ภาพรวม
- พระเจ้าทรงเลือกโยชูวาที่จะให้มารับหน้าที่แทนโมเสสเมื่อโมเสสจากโลกนี้ไป และพระองค์ได้บอกโมเสสและโยชูวาล่วงหน้าถึงการที่คนอิสราเอลจะละทิ้งพระเจ้า
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/deuteronomy31-92433
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 31 หลังจากที่โมเสสหนุนใจคนอิสราเอลให้เลือกติดตามพระเจ้าแต่ผู้เดียว และหากผิดพลาดพลั้งไปก็ให้กลับมาหาพระองค์เสมอ แล้ว
โมเสสก็กล่าวต่อไปว่า
วันนี้โมเสสมีอายุ 120 ปี แล้ว และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า จะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้
แต่พระเจ้ายังคงจะทรงข้ามไปกับคนอิสราเอล และจะทรงทำลายประชาชาติเหล่านี้ เพื่อคนอิสราเอลจะขับไล่คนเหล่านั้นไป และโยชูวาจะเป็นผู้นำของพวกเขา
พระเจ้าจะทรงมอบประชาชาติเหล่านั้นแก่คนอิสราเอล และให้คนอิสราเอลทำต่อพวกเขาตามพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระเจ้า
ดังนั้น ขอให้คนอิสราเอล
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
อย่ากลัวหรือครั่นคร้ามศัตรูเลย
เพราะว่าพระเจ้าทรงไปกับคนอิสราเอล
พระองค์จะไม่ทรงปล่อยพวกเขาให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งพวกเขา
แล้วโมเสสเรียกโยชูวาเข้ามา และกล่าวแก่โยชูวาต่อหน้าคนอิสราเอล
ด้วยคำพูดเดียวกับที่บอกกับประชาชนนั้น
โมเสสได้เขียนธรรมบัญญัติ แล้วมอบให้ปุโรหิต และแก่พวกผู้ใหญ่ทั้งสิ้นของคนอิสราเอล
และกล่าวว่า
เมื่อครบทุก 7 ปี ซึ่งเป็นปีปลดปล่อย ในเทศกาลอยู่เพิงนั้น
ให้อ่านธรรมบัญญัตินี้ให้คนอิสราเอลทั้งหมดฟัง
เพื่อให้พวกเขาได้ยินและเรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้า และระวังที่จะทำตามธรรมบัญญัตินี้
พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า วันซึ่งเขาต้องตายก็ใกล้เข้ามาแล้ว
ดังนั้นให้เขากับโยชูวา มาเข้าเฝ้าพระเจ้าในเต็นท์นัดพบ
โมเสสและโยชูวาจึงเข้าไปในเต็นท์นัดพบ
และพระเจ้าทรงปรากฏในเสาเมฆในเต็นท์นัดพบ
และตรัสกับโมเสสว่า
เมื่อโมเสสจากโลกนี้ไปแล้ว และคนอิสราเอลจะเล่นชู้กับพระของคนต่างชาติในแผ่นดินคานาอัน แล้วจะทอดทิ้งพระเจ้าและหักพันธสัญญาที่มีไว้กับพระองค์
แล้วในวันนั้นพระเจ้าจะกริ้วต่อพวกเขา และจะทอดทิ้งพวกเขา และซ่อนหน้าของพระองค์จากพวกเขา
พวกเขาจะถูกกลืน และเผชิญสิ่งร้ายและความลำบากมากมาย
เนื่องจากความชั่วที่พวกเขาทำ
ดังนั้นให้โมเสสและโยชูวา เขียนบทเพลง และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก
เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของพระเจ้าปรักปรำคนอิสราเอล ผู้ไม่รักษาสัญญา
ผู้หันไปปรนนิบัติพระอื่น และหมิ่นประมาทพระเจ้า
และเมื่อเขาเผชิญสิ่งร้ายและความลำบากมากมายแล้ว
เพลงบทนี้จะเป็นพยานต่อพวกเขา
ในวันนั้น โมเสสจึงเขียนบทเพลงนั้น และสอนแก่คนอิสราเอล
พระเจ้าตรัสสั่งโยชูวา ว่า
ให้เข้มแข็งและกล้าหาญ เพราะเขาจะนำคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน และพระเจ้าจะอยู่กับเขา
เมื่อโมเสสเขียนถ้อยคำของธรรมบัญญัตินี้ลงในหนังสือจนจบแล้ว
ก็บัญชาคนเลวีผู้หามหีบพันธสัญญา ว่า
ให้วางหนังสือนี้ไว้ข้างหีบพันธสัญญา ให้อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานปรักปรำคนอิสราเอล
เพราะพวกเขาเป็นคนมักกบฏและหัวแข็ง
เมื่อโมเสสตายไปแล้ว พวกเขาคงจะกบฏยิ่งกว่าในปัจจุบันนี้อีก
แล้วโมเสสได้กล่าวต่อพวกผู้ใหญ่ของทุกเผ่า และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
อัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานปรักปรำพวกเขา ว่า
เมื่อโมเสสตายไปแล้ว พวกเขาจะประพฤติหลงผิดไปเป็นแน่ และหันเหไปจากทางของพระเจ้า และจะเผชิญความทุกข์ลำบากในเวลาต่อมา เพราะพวกเขาจะทำสิ่งชั่วร้าย ทำให้พระเจ้ากริ้วด้วยสิ่งที่มือพวกเขาทำ
โมเสสจึงกล่าวถ้อยคำ เป็นบทเพลง ให้ ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมด ฟังจนจบ
1. วิธีที่จะทำให้เราเรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้า คือ การได้ยิน ได้ฟัง หรือได้อ่านพระคำของพระเจ้าอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
2. พระเจ้าทรงทราบล่วงหน้า ว่า ถึงอย่างไรก็ตามคนอิสราเอลก็จะละทิ้งพระองค์ ไปปรนนิบัติพระอื่น อยู่ดี
ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังคงรักพวกเขา อวยพระพรพวกเขา เตือนพวกเขา และเตรียมหนทางให้พวกเขาสามารถกลับมาหาพระองค์ได้ อยู่ดี
ไม่ว่าเราจะเป็นเช่นไร อ่อนแอสักเพียงใด ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรานั้นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย
พระองค์พร้อมเสมอที่จะต้อนรับเรากลับมาสู่อ้อมกอดของพระองค์
คำคม
“ ถึงอย่างไรก็ตาม พระเจ้ายังคงรักเราอยู่ดี และปรารถนาให้เรากลับมาหาพระองค์ ”