ภาพรวม
- โมเสสเตือนคนอิสราเอล มิให้ประนีประนอมกับคนที่พยายามชักชวนพวกเขาให้ละทิ้งพระเจ้า
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy13-88946
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 13 หลังจากที่โมเสสเตือนให้คนอิสราเอลทำลายพระของคนต่างชาติให้หมดแล้ว โมเสสกล่าวต่อไปว่า
ถ้ามีผู้เผยพระวจนะหรือผู้ฝันเห็นเหตุการณ์ ปรากฏขึ้น และสำแดงการอัศจรรย์แก่พวกเขา
แล้วคนเหล่านั้นชักชวนให้พวกเขาติดตามและปรนนิบัติพระอื่นๆ
คนอิสราเอล ต้องไม่เชื่อฟังคำของคนเหล่านั้น
เพราะพระเจ้าทรงลองใจคนอิสราเอลดูว่า
พวกเขารักพระเจ้า ด้วยสุดจิตสุดใจของพวกเขาหรือไม่?
ดังนั้นให้พวกเขา
– ดำเนินตามพระเจ้า
– ยำเกรงพระองค์
– รักษาพระบัญญัติของพระองค์
– เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์
– ปรนนิบัติพระองค์
– ติดสนิทอยู่กับพระองค์
คนนั้นที่มาชักชวนให้ไปติดตามพระอื่นๆ ต้องมีโทษถึงตาย เพื่อขจัดความชั่วไปจากท่ามกลางคนอิสราเอล
เพราะเขาได้พูดให้กบฏต่อพระเจ้า เขาพยายามผลักดันคนอิสราเอลออกไปจากทางซึ่งพระเจ้าทรงบัญชา
โมเสสย้ำต่อไปว่า
ถ้าญาติพี่น้องคนใดของท่านชักชวนให้ไปปรนนิบัติพระอื่นๆ
อย่ายอมตามหรือเชื่อฟังเขา
อย่าสงสารเขา ให้เอาหินขว้างเขาให้ตาย โดยท่านควรลงมือเป็นคนแรก และต่อไปให้ประชาชนทั้งหมดลงมือด้วย
ถ้าเมืองใดในอิสราเอล มีคนเลวบางคน ชักชวนชาวเมือง ให้เราไปปรนนิบัติพระอื่นๆ แล้วชาวเมืองก็ทำตาม
หลังจากที่คนอิสราเอลทั้งหลายตรวจสอบดูแล้วว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ให้คนอิสราเอลฆ่าชาวเมืองนั้นรวมทั้งฝูงสัตว์ของพวกเขาเสียด้วยคมดาบ และเผาเมืองนั้นกับของริบทั้งหมดในเมืองนั้นเสียด้วยไฟ ให้เป็นเมืองร้างอยู่เป็นนิตย์ ห้ามสร้างขึ้นมาใหม่
เมื่อคนอิสราเอลเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า คือรักษาพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรพระเจ้า
พระองค์จะทรงหันจากพระพิโรธยิ่งของพระองค์
จะทรงสำแดงพระกรุณาต่อพวกเขา
จะทรงรักเอ็นดูพวกเขา
และจะให้พวกเขาทวีมากขึ้น
1. พระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอล ตัดไฟเสียแต่ต้นลม เมื่อมีใครที่มาชักชวนพวกเขา ให้ไปปรนนิบัติพระอื่น
คนนั้นกำลังจะนำความชั่วร้ายและการทำลายมาสู่คนอิสราเอล
ดังนั้นคนอิสราเอลต้องจริงจัง และเด็ดขาดในการจัดการกับคนเหล่านั้น
ก่อนที่บาปนั้นจะลุกลามจนทำลายชนชาติอิสราเอล
น่าเสียดายที่ คนอิสราเอลไม่เชื่อฟังคำสั่งนี้
ในที่สุดคนอิสราเอลได้ละทิ้งพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง
จนพวกเขาทั้งประเทศทำสิ่งที่ชั่วช้ามากมาย เช่น
การล่วงประเวณีถวายรูปเคารพ หรือการนำลูกเล็กเด็กแดงมาเผาบูชายันต์แก่รูปเคารพ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้พระพิโรธและการลงโทษจากพระเจ้าตกลงมาบนพวกเขา
วันนี้ เราต้องไม่ประนีประนอมกับบาป
เพราะบาปเพียงเล็กน้อยที่เราอนุญาตให้มันครอบครองใจของเรา จะนำความผิดร้ายแรงมาสู่ชีวิตของเราได้
เราผิดพลาดพลั้งบาปกันได้ แต่เมื่อผิดแล้ว ต้องรีบกลับมาหาพระเจ้า
สารภาพบาป กลับใจใหม่ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งกับพระเจ้า
2. บทพิสูจน์ความรักที่เรามีต่อพระเจ้า จะสำแดงออกมาเป็น
การดำเนินชีวิตตามอย่างพระเจ้า , ยำเกรง , รักษาพระบัญญัติ , เชื่อฟัง , ปรนนิบัติ และ สัมพันธ์สนิท พระองค์
นั่นคือ มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินชีวิต ทั้งความคิด จิตใจ และการกระทำ
คำคม
“ เมื่อพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต ชีวิตก็กำลังอยู่ท่ามกลางพระพร ”