ภาพรวม
- โมเสสย้ำเตือนให้คนอิสราเอล อย่าทำตามอย่างพิธีกรรมของคนต่างชาติ แต่ให้ทำตามทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy14-89098
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 14 เมื่อโมเสสเตือนคนอิสราเอล ไม่ให้ละทิ้งพระเจ้า ไปกราบไหว้รูปเคารพแล้ว ก็กล่าวต่อไปว่า
เนื่องจากคนอิสราเอลเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นชนชาติบริสุทธิ์ของพระเจ้า จึงห้ามทำตามอย่างพิธีกรรมของศาสนาต่างชาติ เช่น
– เชือดเนื้อตัวเอง
– ทำหน้าผากให้โล้นเพื่อคนตาย
– รับประทานสิ่งพึงรังเกียจ คือสัตว์ประเภทที่เป็นมลทินทั้งหลาย
– รับประทานสัตว์ที่ตายเอง
– ต้มลูกแพะด้วยน้ำนมแม่ของมัน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้าย
แต่ให้คนอิสราเอลทำตามที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้ ได้แก่
– ถวายทศางค์ของผลิตผลจากพืชพันธุ์ แต่ละปี
– รับประทานทศางค์ และผลรุ่นแรก เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้ เพื่อจะได้เรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้าเสมอ
หรือถ้าระยะทางไกลเกินไป ก็ให้ขายของนั้นเอาเงิน และใช้เงินนั้นซื้อสิ่งใดๆ ที่อยากรับประทาน และท่านจงรับประทานที่นั่นเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และจงยินดีกันทั้งครอบครัว
– ไม่ทอดทิ้งคนเลวีซึ่งอยู่ในเมือง
– ทุก 3 ปี ให้นำทศางค์ทั้งหมดจากพืชผลที่ได้ในปีนั้น มาสะสมไว้ในเมืองของตน แล้วให้คนเลวี และคนต่างด้าวและลูกกำพร้า และแม่ม่าย ผู้ซึ่งอยู่ภายในเมือง ได้มารับประทานอย่างอิ่มหนำ เพื่อว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรแก่บรรดากิจการซึ่งมือของคนอิสราเอลได้ทำนั้น
1. เพราะว่าเราเป็นประชากรของพระเจ้า จึงควรทำตัวอย่างที่ประชากรของพระเจ้าควรทำ
และไม่ควรทำตัวเหมือนอย่างคนเหล่านั้นที่ไม่มีพระเจ้าในชีวิตของพวกเขา
โลกและสิ่งยั่วยวนของโลก พยายามชักจูงเราให้หันออกจากการดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า
อย่ายอมติดกับแห่งการยั่วยวนเหล่านั้น
ดำเนินชีวิตตรงต่อไปตามพระคำของพระเจ้า แม้คนในสังคมเขาไม่ทำแบบนี้ แต่เราก็จะทำและดำเนินตามพระคำของพระเจ้าต่อไป
2. ในการทำตามคำสั่งของพระเจ้า เรื่องการรับประทานทศางค์(สิบลด) ต่อพระพักตร์พระเจ้า ที่พลับพลา(หรือพระวิหาร)นั้น
ถ้าระยะทางไกล ทำได้ยาก พระเจ้าไม่ได้บอกว่า ไม่ต้องทำ แต่ให้หาทางทำด้วยวิธีที่สะดวกขึ้นแทน คือแลกเป็นเงิน แล้วนำเงินมาซื้ออาหารใกล้พลับพลา แล้วมารับประทานต่อพระพักตร์พระเจ้า
หากการทำตามคำสั่งของพระเจ้า บางเรื่องเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับ สถานการณ์ของเราในเวลานั้นๆ
ไม่ควรที่จะยกเลิกการคำตามคำสั่งนั้น แต่ควรจะใช้สติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ปรับรูปแบบ เพื่อให้ยังคงสามารถทำตามคำสั่งของพระเจ้าได้ต่อไป
3. ในบทนี้สอนว่า เมื่อเราระลึกถึงพระคุณพระเจ้า ด้วยการขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเจ้าประทาน จะทำให้เราเรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้าอยู่เสมอ
4. เมื่อเราดูแลผู้รับใช้พระเจ้า คนต่างด้าว ลูกกำพร้า และแม่ม่าย พระเจ้าทรงสัญญาว่า พระเจ้าจะทรงอวยพรแก่บรรดากิจการซึ่งมือของเราได้ทำนั้น
การสำแดงความรักต่อผู้อื่น จึงเป็นการชักนำพระพรมาสู่ชีวิตของเราเอง
คำคม
“ การเดินตามพระเจ้า ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ”