สรุป กาลาเทีย 6

ภาพรวม

  • กาลาเทีย บทที่ 6 เราควรช่วยเหลือผู้อื่น แบบคำนึงถึงตนเองไปด้วย หาโอกาสทำดีต่อทุกคน อย่างไม่อ่อนระอาใจ แล้วจะได้รับผลที่ดีกลับมาในเวลาอันสมควร

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 6

เปาโลพูดกับคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ว่า

ถ้าจับ​ใคร​ที่​ละเมิด​ประ​การ​ใด​ได้
จง​ช่วย​คน​นั้น​ ด้วย​ใจ​สุภาพ​อ่อน​โยน ​ให้​เขา​กลับ​ตั้ง​ตัว​ใหม่
โดย​คิด​ถึง​ตัว​เอง เกรง​ว่า​พวกเขา​จะ​ถูก​ทด​ลอง​ด้วย

จง​ช่วย​รับ​ภาระ​ของ​กัน​และ​กัน

แต่​ละ​คน​จง​สำ​รวจ​การ​กระ​ทำ​ของ​ตน​เอง ​โดย​ไม่​ต้อง​เปรียบ​กับ​ผู้​อื่น
เพราะ​ว่า​แต่​ละ​คน​ต้อง​รับ​ภาระ​ของ​ตัว​เอง

​คน​ที่​รับ​การ​สอน​พระ​วจนะ
จง​แบ่ง​สิ่ง​ดี​ทุก​อย่าง​ให้​แก่​คน​ที่​สอน​ตน​เถิด

ใคร​หว่าน​อะไร​ลง ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว​สิ่ง​นั้น
หว่าน​สิ่ง​ที่​ตอบ​สนอง​เนื้อ​หนัง ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว ​ความ​เปื่อย​เน่า​จาก​เนื้อ​หนัง​นั้น
​หว่าน​สิ่ง​ที่​ตอบ​สนอง​พระ​วิญ​ญาณ ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว​ ชีวิต​นิรันดร์​จาก​พระ​วิญ​ญาณ​นั้น

อย่า​ให้​เรา​เมื่อย​ล้า​ใน​การ​ทำ​ดี
เพราะ​ว่า​ถ้า​เรา​ไม่​ท้อ​ใจ​แล้ว เรา​ก็​จะ​เก็บ​เกี่ยว​ใน​เวลา​อัน​สม​ควร

ให้​เรา​ทำ​ดี​ต่อ​ทุก​คน เมื่อมีโอกาส โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง ต่อพี่น้องคริสเตียน

คน​ที่​เข้า​สุหนัต​แล้ว ก็​ไม่​ได้​ประ​พฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ
แต่​คนเหล่านั้น ต้องการ​ปรารถ​นา​ให้พี่น้องกาลาเทีย ​เข้า​สุหนัต
เพื่อ​จะ​ได้​เอาไป​อวด ว่าชวนคนเข้ารีตยิวได้มาก

เปาโลขออวดเรื่องเดียว คือ ​เรื่อง​กาง​เขน​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​

การ​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​นั้น​สำ​คัญ
การเข้าสุหนัตหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ

1. เราควรหาโอกาสทำสิ่งดีแก่ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่น้องคริสเตียน
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สอนเรา เสริมสร้างจิตวิญญาณของเรา
เพราะการทำเช่นนั้นเป็นการสำแดงความรักของพระเจ้าให้ผู้อื่นประจักษ์
และเป็นการสำแดงความกตัญญูต่อผู้ที่มอบสิ่งที่ดีแก่เรา

2. สิ่งเดียวที่เราอวดได้ คือ เรื่อง​กาง​เขน​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​
โดยอวดว่า ฉันเป็นคนบาป สมควรแก่การพิพากษาแต่โดยพระเมตตาของพระเจ้า
เป็นส่งพระบุตรองค์เดียว คือ พระเยซูคริสต์ มาตายบนไม้กางเขน
เพื่อช่วยฉันให้รอดพ้นจากพิพากษา
อวดว่า ฉันนี่แหละคิอคนนั้น คนบาป ผู้ได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 6 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2QsmM3L

คำคม

“ การมีชีวิตที่ถูกสร้างใหม่แล้ว เป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวดในชีวิตคริสเตียน ”

สรุป กาลาเทีย 5

ภาพรวม

  • กาลาเทีย บทที่ 5 ผู้รับการไถ่โดยพระเยซูคริสต์ จะเป็นไท ไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระวิญญาณ ซึ่งจะสะท้อนออกมาเป็น การไม่ดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง แต่ตามพระวิญญาณ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 5

เปาโล พูดกับคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ว่า

พระเยซูทรงไถ่พวกเขา ให้มีเสรี​ภาพ
ดังนั้น จง​ตั้ง​มั่น และ​อย่า​เข้า​เทียม​แอก​เป็น​ทาส​อีก​เลย

