ภาพรวม
- พระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอล กำหนดปีสะบาโต และปีแห่งอิสรภาพ เมื่อพวกเขาเข้าไปในดินแดนคะนาอันแล้ว
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/lev25-80786
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เลวีนิติ บทที่ 25 นอกจากพระเจ้าจะสั่งเกี่ยวกับเรื่องการดูแลของใช้ในพลับพลาแล้ว พระองค์ยังสั่งเกี่ยวกับเรื่องปีสะบาโต ดังนี้
เมื่อคนอิสราเอลเข้าแผ่นดินคะนาอันแล้ว จงให้แผ่นดินนั้นถือสะบาโตแด่พระเจ้า โดย
– จงหว่านพืช ลิดแขนงสวนองุ่น และเก็บผล 6 ปี
– แต่ในปีที่7 นั้น ให้เป็นปีสะบาโต จงให้แผ่นดินหยุดพักสงบ ห้ามทำการเกษตร
– สิ่งใดที่งอกขึ้นมาเองนั้นจะเป็นอาหารของใครก็ได้ ไม่เฉพาะแต่เจ้าของที่ดินเท่านั้น
ทุก 7 ปีสะบาโต พอถึงปีที่ 50 ให้ถือเป็น ปีบริสุทธิ์ และปีประกาศอิสรภาพ
– ให้เป่าเขาสัตว์ดังสนั่นในวันที่ 10 เดือนที่ 7 ซึ่งเป็นวันลบมลทิน ประจำปี
– ในปีนั้นให้งดทำการเกษตร เพราะเป็นปีอิสรภาพ เป็นปีบริสุทธิ์ ให้รับประทานพืชผลที่งอกขึ้นเองในปีนั้น
– ในปีนั้นให้ทุกคนกลับไปสู่ภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน
– เมื่อมีการซื้อขายที่ดินกัน ให้ถือเป็นการซื้อขายกันชั่วคราว ไม่ใช่ถาวร พอถึงปีอิสรภาพก็ให้คืนที่ดินนั้นแก่เจ้าของเดิมเสีย
พระเจ้าทรงสัญญาว่า หากพวกเขาทำตามกฎเกณฑ์ และรักษากฎหมายของพระองค์ และปฏิบัติตามทุกอย่าง พวกเขาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัย แผ่นดินจะอำนวยผลให้พวกเขาได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ
ในปีที่7 ซึ่งเป็นปีสะบาโต ไม่ต้องห่วงว่าจะเอาอะไรรับประทาน เพราะพระเจ้าจะบัญชาพรให้มาเหนือพวกเขาในปีที่6 เพื่อจะมีพืชผลพอสำหรับ 3 ปี
เมื่อหว่านในปีที่8 เจ้าจะรับประทานของเก่าของเจ้าจนปีที่9
เมื่อเจ้าได้พืชผลใหม่เข้ามา ก็ยังรับประทานพืชผลเก่าไม่หมดเลย
ที่ดินที่ซื้อขายกัน เจ้าของเดิมสามารถนำเงินมาซื้อคืนได้
แต่ถ้าไม่ซื้อคืน พอถึงปีอิสรภาพ ที่ดินนั้นก็จะตกเป็นของเขาอีกครั้งหนึ่ง
การซื้อขายทาส ก็เช่นเดียวกัน ญาติของเขามีสิทธิ์ไถ่ถอนได้
แต่ถ้าไม่มีการไถ่ถอน เมื่อถึงปีอิสรภาพ เขาก็จะกลับการเป็นอิสระ
1. การให้แผ่นดินหยุดพักในปีที่ 7 ปีสะบาโต พระคัมภีร์ใช้คำว่า หยุดพักแด่พระเจ้า
มองในมุมหนึ่ง การหยุดพักแผ่นดินนั้นเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินเอง เป็นการฟื้นฟูดิน ทำให้ ปีต่อมา เพาะปลูกพืชผลงดงามยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์เองมากกว่า
แต่พระคัมภีร์ใช้คำว่า ถวายแด่พระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงสั่งให้ทำเช่นนั้น แม้การสั่งนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์เองก็ตาม
แต่การเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ถือว่านั่นเป็นการทำถวายพระเจ้า
ทำให้ผู้ที่กระทำได้ทั้งประโยชน์และยังได้รับพระพรอีกด้วย
พระเจ้าทรงแสนดี
2. เมื่อคนอิสราเอลเชื่อฟังพระเจ้า เขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับปัญหาที่จะตามหลังจากการเชื่อฟังเลย เพราะพระเจ้าจะเป็นผู้จัดการปัญหานั้นให้เอง
พวกเขาคิดว่า ถ้า ปีที่ 7 หยุดทำเกษตรแล้วจะเอาอะไรกิน?
แต่พระเจ้าทรงทำให้ปีที่6 ของพวกเขาเกิดผลเป็น 3 เท่า มากเกินพอจนกระทั่งปีที่ 9 ได้พืชผลใหม่มาแล้ว อันเก่าที่เหลือตั้งแต่ปีที่ 6 ยังไม่หมดเลย
วันนี้ เมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่ตามมา เพราะพระเจ้าจะรับผิดชอบเอง
3. ปีที่ 50 ปีประกาศอิสรภาพ เป็นปีที่เล็งถึงการเสด็จมาของพระเยซู
พระเยซูเองก็อ้างอิงถึงปีนี้ เมื่อพูดถึงพระราชกิจของพระองค์ ใน ลก. 4:18-19
“พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า
เพราะว่าพระองค์ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้
เพื่อนำข่าวดีมายังคนยากจน
พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาประกาศอิสรภาพแก่พวกเชลย
ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก
ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ
และประกาศปีแห่งความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
พระเยซูมาประกาศอิสรภาพแก่มนุษย์ทั้งหลายที่ตกเป็นทาสของบาป
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยทางพระเยซูคริสต์ เขาไม่จำเป็นต้องตกเป็นทาสของความบาป
ทาสของความทุกข์ระทมอีกต่อไป
ปัแห่งความโปรดปรานของพระเจ้ามาถึงเราทุกคนแล้ว
ขอบคุณพระเจ้า
คำคม
“ พระเยซูมาปลดปล่อยเราเป็นอิสระแล้ว เราไม่จำเป็นต้องตกเป็นทาสอีกต่อไป ”