ภาพรวม
- โมเสสสอนคนอิสราเอลเกี่ยวกับกฏหมายต่างๆที่พวกเขาจะใช้เมื่อเขาไปสู่ดินแดนคานาอันแล้ว
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy22-90815
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 22 หลังจากที่โมเสสสอนคนอิสราเอลเรื่อง ฆาตกรรมที่ไม่รู้ตัวผู้ทำผิด เชลยหญิง สิทธิบุตรหัวปี ลูกที่ดื้อรั้น และศพที่ถูกแขวนบนต้นไม้ แล้ว ก็กล่าวต่อไปว่า
– หากใครเห็นโค,แกะ หรือ ลา ของพี่น้อง หลงทางมา ก็อย่านิ่งเฉยเสีย
ให้พาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้เจ้าของ
แต่ถ้ายังไม่สามารถพาไปได้ ให้เลี้ยงสัตว์นั้นมาไว้ จนพี่น้องมาเที่ยวหา แล้วก็จงมอบคืนให้เขาไป
และถ้าเป็นสิ่งของเสื้อผ้า ก็ให้ทำเหมือนกัน
– หากใครเห็นสัตว์ของพี่น้องล้มลงตามทาง อย่านิ่งเฉย จงช่วยเขาพยุงสัตว์เหล่านั้นขึ้น
– ห้ามผู้หญิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย และห้ามผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพราะเป็นที่พึงรังเกียจแด่พระเจ้า
– หากใครเผอิญไปพบรังนก และแม่นก กกลูกนกหรือไข่อยู่ ห้ามเอาแม่นกไปพร้อมกับลูกนก
ให้ปล่อยแม่นกไปเสีย แต่ลูกนกนั้นจะเอาไปก็ได้
– เมื่อสร้างบ้านใหม่ ให้ก่อขอบขึ้นกันไว้ที่ดาดฟ้าหลังคา เพื่อไม่ให้มีคนตกลงมาจากหลังคา
– ห้ามเอาเมล็ดพืช 2 ชนิดหว่านลงในสวนองุ่นของท่าน มิฉะนั้นจะต้องมอบถวายผล ทั้งพืช และผลองุ่นของสวนนั้นแด่พระเจ้า
– ห้ามเอาโคและลาเข้าเทียมไถด้วยกัน
– ห้ามสวมเครื่องแต่งกายที่ทอด้วยขนสัตว์ปนด้ายป่าน
– ให้ทุกคนทำพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของชายเสื้อคลุมของตน
– หากคนใดได้ภรรยา แล้วต่อมาเกิดเกลียดชังนาง จึงกล่าวหานางว่า นางไม่ได้เป็นพรหมจารี
ถ้าเรื่องนั้นไม่จริง พ่อแม่ของหญิงนั้น สามารถนำหลักฐานที่แสดงว่า หญิงนั้นเป็นพรหมจารี มาให้ดูได้
ให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจับชายคนนั้นมาเฆี่ยน และปรับเงิน 100 เชเขล มอบให้แก่พ่อของหญิงนั้น
และเธอจะเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าเธอไม่ได้เลยตลอดชีวิตของเขา
แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นความจริง ให้พาหญิงสาวนั้นออกมานอกประตูบ้านพ่อของเธอ
แล้วพวกผู้ชายของเมืองนั้นจะเอาหินขว้างเธอให้ตาย
– ถ้าพบชายคนหนึ่งไปนอนกับภรรยาของคนอื่น ทั้งสองคนจะต้องมีโทษถึงตาย
– ถ้ามีหญิงพรหมจารีคนหนึ่งหมั้นไว้แล้ว และมีชายคนหนึ่งเข้าไปนอนกับเธอในเมือง และเธอไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ให้เอาหินขว้างเขาทั้งสองให้ตายเสีย
– ถ้าชายคนใด พบหญิงสาวที่คนอื่นหมั้นไว้แล้วที่กลางทุ่ง แล้วจับตัวหญิงคนนั้นและได้นอนกับเธอ เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ที่จะต้องมีโทษถึงตาย หญิงสาวนั้นไม่มีความผิด เพราะแม้เธอจะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีผู้ใดมาช่วยได้
– แต่ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงพรหมจารีที่ยังไม่ได้หมั้น และเขาจับตัวเธอไว้และนอนกับเธอ และมีผู้รู้เห็น
ชายคนนั้นจะต้องมอบเงิน 50เชเขลให้แก่พ่อของเธอ และรับเธอเป็นภรรยา และเขาจะหย่าร้างเธอไม่ได้ตลอดชีวิตของเขา
– ห้ามผู้ชายคนใดเอาภรรยาของบิดา มาเป็นภรรยาของตน และห้ามมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของบิดา
1. ในบทนี้เราเห็นถึงพระประสงค์ของพระเจ้า หลายประการ
– พระเจ้าชอบให้เราช่วยเหลือพี่น้อง
– พระเจ้าชอบให้เราพอใจสำหรับลักษณะที่พระเจ้าทรงสร้างเรามา
– พระเจ้าชอบให้เรามีเมตตา
– พระเจ้าชอบให้เราคำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของคนอื่น
– พระเจ้าไม่ชอบให้เราทำสิ่งที่ผิดแปลกไปจากหลักการธรรมชาติที่ควรทำ
– พระเจ้าไม่ชอบให้เราทิ้งภรรยาหรือสามีของเรา
– พระเจ้าไม่ชอบให้เราล่วงประเวณี
– พระเจ้าชอบให้เรารับผิดชอบต่อความผิดที่เราได้ทำไป
– พระเจ้าชอบให้เราให้เกียรติพ่อแม่เสมอ
2. ในพระคัมภีร์สถานะของหญิงที่หมั้นแล้ว เทียบเท่ากับเป็นภรรยาของชายที่หมั้นเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ยังไม่ได้อยู่กินด้วยกันเท่านั้น
ดังนั้นการทำผิดต่อเธอหรือการทำผิดของเธอ จึงใช้มาตรฐานของหญิงที่แต่งงานแล้ว
เราได้หมั้นไว้แล้วกับพระคริสต์ เหมือนที่ อ.เปาโลกล่าวกับคริสตจักรโครินธ์ ใน 2คร. 11:2ว่า “…ข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับสามีคนเดียว เพื่อถวายพวกท่านให้เป็นหญิงพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสต์”
ด้วยหลักการเดียวกันนี้ พระคริสต์จึงปฏิบัติต่อเรา เป็นดังเจ้าสาวของพระองค์
ถึงแม้ว่าวันนี้ เรายังไม่ได้ไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ก็ตาม
ในทำนองเดียวกัน เราเองก็สมควรทำตัวให้สมกับเป็นเจ้าสาวของพระคริสต์
ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ อย่างถวายเกียรติแด่พระเจ้า
คำคม
“ เราสมควรดำเนินชีวิต ให้สมกับเป็นของพระคริสต์ ”