ภาพรวม
- อาคานเก็บของที่ต้องถวายแด่พระเจ้า และของที่ต้องถูกทำลายไว้ จึงทำให้คนอิสราเอลพ่ายแพ้ต่อเมืองอัย
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/joshua07-94743
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยชูวา บทที่ 7 พระเจ้าทรงทำให้โยชูวาสามารถนำคนอิสราเอลบุกทำลายเมืองเยรีโคลงอย่างสิ้นเชิง
แต่ประชาชนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำลายถวายแด่พระเจ้า
เพราะอาคาน เผ่ายูดาห์ ได้นำของบางส่วนไปเป็นของตน
พระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่อประชาชนอิสราเอล
โยชูวาซึ่งยังไม่ทราบเรื่องนี้ ได้ให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย
แล้วส่งคนไปสอดแนมดูเมืองนั้น
และเขากลับมารายงาน ว่า ไม่ต้องให้ประชาชนขึ้นไปทั้งหมดก็ได้ ให้สัก 2,000 – 3,000 คนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ เพราะเมืองนั้นมีคนน้อย
ดังนั้นประชาชนจึงขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน
แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ตายไป 36 คน
แล้วประชาชนก็หมดกำลังใจ
โยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน ต่อหน้าหีบพันธสัญญาจนถึงเวลาเย็น
โยชูวาทูลพระเจ้า ว่า
ทำไมพระองค์จึงทรงนำคนอิสราเอลมา เพื่อจะมอบไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ทำลายเสีย?
พวกเขาไม่น่าข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาเลย
เขาเองไม่รู้จะอธิษฐานอะไรแล้ว เพราะคนอิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว
และพวกชาวแผ่นดินคานาอันคงจะยกมาทำลายคนอิสราเอลเสียแน่
พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า
ให้ลุกขึ้นเถิด นี่ไม่ใช่เวลามาซบหน้า
อิสราเอลได้ละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า โดยยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย
ดังนั้นคนอิสราเอลจึงต่อสู้ศัตรูไม่ได้
พระเจ้าจะไม่อยู่กับคนอิสราเอลอีกต่อไป
เว้นแต่โยชูวาจะทำลายสิ่งที่ต้องทำลายถวายเหล่านั้นเสีย
ดังนั้นให้ชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวแก่พวกเขา ว่า
ให้ชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ จะนำสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น ออกเสียจากท่ามกลางคนอิสราเอล
พรุ่งนี้เช้าจะมีการเรียกเข้ามาทีละเผ่า ทีละตระกูล ทีละครอบครัว และทีละคน เพราะพระเจ้าจะสำแดงว่า
ใครมีสิ่งที่ต้องทำลายถวาย
แล้วผู้นั้นและทุกสิ่งที่เป็นของเขา จะต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ
วันรุ่งขึ้นโยชูวาทำตามที่พระเจ้าสั่ง
ในที่สุดคนที่ถูกจับไว้ คือ อาคาน เผ่ายูดาห์
เมื่อโยชูวาซักไซร้ไล่เรียง
อาคานจึงยอมรับว่า ได้ทำบาปต่อพระเจ้า โดย เก็บเสื้อคลุมงามตัวหนึ่ง เงิน 2 กิโลกรัม และทองคำแท่ง ครึ่งกิโลกรัม เอาไว้
แล้วนำมาซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของตน
โยชูวาใช้คนไปดูที่เต็นท์ ก็พบของเหล่านั้นจริงๆ
โยชูวากับอิสราเอลทั้งหมดจึงพาอาคาน พร้อมกับของเหล่านั้น บุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขา ทุกสิ่งที่เขามีอยู่ ไปยังหุบเขาอาโคร์
แล้วอิสราเอลทั้งหมดจึงเอาหินขว้างเขาให้ตาย
แล้วเผาพวกเขาด้วยไฟ
แล้วเอาหินถมทับเขาไว้เป็นกองใหญ่
แล้วพระเจ้าก็ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์
1. เมื่ออาคานทำผิด ดูเหมือนครอบครัวของเขาก็รู้เห็นด้วย การซ่อนของเหล่านั้นใต้เต็นท์เล็กๆ โดยที่คนในครอบครัวไม่รู้ไม่น่าจะเป็นไปได้
เมื่ออาคานทำผิด พระเจ้าให้โยชูวาประกาศขั้นตอนชัดเจนว่า
พรุ่งนี้ พระเจ้าจะเปิดเผย
แม้อาคานจะรู้แล้วแต่ก็ไม่ยอมกลับใจสารภาพผิด
แม้เมื่อพระเจ้าเริ่มเปิดเผยทีละขั้น ทีละขั้น เขาเองก็มีโอกาสสารภาพกลับใจตลอดเวลา
ซึ่งในตลอดพระคัมภีร์ เห็นได้ชัดว่า
ใครก็ตามกลับใจก่อนการพิพากษาของพระเจ้าจะมาถึงเขา
จะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าเสมอ
แต่อาคานยังคงไม่กลับใจ จนในที่สุดถูกจับได้
แล้วค่อยมาสารภาพตอนนั้น
แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
วันนี้ ไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดพลั้งไปมากมายสักเพียงใด
หากเรากลับใจ สารภาพต่อพระองค์
พระองค์พร้อมที่จะให้อภัย
ดังนั้นเราควรรีบกลับใจ ก่อนที่จะสายเกินไป
2. เพราะอาคานเก็บของที่ต้องถวาย กับที่ต้องถูกทำลายไว้
ตัวเขาเอง จึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกทำลาย
หากเรามัวแต่ไล่จับสิ่งอนิจจัง ซึ่งสักวันต้องถูกทำลาย
ในที่สุดเราอาจจะหลงไปจากทางของพระเจ้า แล้วกลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกทำลายไปด้วย ก็เป็นไปได้
คำคม
“ พระเมตตามีมากพอ สำหรับผู้ที่กลับใจ ก่อนที่การพิพากษาจะมาถึง ”