ภาพรวม
- โมเสสเตือนคนอิสราเอล ไม่ให้พวกเขาลืมพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงทำให้พวกเขาได้ครอบครองดินแดนคานาอันแล้ว
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy08-88263
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 8 เมื่อโมเสสย้ำเตือนคนอิสราเอล ไม่ให้ไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพระของคนต่างชาติแล้ว โมเสสก็ย้ำต่อไปว่า
ให้คนอิสราเอลระวังที่จะทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า เพื่อจะมีชีวิตและทวีจำนวนมากขึ้น และเข้าไปยึดครองแผ่นดินคานาอันได้สำเร็จ
ให้คนอิสราเอลระลึกว่า พระเจ้าทรงนำพวกเขาในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี นั้น
ก็เพื่อจะทรงทำให้พวกเขาถ่อมใจ และทรงทดสอบจิตใจของพวกเขา ว่าพวกเขาจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์หรือไม่
ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์แด่พวกเขาเอง ในบั้นปลาย
เมื่อพระเจ้าทรงปล่อยพวกเขาหิว แล้วก็ทรงเลี้ยงพวกเขาด้วยมานา
ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร
เพื่อพวกเขาจะเข้าใจว่า
มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว
แต่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
ตลอด 40 ปีนั้น เสื้อผ้าของพวกเขาก็ไม่ขาด และเท้าก็ไม่บวม
ให้พวกเขาตระหนัก ว่า พระเจ้าทรงตีสอนพวกเขา เหมือนกับบิดาตีสอนบุตร
ดังนั้น พวกเขาต้องรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า โดยการดำเนินตามทางของพระองค์และยำเกรงพระองค์
พระเจ้าจะทรงพาพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่ดี จะมีอาหารรับประทานอย่างอุดมสมบูรณ์ และจะไม่ขาดอะไรเลย ด้วยเหตุนี้ ให้ระวังตัวให้ดี เมื่อพวกเขาอิ่มหนำ ได้อยู่ในบ้านดีๆ แล้ว
อย่าลืมพระเจ้าโดยไม่รักษาพระบัญญัติ กฎหมายและกฎเกณฑ์ของพระองค์
เพราะเมื่อสบายแล้ว เกรงว่าใจของพวกเขาจะผยองขึ้น
และลืมพระเจ้า
แล้วนึกในใจว่า “กำลังและเรี่ยวแรงของข้านำทรัพย์มีค่านี้มาให้ข้า”
ถ้าพวกเขาลืมพระเจ้า และไปติดตามและปรนนิบัติพระอื่น
โมเสสย้ำเตือนพวกเขาว่า พวกเขาจะต้องพินาศแน่นอน
เช่นเดียวกับประชาชาติในคานาอันซึ่งพระเจ้าทรงทำให้พินาศไปนั้น
1. เหตุที่พระเจ้าคนอิสราเอลต้องวนเวียนในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปีนั้น
ก็เพราะว่า ใจของพวกเขาเย่อหยิ่งเกินไป พระเจ้าจำเป็นต้องใช้ถิ่นทุรกันดาร 40 ปี ถึงจะทำให้พวกเขายอมถ่อมใจลงได้
และยังเป็นการทดสอลจิตใจของพวกเขา ว่าพวกเขาจะเชื่อฟังพระคำของพระเจ้าหรือไม่
ซึ่งการทดสอบนี้ ไม่ใช่เพราะพระเจ้าไม่รู้ แต่เพื่อให้พวกเขารู้ตัวเองว่าต้องถ่อมใจลงยอมเชื่อฟังพระคำของพระเจ้า และเพื่อพวกเขาจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การเชื่อฟังพระคำของพระเจ้านั้น คุ้มค่าจริงๆ
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของพวกเขาเองในอนาคต เมื่อเข้าไปในดินแดนคานาอันแล้ว
วันนี้ การที่พระเจ้าอนุญาตให้บางสิ่งเกิดขึ้นกับเรา เพราะพระเจ้ากำลังพัฒนาชีวิตของเรา
เพื่อประโยชน์สำหรับเราเองในอนาคต
จำเป็นต้องมีบางอย่างเหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อเราจะถ่อมใจลง และเพื่อเราจะมีประสบการณ์ว่า การเชื่อฟังพระเจ้านั้นได้ผลคุ้มค่าจริงๆ
2. พระเจ้าทรงตีสอนคนอิสราเอล เหมือนบิดาที่ตีสอนบุตรที่รัก
แน่นอน หากบุตรที่รักไม่ทำสิ่งที่จะเป็นโทษต่อตัวเขาเองในอนาคต บิดาย่อมไม่ตีเขาเป็นแน่
แต่หากบุตรกำลังทำเช่นนั้น บิดาที่ดีที่รักบุตร ย่อมไม่ละเลยการตีสอนบุตรเป็นแน่
เมื่อพระเจ้าทรงตีสอนคนอิสราเอล 40 ปี ในถิ่นทุรกันดารนั้น
พระองค์ก็ทรงปกป้องพวกเขาไปในตัวด้วย
เสื้อผ้าของเขาไม่ขาด เท้าก็ไม่บวม
เราเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า พระเจ้าจึงทรงตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเราเองในอนาคต
ฮบ. 12:6 “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และเมื่อพระองค์ทรงรับใครเป็นบุตร พระองค์ก็ทรงเฆี่ยนตีคนนั้น”
แต่เมื่อพระองค์ทรงตีสอนเรานั้น
พระองค์จะทรงปกป้องเรา ไม่ให้มีภยันตรายเกิดขึ้นกับเราได้
3. พระคำของพระเจ้าเตือนว่า เมื่อสบายแล้ว อย่าลืมพระเจ้า
เมื่อมีทุกอย่างในทุกวันนี้ อย่านึกในใจว่า ที่ได้มาเพราะความเก่ง ความฉลาด หรือความขยันขันแข็งของเราเอง
แต่ควรรู้ตัวอยู่เสมอว่า ที่เรามีวันนี้ได้ ก็เพราะพระเจ้าทรงเมตตาเรา
วิธีที่จะสังเกตว่า เราลืมพระเจ้าหรือไม่ก็คือ
เมื่อใครก็ตามที่ลืมพระเจ้า เขาจะเริ่มไม่ทำตามพระคำของพระองค์
วันนี้ เรายังเต็มใจเชื่อฟัง ทำตามพระคำของพระเจ้าอยู่หรือไม่?
คำคม
“ พระเจ้าทรงใช้เหตุการณ์ต่างๆที่เราประสบ เพื่อให้เราถ่อมใจและเติบโต ”