หากพวกเขาพยายามทำตัวให้ชอบธรรม โดยการทำตามธรรมบัญญัติ
พระเยซูคริสต์​จะ​ไม่​ทรง​เป็น​ประ​โยชน์​อะไร​ให้​แก่​พวกเขาเลย
พวกเขาจะ​ถูก​ผูก​มัด ​ด้วยธรรม​บัญ​ญัติ​
และถูก​ตัด​ขาด​จาก​พระ​คริสต์
และ​หล่น​จาก​พระ​คุณ​ไป​เสีย​แล้ว

โดย​พระ​วิญ​ญาณ​และ​ความ​เชื่อ
​เรา​จึงหวัง​ว่า​จะ​ได้​รับความ​ชอบ​ธรรม ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​
ความ​เชื่อ​ จะ​แสดง​ออก​เป็น​การ​กระ​ทำ​ ด้วย​ความ​รัก​

พวกเขา​กำ​ลัง​ก้าว​หน้า​ไป​ด้วย​ดี​อยู่​แล้ว ในการ​เชื่อ​ฟัง​ความ​จริง
อย่าหลงไปฟัง​ชัก​ชวน ให้หันออกจากความจริง
คนที่ชักชวนนั้น​จะ​ต้อง​ได้​รับ​โทษ

พวกเขา​ถูก​เรียก​ให้​มี​เสรี​ภาพ
อย่า​ใช้​เสรี​ภาพ​เพื่อ​ทำ​ตาม​เนื้อ​หนัง
แต่​จง​รับ​ใช้​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​รัก​

เพราะ​ว่า​ธรรม​บัญ​ญัติ​ สรุป​ได้​เป็น​คำ​เดียว คือ​ว่า
“จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง”

แต่​ถ้า​​พวกเขากัด​และ​กิน​เนื้อ​กัน​และ​กัน
จง​ระวัง​ให้​ดี พวกเขา​จะ​ย่อย​ยับ​ไป​ด้วย​กัน

จง​ดำ​เนิน​ชีวิต​ตาม​พระ​วิญ​ญาณ
แล้ว​ท่าน​จะ​ไม่​สนอง​ความ​ต้อง​การ​ของ​เนื้อ​หนัง
เพราะ​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​ต่อ​สู้​กัน

ถ้าได้​รับ​การ​ทรง​นำ​โดย​พระ​วิญ​ญาณ ก็​ไม่​อยู่​ใต้​ธรรม​บัญ​ญัติ

คน​ที่​ประ​พฤติ​ตามการงานของเนื้อหนัง ​จะ​ไม่​มี​ส่วน​ใน​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า

ถ้า​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​โดย​พระ​วิญ​ญาณ ก็​จง​ดำ​เนิน​ชีวิต​ตาม​พระ​วิญ​ญาณ​ด้วย
แล้ว​ผล​ของ​พระ​วิญ​ญาณ​ จะปรากฏในชีวิตของเรา

ผู้​ที่​อยู่​ฝ่าย​พระ​เยซู​คริสต์ ​ได้​ตรึง​เนื้อ​หนัง​ไว้​ที่​กาง​เขน
​พร้อม​กับ​ราคะ​และ​ตัณ​หา​แล้ว

อย่า​อวด​ตัว อย่า​ยั่ว​โทสะ​กัน และ​อย่า​อิจ​ฉา​กัน​เลย

1. พระเยซูคริสต์​ทรงนำพระพรยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่เราจะมีได้มาสู่เรา
แต่การมาของพระเยซูคริสต์ จะ​ไม่​เป็น​ประ​โยชน์​อะไร​เลย
สำหรับคนที่ไม่ไว้วางใจในข่าวประเสริฐของพระองค์

พระเยซูคริสต์ตายเพื่อเขา เพื่อเขาไม่ต้องพยายามทำดีอีก
การทำดีของเขาจะเกิดโดยการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขา

แต่ถ้าใครพยายามทำดีด้วยตนเอง เพื่อให้พระเจ้ายอมรับการกระทำของเขา
พระเยซูคริสต์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขาแล้ว

2. เราอยู่เป็นเนื้อหนัง มีแนวโน้มที่จะทำตามเนื้อหนัง
แต่เนื่องจากเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ สถิตในเราแล้ว
เราจึงควรดำเนินตามการสอนและการดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์
และเมื่อเราทำเช่นนี้ มากขึ้นเท่าใด ชีวิตของเราก็จะห่างไกลจากการดำเนินตามเนื้อหนังมากขึ้นเท่านั้น

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 5 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2ZxPuEC

คำคม

“ ผลของพระวิญญาณ จะปรากฏในชีวิตของผู้ที่ดำเนินตามพระวิญญาณ ”

