ภาพรวม
- เฉลยธรรมบัญญัติ เนื้อหาเป็นเรื่องราวที่โมเสสกำชับคนอิสราเอลให้รักษากฏเกณฑ์ของพระเจ้า เป็นการสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทาง 40 ปี และคำสั่งต่างๆของพระเจ้า ตอกย้ำแก่คนอิสราเอลเพราะว่าโมเสสกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว
- บทนี้โมเสสทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 40 ปีที่ผ่านมา ให้บรรดาคนอิสราเอลรุ่นใหม่ได้รับรู้
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy01-87219
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 1 ในวันที่ 1 เดือนที่ 11 ปีที่ 40 ณ ถิ่นทุรกันดารฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ที่ราบข้างหน้าสูฟ
โมเสสพูดกับคนอิสราเอล ตามทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา
โมเสสได้เริ่มอธิบายธรรมบัญญัติ ว่า
พระเจ้าได้ตรัสสั่งให้คนอิสราเอล ออกเดินทางจากโฮเรบ ไปยังแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์ และสั่งให้เข้าไปยึดครองแผ่นดินคานาอัน
เวลานั้นเนื่องจากคนอิสรเอลมีจำนวนมาก โมเสสไม่อาจดูแลหรือตัดสินคดีของพวกเขาได้หมด
โมเสสจึงเลือกหัวหน้าจากทุกเผ่า ตั้งไว้ให้เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง ร้อยคนบ้าง ห้าสิบคนบ้าง สิบคนบ้าง
ต่อมา เมื่อมาถึงคาเดชบารเนีย เตรียมจะเข้าสู่คานาอัน
แล้วคนอิสราเอลก็มาพูดกับโมเสส ว่า ให้ใช้คนไปสอดแนมดูแผ่นดินนั้นก่อน
เรื่องนี้โมเสสเห็นดีด้วย และพระเจ้าก็อนุญาตให้พวกเขาทำ (กดว. 13:1-2)
โมเสสจึงเลือกคนอิสราเอลเผ่าละคน ส่งไปสอดแนมดูแผ่นดินคานาอัน
เขาทั้งหลายได้เก็บผลไม้ของแผ่นดินนั้นติดมือกลับมา
และแจ้งว่า แผ่นดินนั้นเป็นแผ่นดินที่ดี
แต่แล้วคนอิสราเอลก็ไม่ยอมขึ้นไป กลับขัดขืนพระบัญชาของพระเจ้า
และได้บ่นอยู่ในเต็นท์ของตน ว่า
“เพราะพระเจ้าทรงเกลียดชังเรา พระองค์จึงทรงพาเรา มามอบไว้ในมือคนอาโมไรต์เพื่อจะทำลายเราเสีย”
แม้โมเสสจะบอกพวกเขาว่า อย่าครั่นคร้ามหรือกลัวชาวแผ่นดินนั้นเลย
พระเจ้าทรงอุ้มชูพวกเขา ดังพ่ออุ้มลูกของตนตลอดทางที่ผ่านมา
พระองค์จะทรงต่อสู้เพื่อพวกเขา
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขา กลับไม่เชื่อพระเจ้า
ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงกริ้วและทรงปฏิญาณว่า
พวกเขาจะไม่มีสักคนเดียว จะได้เห็นแผ่นดินดีนั้น นอกจากคาเลบ และโยชูวา
และโมเสสเองก็จะไม่ได้เข้าไปในที่นั้นด้วยเหมือนกัน เพราะคนอิสราเอลเป็นต้นเหตุ
โยชูวา จะเป็นผู้นำบรรดาลูกน้อยของคนอิสราเอล ที่พวกเขากล่าวว่า จะถูกปล้นเอาไปนั้น
และโยชูวานำคนเหล่านั้นได้เข้าไปยึดครองที่นั่น
แล้วคนอิสราเอลยังทำผิดซ้ำขึ้นไปอีก โดยการไม่เชื่อฟังพระเจ้า
ทั้งที่พระเจ้าตรัสว่า อย่าขึ้นไปสู้รบกับคนอาโมไรต์ แต่พวกเขาไม่เชื่อฟัง กลับขัดขืนพระบัญชา ขึ้นไปสู้กับคนอาโมไรต์ แล้วก็ล้มตายพ่ายแพ้กลับมา
และพวกเขามาร้องไห้ แต่พระเจ้าไม่ทรงสดับเสียงของพวกเขา
พวกเขาจึงพักอยู่ที่คาเดชหลายวัน
1. โมเสสทบทวนให้คนอิสราเอลรุ่นใหม่เข้าใจ ว่าการวนเวียนในถื่นทุรกันดารตลอด 40 ปีนั้น
ไม่ใช่เพราะพระเจ้าไม่สามารถนำพวกพ่อหรือปู่ของพวกเขา เข้าแผ่นดินคานาอันได้
แต่เป็นเพราะคนเหล่านั้นกบฏต่อพระเจ้า ไม่เชื่อฟังพระองค์
ทั้งที่พระองค์ทรงปกป้องดูแล และสำแดงการอัศจรรย์มากมายท่ามกล่างคนเหล่านั้นแล้วก็ตาม
การเรียนรู้ความผิดพลาดของคนในอดีต หรือตังเราเองในอดีตนั้น
ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้เราเดินผิดพลาดเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมา
จึงเป็นการดีที่เราจะทบทวนความผิดพลาดของตนหรือของคนในอดีต
แล้วจดจำเพื่อหลีกเลี่ยง ไม่ทำผิดพลาดเช่นนั้นอีก
2. คนอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้า ขึ้นไปสู้กับคนอาโมไรต์ จึงพ่ายแพ้ บาดเจ็บ ล้มตายกลับมา
พวกเขาจึงร้องไห้ต่อพระเจ้า
แต่พระเจ้าไม่ฟังเสียงของพวกเขา
ไม่ใช่เพราะว่าพระเจ้าไม่ฟังเสียงร้องของผู้ทุกข์ใจ
แต่เพราะที่เขาร้องไห้ก็เพราะเสียใจที่พ่ายแพ้
ไม่ใช่เพราะกลับใจใหม่ จึงเสียใจที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า
วันนี้ หากเรากำลังพ่ายแพ้ต่อศัตรู
เราสามารถร้องไห้ต่อพระเจ้าได้ และพระองค์จะทรงช่วยกู้เรา
แต่ก็เป็นการสมควรที่เราจะพิจาณาตนเองด้วยว่า เราได้จงใจดื้อดึงไม่เชื่อฟังพระเจ้า ประการหนึ่งประการใดหรือไม่จนเป็นเหตุให้เกิดความพ่ายแพ้เช่นนี้
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เราควรขอโทษพระเจ้า สารภาพบาปตอ่พระองค์ แล้วรับการอภัย และการเยียวยาจากพระองค์
คำคม
“ จงเรียนจากอดีต เพื่อจะไม่ผิดพลาดเหมือนอดีต ”