ภาพรวม
- โยชูวายกทัพไปช่วยเมืองกิเบโอนปราบกษัตริย์อาโมไรต์ทั้ง 5 ที่บุกมาโจมตี และโดยการช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างอัศจรรย์คนอิสราเอลจึงมีชัยชนะเหลือศัตรูอย่างเด็ดขาด
สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านด้วยตัวเอง ให้ AI อ่านได้ที่นี่ครับ
https://audius.co/drker/joshua10-95451
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยชูวา บทที่ 10 หลังจากที่ชาวกิเบโอนออกอุบาย จนสามารถทำสัญญาสันติภาพกับคนอิสราเอลสำเร็จแล้ว
พอ อาโดนีเซเดกกษัตริย์แห่งเยรูซาเล็ม ทรงทราบเรื่อง ก็กลัวมาก
เพราะว่ากิเบโอนเป็นเมืองใหญ่เสมอเมืองหลวง และเป็นนักรบกล้าหาญ
ดังนั้น อาโดนีเซเดก จึงเชิญ
โฮฮัมกษัตริย์แห่งเฮโบรน
ปิรามกษัตริย์แห่งยารมูท
ยาเฟียกษัตริย์แห่งลาคีช
เดบีร์กษัตริย์แห่งเอกโลน
ให้ไปช่วยกันตีเมืองกิเบโอน
กษัตริย์คนอาโมไรต์ทั้ง 5 ก็รวบรวมกำลังพล และทรงยกขึ้นไปตั้งค่ายต่อสู้เมืองกิเบโอน
ชาวเมืองกิเบโอนจึงไปขอความช่วยเหลือจากโยชูวา
โยชูวาและทหารอิสราเอล จึงออกจากกิลกาล
พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า
“อย่ากลัวเขาเลยเพราะเราได้มอบเขาไว้ในมือเจ้าแล้ว
จะไม่มีใครในพวกเขาสักคนเดียวที่จะยืนหยัดต่อสู้เจ้าได้”
โยชูวาจึงยกเข้าโจมตีพวกนั้นทันที
โดยเดินทางตลอดคืนจากกิลกาล
พระเจ้าทรงทำให้พวกเขาสะดุ้งแตกตื่นต่อคนอิสราเอล
คนอิสราเอลจึงไล่ฆ่าพวกเขาเสียมากมายที่กิเบโอน ไปจนถึงเมืองอาเซคาห์ และเมืองมักเคดาห์
ขณะเมื่อพวกเขาหนีนั้น พระเจ้าทรงโยนหินใหญ่ๆ ลงมาจากฟ้า
จนผู้ที่ตายด้วยลูกเห็บนั้นก็มากกว่าที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
แล้วโยชูวาก็ทูลพระเจ้าว่า
“ดวงอาทิตย์เอ๋ย จงหยุดนิ่งตรงเมืองกิเบโอน และดวงจันทร์เอ๋ย ตรงหุบเขาอัยยาโลน”
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็หยุดนิ่ง ประมาณ 1 วันเต็ม จนคนอิสราเอลได้แก้แค้นศัตรูของเขาเสร็จ
แล้วโยชูวากับอิสราเอลทั้งหมดก็กลับมาสู่ค่ายที่กิลกาล
กษัตริย์ทั้ง 5 หนีไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำมักเคดาห์
โยชูวาจึงให้คนกลิ้งหินใหญ่ๆ ปิดปากถ้ำเสีย
แล้วให้คนอิสราเอลไล่ติดตามศัตรูต่อไป
หลังจากที่เสร็จจากการฆ่าคนเหล่านั้นเสียเป็นอันมากแล้ว
ประชาชนก็กลับมาหาโยชูวา ณ ค่ายที่มักเคดาห์โดยสวัสดิภาพทุกคน
แล้วโยชูวาจึงให้คนเปิดปากถ้ำนำกษัตริย์ทั้ง 5 ออกมา
โยชูวาจึงสั่งหัวหน้าของทหารที่ออกไปรบ ให้เอาเท้าเหยียบคอกษัตริย์เหล่านั้น
และโยชูวากล่าวว่า
“อย่ากลัวหรือตกใจเลย จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
เพราะว่าพระยาห์เวห์จะทรงทำต่อศัตรูทั้งหมดของท่านซึ่งท่านสู้รบด้วยอย่างนี้แหละ”