สรุป กาลาเทีย 4

ภาพรวม

  • กาลาเทีย บทที่ 4 พระเยซูทรงไถ่เราออกจากการเป็นทาสธรรมบัญญัติและภูตผีต่างๆแล้ว เราเป็นไทแล้ว จึงสมควรดำเนินชีวิตอย่างคนที่เป็นไท

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 4

เปาโลพูดกับคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ว่า

เมื่อ​ทา​ยาท​ยัง​เป็น​เด็ก​อยู่ เขา​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​ทาส​เลย
ถึง​แม้​เขา​จะ​เป็น​เจ้า​ของ​ทรัพย์​สม​บัติ​ทั้ง​หมด
แต่​เขา​ก็​อยู่​ใต้​บัง​คับ​ของพ่อ​บ้าน
จน​ถึง​เวลา​ที่​บิดา​ได้​กำ​หนด​ไว้

เมื่อก่อนเราก็​เป็น​ทาส​อยู่​ใต้​บัง​คับ​ ของ​ภูต​ผี​ที่​ครอบงำ​ของ​จักร​วาล
แต่​เมื่อ​ครบ​กำ​หนด​แล้ว
พระ​เจ้า​ก็​ทรง​ใช้​พระ​บุตร​ ​มา​ถือ​กำเนิด​ใต้​ธรรม​บัญ​ญัติ
เพื่อ​จะ​ทรง​ไถ่​เรา​​ที่​อยู่​ใต้​ธรรม​บัญ​ญัติ
เพื่อ​ให้​เรา​ได้​รับ​ฐานะ​เป็น​บุตร
​แล้วพระ​วิญ​ญาณ​แห่ง​พระ​บุตร​ ก็เข้า​มา​ใน​ใจ​ของ​เรา

ดังนั้น เรา​จึง​ไม่​ใช่​ทาส​อีก​ต่อ​ไป​แต่​เป็น​บุตร และ​เป็น​ทา​ยาท

​ก่อน​นี้ เรายัง​ไม่​รู้​จัก​พระ​เจ้า เราเป็น​ทาส​ของ​สิ่ง​ซึ่ง​โดย​สภาพ​แล้ว​ ไม่​ใช่​เทพ​เจ้า​เลย
บัด​นี้ เมื่อเรารู้​จัก​พระ​เจ้า​แล้ว
หรือ​ที่​ถูก​ก็​คือ พระ​เจ้า​ทรง​รู้​จักเรา​แล้ว
เราก็ไม่ควร​อยากกลับ​ไป​เป็นทาส​ภูต​ผี ซึ่ง​อ่อน​แอ​และ​อเนจ​อนาถ เหล่า​นั้น​อีก

ถ้าพวกเขา​ถือ​วัน เดือน ฤดู และ​ปี
เปาโลเกรง​ว่า​ สิ่งที่​เปาโล​ได้​ตราก​ตรำ​เพื่อ​พวกเขานั้น​ จะ​ไร้​ประ​โยชน์

เมื่อเปาโล ​เริ่ม​​ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ​แก่​พวกเขา
ตอนนั้นเปาโลเจ็บ​ป่วย​ทาง​กาย
พวกเขา​ก็​ไม่​ได้​ดู​หมิ่น​หรือ​รัง​เกียจ​เลย
แต่​ได้​ต้อน​รับเปาโล ​เหมือน​กับ​ว่า​ เป็น​ทูต​สวรรค์​ของ​พระเจ้า

บัดนี้สิ่งเหล่านี้ ​หาย​ไป​ไหน​เสีย​แล้ว?
เปาโล​ได้​กลาย​เป็น​ศัตรู​ของพวกเขา เพราะพูดกับพวกเขา​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​หรือ?

คน​เหล่า​นั้น​เอา​อก​เอา​ใจ​พวกเขา ​
เพราะ อยาก​​จะ​ได้การ​เอา​อก​เอา​ใจ​ ให้แก่ตนเอง

เปาโลยังต้อง​เจ็บ​ครรภ์​เพราะ​พวกเขา​อีก
จน​กว่า​พระ​คริสต์​จะ​ได้​ทรง​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​ใน​ตัว​พวกเขา

อับ​รา​ฮัม​มี​บุตร​สอง​คน
คน​หนึ่ง​เกิด​จาก​หญิง​ทาส ​เกิด​ตาม​ปกติ
เปรียบเหมือน ได้​พันธ​สัญ​ญา​ ​จาก​ภูเขา​ซี​นาย
เล็ง​ถึง​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม​ปัจ​จุ​บัน ที่เป็นทาส

อีก​คน​หนึ่ง​เกิด​จาก​หญิง​ที่​เป็น​ไท ​เกิด​ตาม​พระ​สัญ​ญา
เปรียบเหมือน ได้รับพันธสัญญา จากพระสัญญา
เล็งถึง​เย​รู​ซา​เล็ม​ ซึ่ง​อยู่​เบื้อง​บน​ ที่เป็น​ไท

