ภาพรวม
- สเตเฟน พูดให้มหาปุโรหิตและพรรคพวกฟัง ถึงความผิดที่พวกเขาปฏิเสธพระเยซู พวกเขาโกรธมากจึงเอาหินขว้างสเตฟนจนตาย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
กิจการ บทที่ 7
หลังจากที่ สเตเฟนถูกใส่ร้ายว่า พูดหมิ่นประมาทสถานบริสุทธิ์และธรรมบัญญัติไม่หยุดเลย
สเทเฟนจึงตอบว่า
พระเจ้าผู้เต็มด้วยพระสิริ ทรงปรากฏแก่อับราฮัม ในประเทศเมโสโปเตเมีย
ทรงเรียกเขาไปยังดินแดนที่จะทรงให้เป็นมรดก
อับราฮัมจึงออกจากแผ่นดินของชาวเคลเดีย มาอยู่ในแผ่นดินที่ท่านทั้งหลาย อาศัยอยู่ทุกวันนี้
พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า
จะให้แผ่นดินนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่านและเชื้อสายของท่าน
เชื้อสายของท่านจะไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และตกเป็นทาส 400 ปี
แล้วพระเจ้าจะนำพวกเขาจะออกมา และปรนนิบัติเรา ณ สถานที่นี้
อับราฮัมมีบุตรชื่ออิสอัค
อิสอัคมีบุตรชื่อยาโคบ
ยาโคบมีบุต 12 คน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเรา
บรรพบุรุษเหล่านั้นอิจฉาโยเซฟ จึงขายเขาไปยังประเทศอียิปต์ แต่พระเจ้าสถิตกับโยเซฟ
ทรงช่วยให้พ้นจากความทุกข์ลำบากทั้งสิ้น และกลายเป็นผู้ดูแลประเทศอียิปต์
โยเซฟจึงเชิญยาโคบบิดากับบรรดาญาติของตน ให้มาอยู่ที่ประเทศอียิปต์
และท่านกับบรรพบุรุษของเราก็เสียชีวิตที่นั่น
ต่อมากษัตริย์องค์ต่อๆมา ข่มเหงบรรพบุรุษของเรา
โมเสสเกิดมา แล้วถูกราชธิดาของฟาโรห์ รับมาเลี้ยง
เมื่อโมเสส อายุ 40 ปี ได้เข้าไปช่วยคนอิสราเอลที่ถูกรังแก โดยฆ่าชาวอียิปต์ ผู้ข่มเหงนั้น
เพราะคิดว่าญาติพี่น้องคงเข้าใจดีว่า พระเจ้าจะทรงช่วยพวกเขาให้รอดด้วยมือของตน
แต่พวกเขาไม่เข้าใจอย่างนั้น
โมเสสจึงหนีไปอาศัยอยู่ที่แผ่นดินมีเดียนและมีบุตร 2 คนที่นั่น
ผ่านไปได้ 40 ปี พระเจ้าตรัสกับโมเสส ว่า
ทรงเห็นความทุกข์ของชนชาติอิสราเอล ที่อยู่อียิปต์แล้ว
พระเจ้าจึงทรงใช้โมเสส ที่เคยถูกพวกเขาปฏิเสธ ไปเป็นผู้ครอบครองและผู้ช่วยกู้พวกเขา
นำพวกเขาออกมา และทำการอัศจรรย์ต่างๆ
ในแผ่นดินอียิปต์ ที่ทะเลแดง และในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี
โมเสส กล่าวกับชนชาติอิสราเอล ว่า
พระเจ้าจะประทานผู้เผยพระวจนะผู้หนึ่ง เหมือนอย่างเขา
ในถิ่นทุรกันดาร บรรพบุรุษของเราไม่ยอมฟังโมเสส
แต่ผลักไสท่านออกไป และหันเหจิตใจกลับไปยังแผ่นดินอียิปต์
ทำรูปโคหนุ่ม และถวายเครื่องบูชาแก่รูปนั้น
และยังนมัสการพระโมเลค พระเรฟาน และพระต่างๆ
ในถิ่นทุรกันดาร โมเสสได้สร้างเต็นท์แห่งสักขีพยาน ตามที่พระเจ้าทรงสั่งไว้
เมื่อเข้ายึดแผ่นดินของบรรดาประชาชาติ ที่พระเจ้าทรงขับไล่ไปแล้ว
เต็นท์นั้นก็ยังคงอยู่จนถึงสมัยของดาวิด
