอกจากพระเจ้าองค์เดียว
2.3 ข้อห้ามของคนอิสราเอล ได้แก่
– ห้ามกดขี่ข่มเหงคนต่างด้าว
– ห้ามรังแกหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า
– ห้ามคิดดอกเบี้ย หรือยึดของประกันจากคนยากจน
– ห้ามด่าพระเจ้า
– ห้ามสาปแช่งผู้นำ
– ห้ามชักช้าที่จะถวายแด่พระเจ้า
2.4 จงถวายบุตรหัวปีของคนและสัตว์แด่พระเจ้า
2.5 จงเป็นคนบริสุทธิ์แด่พระเจ้า
1. ถ้าสังเกตกฎหมายเรื่องการคืนของ จะเห็นว่า เมื่อทำผิดต้องชดใช้คืนมากกว่าที่ได้ทำไปหลายเท่า
บาปของเราก็เช่นกัน เราต้องชดใช้คืนหลายเท่ากับสิ่งที่เราได้ทำผิดพลาดพลั้งไป
ด้วยเหตุนี้ พระเยซูผู้มาจ่ายหนี้บาปแทนเรา จึงต้องรับโทษอย่างสาสมกับความบาปชั่วของเรา เพื่อจะสามารถชดใช้หนี้บาปของเราได้หมด
ขอบคุณพระเยซู
2. จากกฎที่ใครก่อไฟจนทำให้ผู้อื่นเสียหาย จะต้องชดใช้เต็มจำนวน
คนที่จุดไฟเผาป่า จนคนเดือดร้อนมาก ถึงแม้ไม่มีใครจับได้
แต่พระเจ้าผู้ทรงออกกฏนี้ จะเป็นผู้เรียกคืนจากเขาเป็นแน่
วันนี้ หากเราทำอะไรบางอย่าง แล้วผลแห่งการกระทำนั้น สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
นั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย เราควรรีบเปลี่ยนแปลงและแก้ไขโดยด่วน
3. จากกฎที่ว่า ถ้าตัดสินคดีไม่ได้ ก็ให้ผู้ต้องหาไปสาบานต่อพระเจ้า แล้วก็ถือว่าบริสุทธิ์ไม่ต้องชดใช้อะไร
เป็นกฎที่น่าสนใจมากๆ
แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของพระเจ้า ผู้ทรงยุติธรรม
คือถ้าใครทำผิดแล้วสาบานเท็จ เพื่อเอาตัวรอด
เขารอดพ้นจากการชดใช้ค่าเสียหายก็จริง
แต่เขาจะไม่รอดพ้นต่อการจัดการของพระเจ้าเป็นแน่
วันนี้ อาจมีบางคนที่ปลิ้นปล้อน โกหก หลอกลวง จนรอดพ้นความผิดไปได้
แม้เราทำอะไรเขาไม่ได้ก็จริง
แต่อีกไม่นานเกินรอ เมื่อเวลาของเขามาถึง พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรมจะเป็นผู้จัดการเขาเอง
ต้องเลือกเอาเอง ว่า จะเลือกรอดพ้นการลงโทษจากมนุษย์ หรือ จะเลือกรอดพ้นการลงโทษจากพระเจ้า
4. กฎหมายเรื่องการล่อลวงผู้หญิงนั้น ชี้เห็นการปกป้องผู้หญิง คือ
ถ้าล่อลวงหญิงคนใดๆที่แน่ๆ ก็คือ ต้องเสียค่าสินสอดแน่ๆ
แต่จะได้หญิงนั้นมาเป็นภรรยาหรือไม่ ก็ต้องลุ้นอีกทีหนึ่ง
ดังนั้นใครที่คิดจะล่อลวงหญิง เล่นสนุก จึงต้องระวังคิดให้ดีเสียก่อน
5. พระเจ้ารังเกียจการเป็นแม่มด หมอผี
เราจึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมของคนเหล่านี้
6. ภาพใหญ่ของกฏหมายของพระเจ้า คือ ให้ผู้ที่แข็งแรงกว่า ฐานะดีกว่า มีโอกาสมากกว่า ต้องช่วยเหลือ และเมตตาต่อผู้ที่อ่อนด้อยกว่า อยู่เสมอ
วันนี้ ลองมองไปรอบข้าง มีใครบ้างที่เรามีโอกาสดีกว่าพวกเขา แล้วลองไตร่ตรองดูว่า เราจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการช่วยเหลือ พวกเขาได้อย่างไรบ้าง?
7. อพย. 22:28 “ห้ามด่าพระเจ้า หรือสาปแช่งผู้นำ” อยู่ติดกันเลย
เพราะ ด่าผู้นำที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น ก็เท่ากับกำลังด่าพระเจ้า ผู้แต่งตั้งเขานั่นเอง
เหมือนใน รม. 13:1-2 ที่กล่าวว่า “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น
เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ”
8. ใน อพย. 22:29 บอกว่า ห้ามชักช้าที่จะถวายแด่พระเจ้า
เพราะการถวายแด่พระเจ้านั้น เป็นการเปิดประตูพระพรเข้ามาสู่ชีวิต
แต่การเก็บสิ่งที่จำเป็นต้องถวายไว้นั้น ยิ่งเนิ่นนานยิ่งไม่เป็นผลดีต่อตนเอง
คำคม
“ รอดพ้นการลงโทษจากพระเจ้า ย่อมดีกว่า รอดพ้นการลงโทษจากมนุษย์ ”