​พระ​คัม​ภีร์กล่าว​ว่า
“จง​ชื่น​ชม​ยินดี​เถิด โอ​หญิง​หมัน​เอ๋ย ผู้​ไม่​คลอด​บุตร
จง​เปล่ง​เสียง​โห่​ร้อง เจ้า​ผู้​ไม่​เจ็บ​ครรภ์ 
เพราะ​ว่า​บุตร​ของ​แม่​ร้าง ก็​ยัง​มี​มาก​กว่า​บุตร​ของ​หญิง​ที่​มี​สามี” 

พวกเรา​เป็น​บุตร​แห่ง​พระ​สัญ​ญา​ เช่น​เดียว​กับ​อิส​อัค
ดังนั้นผู้​ที่​เกิด​ตาม​ปกติ​ ได้​ข่ม​เหง​ ผู้​ที่​เกิด​ตาม​พระ​วิญ​ญาณ ​เหมือน​กันทั้งในอดีต และปัจจุบัน

พระ​คัม​ภีร์​กล่าวว่า​
“จง​ไล่​หญิง​ทาส​กับ​บุตร​ชาย​ของ​นาง​ไป​เสีย
เพราะ​ว่า​บุตร​ของ​หญิง​ทาส​ จะ​ไม่ได้รับ​มร​ดก​ร่วม​กับ​บุตร ​ของ​หญิง​ที่​เป็น​ไท​”

เรา​ไม่​ใช่​บุตร​ของ​หญิง​ทาส
แต่​เป็น​บุตร​ของ​หญิง​ที่​เป็น​ไท

1. ตอนที่เปาโลมาประกาศที่แคว้นกาลาเทีย เขากำลังเจ็บป่วยทางร่างกายบางอย่าง
แสดงว่า คนฝ่ายวิญญาณ เจ็บป่วยได้ จึงเป็นคำสอนที่บิดเบือนที่สอนว่าเป็นคริสเตียนจะไม่เจ็บป่วย
และความเจ็บป่วยไม่จำเป็นต้อง เป็นสิ่งที่หยุดเราในการรับใช้พระเจ้า

2. ​พระ​คัม​ภีร์กล่าว​ว่า ​หญิง​หมัน​เอ๋ย ได้มีบุตรมากมาย
หญิงหมัน ไม่ควรจะมีบุตรได้ แต่โดยพระเจ้าเธอกลับมีบุตรมากมาย
เหมือน เราไม่ควรจะรอดพ้นการเป็นทาส แต่กลับได้เป็นไท
และได้เป็นลูกของพระเจ้า ทั้งที่เราไม่สมควรเลย

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า และโดยพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเรา
แต่การเป็นบุตรนี้ เป็นตามพระสัญญา ไม่ใช่ตามธรรมบัญญัติ
ตามพระสัญญาจะเป็นไท ตามธรรมบัญญัตืจะเป็นทาส
และคนที่เป็นทาส จะไม่มีวันจะได้รับมรดกที่เตรียมไว้สำหรับบุตร

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 4 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2Q0E499

คำคม

“ จนกว่า​พระ​คริสต์​​ได้​ทรง​ก่อ​ร่าง​ขึ้น​ใน​ตัวเรา ชีวิตของเราจึงจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้ ”

สรุป กาลาเทีย 3

ภาพรวม

  • กาลาเทีย บทที่ 3 เราเชื่อวางใจในพระเยซู เป็นลูกหลานของอับราฮัม โดยความเชื่อ และจะได้รับพระพรอย่างเดียวกับอับราฮัม คือ ได้รับความชอบธรรมจากพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 3

เปาโลพูดกับคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ว่า

ชาว​กา​ลา​เทีย​คน​เขลา ทั้งๆ ที่​พวกเขาเข้าใจเรื่อง​การ​ถูก​ตรึง​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ ​แล้ว
และ​ได้​รับ​พระ​วิญ​ญาณแล้ว ​โดย​ความ​เชื่อ​ตาม​ที่​ได้​ฟัง
และได้​รับ​ประ​สบ​การณ์​ และ​มีทรง​สำ​แดง​ฤทธา​นุภาพมากมาย

ทำไมพวกเขาจึง​เริ่ม​ต้น​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ
แต่​จะ​จบ​ลง​ด้วย​เนื้อ​หนังเล่า?

อับ​รา​ฮัมเชื่อ​พระ​เจ้า
และ​พระ​องค์​ทรง​ถือ​ว่า​ ท่าน​เป็น​คน​ชอบ​ธรรม​ อย่างไร
คน​แห่ง​ความ​เชื่อ​ ก็เป็น​บุตร​ของ​อับ​รา​ฮัม​ อย่างนั้น
ดังนั้น คน​ที่​เชื่อ​จึง​ได้​รับ​พร​ร่วม​กับ​อับ​รา​ฮัม​ผู้​ซึ่ง​เชื่อ

คนที่​พึ่ง​การ​ประ​พฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ ก็​ถูก​สาป​แช่ง
เพราะ​ ทุก​คน​ที่​ไม่​ได้​ประพฤติ​ตาม​ ข้อ​ความ​ทุก​ข้อ​ใน​ธรรม​บัญ​ญัติ​ ก็​ถูก​สาป​แช่ง

จึงไม่มี​ใคร​ถูก​ชำระ​ให้​ชอบ​ธรรม ​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​เจ้า​
ด้วย​ธรรม​บัญ​ญัติ​ได้​เลย

คน​ชอบ​ธรรม​ด้วยความเชื่อ จะ​มี​ชีวิต​อยู่​โดย​ความ​เชื่อ
ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม ธรรม​บัญ​ญัติ ก็​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​โดย​ธรรม​บัญ​ญัติ​นั้น

พระ​คริสต์​ทรง​ไถ่​เรา ​ให้​พ้น​การ​สาป​แช่ง​แห่ง​ธรรม​บัญ​ญัติ
โดย​การ​ทรง​ถูก​สาป​แช่ง​เพื่อ​เรา
เพื่อ​พร​ของ​อับ​รา​ฮัม​จะ​ได้​มา​ถึง​เรา ผู้อยู่​ใน​พระ​เยซู​คริสต์
และเป็นผู้ได้​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​ตาม​พระ​สัญ​ญา ​โดย​ความ​เชื่อ

​พระ​สัญ​ญา​ที่​ได้​ประ​ทาน​ไว้​แก่​อับ​รา​ฮัม ​และ​พงศ์​พันธุ์​ของ​ท่าน​
พงศ์พันธุ์นั้น ​คือ พระ​คริสต์

​ถ้า​ได้​รับ​มร​ดก ​โดยการทำตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ
นั่นก็​แสดงว่า เราได้รับไม่​ใช่​โดย​พระ​สัญ​ญา​

แต่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​มรดก​นั้น ​ให้​แก่​อับ​รา​ฮัม​ โดย​พระ​สัญ​ญา
ธรรม​บัญ​ญัติ​มีไว้ เพื่อให้​การ​ละเมิด ปรากฏ
จน​กว่าพระคริสต์เสด็จมา
แล้ว​ธรรม​บัญ​ญัติ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

​ธรรม​บัญ​ญัติ ไม่ได้​ขัด​แย้ง​กับ​ พระ​สัญ​ญา​ของ​พระ​เจ้า
​ธรรม​บัญ​ญัติ​ที่​ถูก​ตั้ง​ไว้​ มนุษย์ทำไม่ได้
มนุษย์จึงไม่​สา​มารถ​ได้​ชีวิต และได้ความ​ชอบ​ธรรมจากธรรมบัญญัติ
บาป ได้ปรากฏตัว เมื่อธรรมบัญญัติปรากฏ ​
แล้วบาปได้จอง​จำ​มนุษย์ทุก​คน​ไว้
เพื่อ​พระ​สัญ​ญา​แห่ง​ความ​เชื่อ​ จะสำเร็จ ใน​พระ​เยซู​คริสต์​

จึงเปรียบเสมือนว่า
เรา​ถูก​ธรรม​บัญ​ญัติ​จอง​จำ​ไว้ ​จน​ความ​เชื่อ​จะ​ปรา​กฏ

ธรรม​บัญ​ญัติ​จึง​เป็น​ผู้​ควบ​คุม​ของ​เรา จน​พระ​คริสต์​เสด็จ​มา
เพื่อ​เรา​จะ​ถูก​ชำระ​ให้​ชอบ​ธรรม​ และ​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า
โดย​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์

เมื่อเรา​เป็น​ของ​พระ​คริสต์​แล้ว
เราก็​เป็น​พงศ์​พันธุ์​ของ​อับ​รา​ฮัม
คือ​ เป็น​ทา​ยาท​ตาม​พระ​สัญญา

1. ​พระเจ้าทรง​ถือ​ว่า​ อับราฮัม​เป็น​คน​ชอบ​ธรรม​ โดยความเชื่อ อย่างไร
พระเจ้าก็ทรงถือว่า เราเป็น​บุตร​ของ​อับ​รา​ฮัม​ โดยความเชื่อ อย่างนั้น

โดยความเชื่อ อับราฮัม ผู้ไม่ชอบธรรม ถูกนับว่าเป็นผู้ชอบธรรม
โดยความเชื่อ เราผู้ไม่ใช่เชื้อสายของอับราฮัม จึงถูกนับว่าเป็นเชื้อสายของอับราฮัม

เราจึงได้รับสิ่งที่พระเจ้าประทานแก่อับราฮัม คือ ความชอบธรรม โดยความเชื่อ

2. การพยายามทำตามธรรมบัญญัติ เป็นคำแช่งสาป เพราะไม่มีวันทำได้
แล้วใครก็ตามที่พยายามทำแล้วทำไม่ได้ จะถูกสาป

แต่โดยพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงรับคำแช่งสาปแทนเรา โดยการถูกตรึงบนไม้กางเขนแทนเรา
อย่าให้เราเข้าไปสู่คำแช่งสาปอีก ด้วยการพยายามทำตามธรรมบัญญัติ
แต่ให้เราดำเนินชีวิตแบบใหม่ ด้วยการดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์
แล้วเมื่อเราดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชีวิตของเราก็จะทำสอดคล้องกับธรรมบัญญัติเอง โดยอัตโนมัติ

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 3 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2Qir5yA

คำคม

“ พระสัญญาของพระเจ้า จะเกิดขึ้นเป็นจริงในเรา เมื่อเราเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ”

สรุป กาลาเทีย 2

ภาพรวม

  • กาลาเทีย บทที่ 2 เปาโลเล่าเรื่องการยอมรับงานของเขา โดยผู้นำเหล่าอัครทูด และการยืนหยัดของเขา ในความจริงแห่งข่าวประเสริฐ ว่า เรารอดได้โดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยการทำตามธรรมบัญญัติ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 2

เปาโลเล่าให้คริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย ฟังต่อไป ว่า

หลัง​จากที่เปาโล​เข้า​ไป​ใน​เขต​แดน​ซีเรีย​และ​ซีลี​เซีย แล้ว
14 ​ปี​ต่อ​มา เปาโล​ บาร​นา​บัส​ และ​​ทิ​ตัส ​ได้​​ไป​ยัง​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม​

เปาโลได้​เล่า​ข่าว​ประ​เสริฐ​ที่​ เปาโล​ประ​กาศ​แก่​คน​ต่าง​ชาติ​ให้​คน​สำ​คัญ​บาง​คน​ฟัง​เป็น​ส่วน​ตัว
เพราะ เกรง​ว่า​เปาโล​อาจ​จะ​วิ่ง​อย่าง​ไร้​ประ​โยชน์ เมื่อทำเพื่อโอ้อวด

​ทิตัส เป็น​คน​กรีก แต่​ก็​ไม่​ได้​ถูก​บัง​คับ​ให้​เข้า​สุหนัต
ทั้งที่​มี​พี่​น้อง​จอม​ปลอม พยายาม​จะ​ทำ​ให้​เขา​เป็น​ทาส
โดยการบอกว่าเขาต้องเข้าสุหนัตจึงจะเป็นผู้เชื่อที่สมบูรณ์

แต่​เปาโล​ไม่​ได้​ยอม​อ่อน​ข้อ​ให้​กับ​พวก​นั้นแม้​เพียงนิด​เดียว

เมื่อผู้นำที่นั่น เห็น​ว่า
เปาโล​ได้​รับ​มอบ​ให้​ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ ​แก่​คน​​ที่​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต
เหมือนเป​โตร​ ​ประ​กาศ​แก่​คน​ที่​ได้​เข้า​สุหนัต

​ยา​กอบ​ เปโตร ​และ​ยอห์น ซึ่ง​เป็น​เสา​หลัก
ก็​ได้​จับ​มือ​ขวา​ของเปาโลกับ​บาร​นา​บัส
เพื่อแสดง​ว่า​เป็น​เพื่อน​ร่วม​งาน​กัน
พวกเขา​ขอ​แต่​เพียง​ให้เปาโล​นึก​ถึง​คน​จน
ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​เปาโล​ทำ​อย่าง​กระ​ตือ​รือ​ร้น​อยู่​แล้ว

แต่​เมื่อ​เปโตร มา​ถึง​เมือง​อัน​ทิ​โอก​แล้ว
เปโตรก็ปลีกตัวออกจากคนต่างชาติ ทันที เมื่อมีผู้เชื่อจากเยรูซาเล็มแวะมาถึง
​พวก​ยิว​คน​อื่นๆ และบาร​นาบัส ทำ​ตาม​เปโตร​ด้วย

เปาโล​จึง​กล่าว​กับ​เปโตร ว่า
เขา​ซึ่ง​เป็น​พวก​ยิว ยังทำบาปเหมือน​คน​ต่าง​ชาติ
ทำไม​​จึง​บัง​คับ​คน​ต่าง​ชาติ ​ให้​ประพฤติ​ตาม​อย่าง​พวก​ยิว​เล่า?

เปาโล​เป็น​ยิว​โดย​กำ​เนิด ยัง​รู้​ว่า​
ไม่​มี​ใคร​ถูก​ชำระ​ให้​ชอบ​ธรรม​ได้ โดย​การ​ประ​พฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ
แต่​โดย​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ เท่า​นั้น

โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ​นั้น
ไม่​มี​มนุษย์​คน​ใด​จะ​ถูก​นับ​ว่า​ชอบ​ธรรม​ได้​เลย

​โดย​พระคริสต์​นั้น
เรา​ได้​ตาย​ต่อ​ธรรม​บัญ​ญัติ​แล้ว
เพื่อ​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​พระ​เจ้า
เราถูก​ตรึง​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​แล้ว
เรา​เอง​ไม่​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป
แต่​พระ​คริสต์​ต่าง​หาก​ที่​ทรง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​เรา

ชีวิต​ซึ่ง​เรา​ดำ​เนิน​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​ขณะ​นี้
เราต้อง​ดำ​เนิน​อยู่​โดย​ความ​เชื่อ​ในพระเยซูคริสต์ ​
ผู้​ได้​ทรง​รัก​เรา และ​ได้​ทรง​สละ​พระ​องค์​เอง​เพื่อ​เรา

เพื่อจะ​ไม่​ได้​ทำ​ให้​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า​เป็น​โมฆะ
เพราะ​ว่า​ถ้า​ความ​ชอบ​ธรรม​เกิด​จาก​ธรรม​บัญ​ญัติ​แล้ว
พระ​คริสต์​ก็​สิ้น​พระ​ชนม์ ​โดย​เปล่า​ประ​โยชน์

1. เมื่อเปโตรกลัวการถูกตำหนิจากพวกคริสเตียนชาวยิว จนทำขัดกับข่าวประเสริฐ
ทำเป็นรังเกียจคนต่างชาติ
ผลที่เกิดขึ้นคือ คนอื่นๆแม้แต่บารนาบัส ก็หลงทำตามเปโตรไปด้วย

การกระทำของผู้นำฝ่ายวิญญาณ จะส่งอิทธิพลต่อผู้ติดตามเขาเสมอ
ในฐานะที่เรากำลังเป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณของบางคน
เช่น ลูกของเรา หรือลูกแกะของเรา หรือเพื่อนๆของเราบางคน
เราสมควรระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ให้สอดคล้องกับข่าวประเสริฐอยู่เสมอ

2. พระ​คริสต์​จะสิ้น​พระ​ชนม์ แบบ​เปล่า​ประ​โยชน์
หากมนุษย์สามารถเป็นคนชอบธรรมได้ โดยการทำตามธรรมบัญญัติ
แบบนั้นพระเยซูก็ไม่จำเป็นต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมาน บนไม้กางเขนก็ได้
แค่ฝึกให้มนุษย์ทำตามธรรมบัญญัติให้ได้ นั่นก็เพียงพอแล้ว

แต่ความจริงแล้ว ไม่ว่ามนุษย์จะฝึกฝน หรือพยายามสักเพียงใด
ก็ไม่มีทางทำตามธรรมบัญญัติให้ครบถ้วนได้
ดังนั้นจึงไม่มีมนุษย์คนใด สามารถเป็นคนชอบธรรมได้ด้วยวิธีนี้

แต่โดยทางของพระเยซูคริสต์
มนุษย์คนใดๆก็ตาม สามารถกลายเป็นผู้ชอบธรรมได้
โดยการเชื่อวางใจในพระเยซู

ถ้าเราคิดว่าทำดีให้มากพอ จนพระเจ้าพอใจในเรา
เราก็กำลังเดินออกจากข่าวประเสริฐเสียแล้ว
เราได้รับความพอใจจากพระเจ้า โดยการซ่อนตัวอยู่ในพระคริสต์เท่านั้น

วันนี้พระเจ้าทรงพอพระทัยในคุณแล้วหรือยัง?

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 2 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2Zp0jsz

คำคม

“ ​โดย​พระคริสต์​ เราได้​ตาย​ต่อ​ธรรม​บัญ​ญัติ​แล้ว เพื่อ​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อพระองค์ ”

สรุป กาลาเทีย 1

ภาพรวม

  • พระธรรมกาลาเทีย เป็นจดหมายที่เปาโลเขียนถึงคริสตจักรในแคว้นกาลาเทีย เพื่อ​สอน​พวกเขาให้​เข้าใจ​ข่าว​ประเสริฐ​อย่าง​ถูกต้อง ไม่หลงไปตาม​คำ​สอน​เท็จ
  • กาลาเทีย บทที่ 1 เปาโลย้ำกับคริสตจักรในกาลาเทีย ว่าเขาเป็นอัครทูตที่ได้รับแต่งตั้งจากพระเยซูคริสต์ และนำข่าวประเสริฐที่ถูกต้องมาให้แก่พวกเขา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

กาลาเทีย บทที่ 1

เปา​โล พูดกับ คริสต​จักร​ใน​แคว้น​กาลาเทีย ว่า

เปาโล เป็น​อัคร​ทูต ซึ่ง​พระ​เยซู​คริสต์​ ได้​ทรง​แต่ง​ตั้ง

พระ​เยซู​ทรง​สละ​พระ​องค์​เอง เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​พ้น​จาก​บาปและจากยุค​ปัจ​จุบัน​อัน​ชั่ว​ร้าย