ดาวิด ขออนุญาตที่จะจัดเตรียมพระนิเวศสำหรับพระเจ้า
แต่ซาโลมอนเป็นผู้ที่ได้สร้างพระนิเวศสำหรับพระเจ้า
ถึงกระนั้นก็ดี พระเจ้าก็ไม่ได้ประทับในพระนิเวศที่มือมนุษย์ทำไว้
เจ้าพวกคนหัวแข็ง ใจดื้อดึง และหูตึง
พวกท่านขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ
บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทำอย่างไร พวกท่านก็ทำอย่างนั้น
องค์ผู้ชอบธรรม เสด็จมา และบัดนี้ท่านทั้งหลายก็ทรยศและฆ่าพระองค์
เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกเดือดดาล
ส่วนสเทเฟนเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขม้นดูสวรรค์เห็นพระรัศมีของพระเจ้า
สเตเฟน กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าเห็นท้องฟ้าแหวกเป็นช่อง และเห็นบุตรมนุษย์ทรงยืนอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า”
แต่พวกเขาร้องเสียงดัง และอุดหู วิ่งกรูกัน เข้าไปหาสเทเฟน
แล้วขับไล่สเตเฟนออกจากกรุง และเอาหินขว้าง
สเทเฟน ร้องทูลว่า
“ข้าแต่พระเยซู ขอทรงรับจิตวิญญาณของข้าพระองค์ด้วย”
แล้วสเทเฟนก็คุกเข่าลง ร้องเสียงดัง ว่า
“ขอโปรดอย่าถือโทษพวกเขาเพราะบาปนี้”
แล้วก็สิ้นใจ
1. สิ่งที่สเตเฟนพูดชี้ให้เห็นว่า บรรพบุรุษอิสราเอลดื้อดึง หัวแข็ง ปฏิเสธการช่วยเหลือของพระเจ้าเรื่อยมา
เขาปฏิเสธโมเสส ผู้ที่พระเจ้าส่งมา ครั้งแล้วครั้งเล่า
บัดนี้คนอิสราเอลในยุคนี้ ก็ยังปฏิเสธพระเยซู ผู้ที่พระเจ้าส่งมา
ทรยศและฆ่าพระองค์เสีย
คนที่ปฏิเสธการช่วยเหลือจากพระเจ้า จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์
วันนี้ พระเยซูปรารถนาที่จะช่วยเรา เปลี่ยนแปลงชีวิต และสถานการณ์ของเรา
อย่าให้เราใจแข็งกระด้าง ปฏิเสธการช่วยเหลือจากพระองค์
แต่ถ่อมใจลง เข้ามาหาพระองค์ ร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์
2. สเตเฟนตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรง ว่าหัวรั้น ใจดื้อดึง หูตึง และขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่เสมอ
และสเตเฟน จบชีวิตลงด้วยคำอธิษฐาน ว่า “ขอโปรดอย่าถือโทษพวกเขาเพราะบาปนี้”
แสดงว่า ที่สเตเฟนตำหนิพวกเขานั้น ไม่ได้โกรธกลียดพวกเขา
แต่สเตเฟนรักพวกเขามาก
แม้แต่ตอนจะตายแล้ว ยังเป็นห่วงพวกเขา
คำเตือนสติจากพระเจ้า จากคนของพระเจ้า
บางครั้งดูไม่น่าฟัง ไม่น่าชื่นใจ
แต่นั่นเป็นความรักของพระเจ้า ที่ส่งด้วยคำเหล่านั้นมาถึงเรา
จงถ่อมใจลง ฟังคำเตือนสติ แล้วกลับใจใหม่
3. การประยุกต์ใช้ กิจการ 7 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/31spycW
คำคม
“ คนที่ปฏิเสธการช่วยเหลือจากพระเจ้า จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ ”