ภาพรวม
- คนอิสราเอลให้อาโรนทำรูปโคทองคำขึ้นมา แล้วนมัสการแทนการนมัสการพระเจ้า
โมเสสโกรธมาก ให้คนเลวีฆ่าคนเหล่านั้นเสีย 3,000 คน
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/exodus32-74031
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
อพยพ บทที่ 32 เมื่อพระเจ้าสั่งโมเสสเกี่ยวกับบัญญัติต่างๆ บนภูเขาซีนายแล้ว ก็ทรงประทานศิลา 2 แผ่นที่บันทึกคำตรัสของพระองค์ ด้วยลายพระหัตถ์ของพระเจ้า ให้แก่โมเสส
ส่วนประชาชนที่อยู่ข้างล่าง เห็นโมเสสหายไปนาน ไม่ลงมาจากภูเขาสักที
จึงพากันมาหาอาโรน ขอให้อาโรนช่วยสร้างพระให้พวกเขา เพื่อจะเป็นศูนย์รวมจิตใจให้แก่พวกเขาแทนโมเสสที่หายไม่ได้กลับมาเสียที
อาโรนจึงให้พวกเขา เอาตุ้มหูทองจากหูภรรยาและลูกๆของพวกเขา มาให้อาโรน
เมื่ออาโรนได้ทองคำจากพวกเขาแล้ว จึงนำทองคำมาหล่อเป็นรูปโคหนุ่ม
จากนั้น พวกเขาก็ประกาศว่า
“โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์”
เมื่ออาโรนเห็นเห็นว่า คนอิสราเอลศรัทธารูปนั้น อาโรนจึงสร้างแท่นบูชาไว้ ตรงหน้ารูปโคนั้น แล้วประกาศว่า
“พรุ่งนี้จะเป็นวันเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์”
วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ลุกขึ้นแต่เช้า ถวายเครื่องบูชาแด่รูปโคทองคำนั้น
แล้วพวกเขา ก็นั่งลง กินและดื่ม แล้วก็ทำสิ่งที่น่าบัดสีต่อกัน (คือทำการกิจกรรมทางเพศต่อหน้ารูปโคทองคำนั้น เพื่อเป็นการนมัสการรูปเคารพ ตามธรรมเนียมของคนต่างชาติในช่วงเวลานั้น)
พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า ให้โมเสสรีบลงไปทันที เพราะว่าคนอิสราเอลได้หล่อรูปโคขึ้น แล้วถวายสัตวบูชาแก่รูปนั้น และกล่าวว่า โคนั้นคือ พระที่นำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์
พระเจ้าตรัสกับโมเสส อีกว่า ความโกรธของพระเจ้ากำลังจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อพวกเขาแล้ว และจะทำลายพวกเขาเสีย ส่วนโมเสสเอง พระเจ้าจะให้เป็นชนชาติใหญ่แทนพวกเขา
แต่โมเสสวิงวอนพระเจ้า ว่า
ขออย่าทำเช่นนั้นเลย มิฉะนั้นคนอียิปต์จะกล่าวได้ว่า
พระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาเพื่อจะทรงทำลายพวกเขา
ขอพระเจ้าทรงเปลี่ยนพระทัย อย่าทำอันตรายประชากรของพระองค์เลย
ขอทรงระลึกถึง อับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล ที่พระองค์ทรงปฏิญาณกับเขาเหล่านั้น จะยกแผ่นดินนี้ทั้งหมดที่ทรงสัญญาไว้ให้แก่เชื้อสายของพวกเขาตลอดไป
แล้วพระเจ้าจึงเปลี่ยนพระทัย ไม่ทรงทำอันตรายประชากรของพระองค์
โมเสสก็กลับลงมาจากภูเขา พร้อมกับแผ่นศิลาพระโอวาท 2 แผ่นซึ่งมีคำจารึกลายพระหัตถ์ของพระเจ้าไว้ทั้งสองด้าน
เมื่อโมเสสพบโยชูวาซึ่งรออยู่กลางภูเขา ทั้งสองก็ลงมาจากภูเขา
พอโยชูวาได้ยินเสียงประชาชนดังมาก จึงคิดว่าเป็นเสียงสงครามในค่าย
แต่โมเสสตอบว่า ไม่ใช่เสียงสงครามแต่เป็นเสียงร้องเพลงกัน
เมื่อโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย ได้เห็นรูปโคทองคำและเห็นคนเต้นรำนมัสการรูปนั้น
โมเสสก็โกรธเดือดดาน เขาโยนแผ่นศิลาในมือทิ้งตกแตกเสียที่เชิงภูเขานั่นเอง
แล้วโมเสสก็เอารูปโคที่พวกเขาทำไว้ไปเผาเสีย
และบดเป็นผงโรยลงในน้ำ และบังคับให้คนอิสราเอลดื่ม
โมเสสถามอาโรนว่า ทำไมอาโรนจึงนำบาปใหญ่นี้มาสู่พวกเขา
อาโรนตอบว่า พวกเขาเองเป็นคนมาขอให้สร้างพระให้พวกเขา
แล้วโมเสสยืนอยู่ที่ประตูค่ายร้องว่า
“ใครอยู่ฝ่ายพระเจ้า? จงมาหาเราเถิด”
แล้วคนเลวีทั้งหมดก็มาหาโมเสส
โมเสสจึงกล่าวกับพวกเขาว่า ให้เหน็บดาบแนบกาย แล้วไปฆ่าคนเหล่านั้นที่กำลังสิ่งที่น่าบัดสีอยู่นั้น
คนเลวีก็ทำตาม และมีคนประมาณ 3,000 คน ถูกฆ่าตายในวันนั้น
วันรุ่งขึ้น โมเสสพูดกับประชาชนว่า พวกเขาได้ทำบาปใหญ่หลวง ดังนั้นโมเสสจะขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้าอีกครั้ง เพื่อจะขอให้พระเจ้าลบมลทินบาปของพวกเขา
โมเสสจึงกลับไปเข้าเฝ้าพระเจ้า ทูลว่า
ขอพระองค์โปรดยกโทษบาปของคนอิสราเอล มิฉะนั้น ขอพระองค์ทรงลบชื่อของโมเสส ออกจากหนังสือที่พระองค์ทรงจดไว้เสีย
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
ใครทำบาปต่อพระเจ้า พระองค์ก็จะลบชื่อผู้นั้นจากหนังสือของพระองค์
พระเจ้าสั่งให้โมเสสนำคนอิสราเอล เดินทางต่อไปยังคะนาอันได้
บาปครั้งนี้จะไม่ถึงกับทำให้คนอิสราเอลทั้งหมดถูกทำลายไป
แล้วพระเจ้าทรงบันดาลให้ภัยพิบัติบางอย่างเกิดขึ้นกับคนอิสราเอล เพราะพวกเขาทำรูปโคหนุ่มนั้น
1. ทั้งที่พระเจ้าเป็นผู้นำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์อย่างชัดเจน แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานพวกเขาก็ลืมพระองค์ แล้วหันไปทำตามอย่างที่คนต่างชาติทำกัน
วันนี้ เรามีวันนี้ได้ เพราะพระเจ้าทรงอวยพระพรเราอย่างชัดเจน
อย่าให้เราลืมพระคุณของพระองค์
ให้เราถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยการยังคงแสวงหาที่จะรู้จักกับพระองค์มากขึ้น
ไม่หันหลังให้พระองค์ แล้วไปแสวงหาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระองค์แทน
2. ใน อพย. 32:10 เมื่อเราอ่านดูจะเห็นพระลักษณะของพระเจ้าของเรา
พระองค์บอกกับโมเสสว่า อย่าห้ามนะ อย่าห้ามนะ เรากำลังจะโกรธแล้วนะ
ก็เพื่อให้โมเสส ทูลขอ แล้วพระองค์ก็จะได้ตอบคำร้องทูล แล้วจึงไม่ทำลายอิสราเอลให้สิ้นไป
– พระเจ้าทรงกริ้วช้า
– พระเจ้าประสงค์ที่จะตอบคำอธิษฐานของเรา ที่สอดคล้องกับพระลักษณะของพระองค์
– พระเจ้าเปี่ยมด้วยเมตตา พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ
3. โมเสสทูลขอให้พระเจ้าไม่โกรธคนอิสราเอล
แต่ปรากฏว่า เมื่อโมเสสเห็นจริงๆว่า พวกเขาทำอะไรลงไป โมเสสกลับโกรธพวกเขาเสียเอง
– พระเมตตาของพระเจ้า ยิ่งใหญ่กว่าของมนุษย์มากมายนัก
– เหตุที่โมเสสโกรธมากเพราะโมเสส รู้จักและผูกพันกับพระเจ้ามาก
ยิ่งเราผูกพันกับพระเจ้ามากเท่าใด เราก็ยิ่ง เกลียดสิ่งที่พระเจ้าเกลียดและรักสิ่งที่พระเจ้ารัก มากขึ้นเท่านั้น
4. โมเสส ทูลต่อพระเจ้าว่า ให้ลบชื่อเขาออก ถ้าพระองค์จะทำลายคนอิสราเอล
หมายความว่า ให้ลบชื่อเขาออกจากแผ่นดินโลกก่อน คือขอเอาชีวิตของเขาไป ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายนั้นจะเกิดขึ้น
แต่พระเจ้าตอบว่า จะลบชื่อใคร พระองค์ตัดสินใจเอง
– โมเสสเป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้สละแม้ชีวิตของตนเพื่อผู้ตาม
– การกำหนดว่า ใครจะได้รับโทษอะไรหรือไม่ อย่างไร เป็นสิทธิ์ขาดของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
เราผู้เชื่อวางใจในพระเยซู จึงมั่นใจได้เลยว่า เราจะรอดพ้นการพิพากษาอย่างแน่นอน
ดังใน รม. 8:33 ที่กล่าวว่า “ใครจะฟ้องคนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้? พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว”
คำคม
“ การหันหลังให้กับพระเจ้า เป็นการหันหน้าไปสู่หายนะ ”