แล้วโยชูวาได้ประหารชีวิตกษัตริย์ทั้ง 5 เสีย
แล้วแขวนไว้ที่ต้นไม้ 5 ต้น จนเวลาเย็น ก็ปลดศพลงนำไปทิ้งไว้ในถ้ำ และเอาหินใหญ่ๆ ปิดปากถ้ำนั้นไว้
แล้วโยชูวาและคนอิสราเอล ก็เข้ายึดเมืองมักเคดาห์ , เมืองลิบนาห์ , เมืองลาคีช , เมืองเอกโลน , เมืองเฮโบรน และ เมืองเดบีร์ แล้วประหารทั้งกษัตริย์และชาวเมืองด้วยดาบ ทำลายพวกเขาเสียอย่างสิ้นเชิง
แล้วโยชูวาก็โจมตีแผ่นดินนั้นได้ทั้งหมด คือแดนเทือกเขา เนเกบ ที่ลุ่ม และที่ลาด ตั้งแต่เมืองคาเดชบารเนียจนถึงเมืองกาซา และทั่วแผ่นดินโกเชนจนถึงเมืองกิเบโอน
แล้วได้ทำลายทุกสิ่งที่หายใจเสีย ดังที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้
แผ่นดินทั้งหมดนี้ โยชูวายึดได้ในคราวเดียว เพราะพระเจ้าได้ทรงสู้รบเพื่ออิสราเอล
แล้วโยชูวาและคนอิสราเอลทั้งหมดก็กลับมายังค่ายที่กิลกาล
1. การบุกยึดดินแดนคานาอัน สู้กับนักรบชำนาญศึก เมืองที่แข็งแกร่ง และคนยักษ์
เหมือนเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็น จนแทบเป็นไปไม่ได้เลย
จนทำให้คนอิสราเอลในอดีตไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ไม่ยอมบุกเข้ายึดครอง
แต่เมื่อถึงเวลาที่คนอิสราเอล บุกเข้าไปยึดจริงๆ ตามคำสั่งของพระเจ้า
กลับกลายเป็นเรื่องแสนง่าย
และไม่สูญเสียไพร่พลเลย
เพราะพระเจ้าเอง ทรงสู้รบกับพวกเขาแทนคนอิสราเอล
เรามักจะจินตนาการปัญหาจนมันใหญ่เกินจริง
แล้วกลัวจนไม่กล้าเชื่อฟังพระเจ้า
หากเราลงมือเชื่อฟังด้วยความเชื่อ เราจะพบว่าปัญหามันไม่ใหญ่อย่างที่คิด
และสิ่งที่คิดว่ายากนั้น พระเจ้าทรงช่วยทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่ไม่เกินกำลังที่เราจะทำได้
จงกล้าที่จะเชื่อฟังพระเจ้า
2. โยชูวารู้ว่าพระเจ้าทรงให้คนอิสราเอล กำจัดศัตรูให้หมด
แต่เวลาเป็นอุปสรรค หากดวงอาทิตย์ตกแล้ว ศัตรูก็จะอาศัยความมืดหลบหนีจนกลับถึงเมืองของตนได้
เขาจึงกล้าขอต่อพระเจ้า จัดการกับอุปสรรคที่ขัดขวางแผนการของพระเจ้า
และพระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐานของเขา ให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หยุดยิ่ง 1 วันเต็ม
เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าทรงให้เราทำอะไร ตามพระคำของพระเจ้า
และเราพบอุปสรรคที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้านั้น
ให้เรารีบทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
ที่จะช่วยให้เราสามารถผ่าฟันอุปสรรคนั้นไปได้
แล้วในเวลาของพระองค์ เราจะเห็นว่า
เราสามารถผ่านอุปสรรคนั้นไปได้อย่างสง่างาม โดยวิธีของพระองค์
คำคม
“ กล้าเชื่อฟังและกล้าขอ ด้วยความ เชื่อ จะได้เห็นการอัศจรรย์ ”