เปาโลประ​หลาด​ใจมาก พวกเขา​ละ​ทิ้ง​พระเยซูไปอย่างรวดเร็ว
และ​หัน​ไป​หา​ข่าว​ประ​เสริฐ​อื่น​
ทั้งที่สิ่งเหล่านั้น​ไม่​ใช่​ข่าว​ประ​เสริฐแลย
เป็นเพียงข่าวปลอม ที่​บิด​เบือน​ข่าว​ประ​เสริฐ​ของ​พระ​คริสต์

ใครที่​ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ​อื่น​ ซึ่ง​ขัด​กับ​ข่าว​ประ​เสริฐ​ของพระคริสต์
ก็​จะ​ต้อง​ถูก​แช่ง​สาป

เปาโลไม่ได้ต้องการ การ​ยอม​รับ​จาก​มนุษย์
ถ้าเขากำ​ลัง​เอา​ใจ​มนุษย์​อยู่ เขาก็​ไม่​ใช่​ทาส​ของ​พระ​คริสต์

เปาโลเล่าว่า เขา​ไม่​ได้​รับ​ข่าว​ประ​เสริฐ​ ​จาก​มนุษย์
แต่​จากพระ​เยซู​คริสต์ ​ทรง​สำแดง​แก่​เขา
หลังจากที่พระเยซูคริสต์​ทรง​สำ​แดง​​พระ​องค์​แก่​เขา
เพื่อ​ให้เขาประ​กาศ​ข่าวประเสริฐแก่​คน​ต่าง​ชาติ​นั้น
เขาก็​ไม่​ได้​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม เพื่อ​พบ​กับ​​อัคร​ทูตคนอื่นๆ
แต่​ได้​ออก​ไป​ยัง​ประ​เทศ​อา​ระ​เบีย​ทัน​ที
แล้ว​ก็​กลับ​มา​ยัง​กรุง​ดา​มัส​กัส​อีก

3 ​ปี​ต่อ​มา จึงค่อยขึ้น​ไปพบเปโตร​ที่​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม
และ​พัก​อยู่​กับ​เขา 15 วัน
และนอกนั้นก็ได้​พบ​แต่​ยา​กอบ น้อง​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เท่านั้น

แล้วเปาโล​ก็​เข้า​ไป​ใน​เขต​แดน​ซีเรีย​และ​ซีลี​เซีย
เปาโลจึงไม่​เป็น​ที่​รู้จัก​ของ​คริสต​จักร​ ใน​แคว้น​ยูเดีย​
พวกเขา​เพียง​แต่​ได้​ยิน​ว่า
“ผู้​ที่​เคย​ข่ม​เหง​คริสเตียน บัด​นี้​ได้​ประ​กาศ​ความ​เชื่อ​ของคริสเตียนแล้ว”
พวก​เขาจึง​ได้​สรร​เสริญ​พระ​เจ้า​ เพราะ​เปาโล

1. เปาโลรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อรู้ว่า
พี่น้องกาลาเทีย ผู้ได้รับเชื่อข่าวประเสริฐ และมีประสบการณ์กับพระเยซูแล้ว
แต่กลับหันหลังให้ข่าวประเสริฐแท้ หันไปหาข่าวประเสริฐปลอมอย่างรวดเร็ว

การที่เราเคยเชื่อมั่นในข่าวประเสริฐ ไม่ได้หมายความว่าวันนี้เรายังเชื่อเช่นนั้นอยู่
เราควรคอยสำรวจตนเองอยู่เสมอ ว่า เรายังคงยึดมั่นในข่าวประเสริฐของพระคริสต์อยู่หรือเปล่า?
หากเราถอยห่างไป จากความจริงแห่งข่าวประเสริฐ
ให้เรารีบกลับเข้ามา ยืนในจุดยืนแห่งข่าวประเสริฐที่ถูกต้องโดยทันที

2. เปาโลเคยข่มเหงคริสตจักรอย่างหนัก และในช่วงต้นๆ เขาก็ไม่เคยพบกับอัครทูตของพระเยซู
แต่โดยวิธีการของพระเจ้า พระองค์ทำให้เขากลายเป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์
และเกิดผลอย่างมากมายในการขยายแผ่นดินของพระเจ้า

พระเจ้ามีวิธีการที่เกินความเข้าใจของเรา เกินจินตนาการของเรา
ในการที่จะทำให้สิ่งที่พระเจ้าทรงพระประสงค์นั้น เกิดขึ้นสำเร็จ เป็นจริง

พระองค์ทรงมีวิธีการของพระองค์ ที่จะทำให้สิ่งที่ทรงสัญญาไว้กับเราสำเร็จเป็นจริงเช่นกัน

3. การประยุกต์ใช้ กาลาเทีย 1 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2PRBi6e

คำคม

“ พระ​เยซูทรง​สละ​ชีวิต เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​พ้น​จาก​บาป อย่าไปสมัครเป็นทาสของมันอีกเลย ”