ภาพรวม
- มาระโก บทที่ 5 พระเยซูทรงรักษาชายที่มีผีโสโครกทั้งกองสิง ทรงรักษาหญิงโลหิตตก 12 ปี และทรงทำให้ลูกสาวของไยรัสเป็นขึ้นมาจากความตาย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
มาระโก บทที่ 5
หลังพระเยซูทรงห้ามพายุแล้ว ก็ข้ามทะเลไปยังเขตเมืองเก-ราซา
ชายคนหนึ่ง มีผีโสโครกสิง ออกจากอุโมงค์ฝังศพ มาพบพระองค์ ทันที
เขาคลั่งร้องอื้ออึงและเอาหินเชือดเนื้อตัวเองอยู่เสมอ ทั้งกลางคืนและกลางวัน
ไม่มีใครมีแรงพอจะทำให้เขาสงบได้
พระเยซูจึงสั่งให้ผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้น
ผีนั้น ชื่อ “กองพล” เพราะว่ามีหลายตนด้วยกัน
พวกมันอ้อนวอนพระองค์อย่างมาก
ขอให้พวกมันเข้าไปสิงในฝูงสุกร
พระองค์ก็ทรงอนุญาต
ผีเหล่านั้นจึงออกไปสิงอยู่ในสุกร
แล้วสุกรทั้ง 2,000 ตัว ก็วิ่งกระโดดลงหน้าผา จมน้ำตาย
คนเลี้ยงสุกร ต่างหนีไปเล่าเรื่องนี้ ทั้งในเมืองและนอกเมือง
คนทั้งหลายก็ออกมาดู เห็นคนที่เคยถูกผีสิงนั้น นุ่งห่มผ้ามีสติ นั่งอยู่ที่นั่น
พวกเขาจึงเกรงกลัว
แล้วพวกเขาพากันอ้อนวอน ขอให้พระองค์เสด็จไปเสียจากเขตเมืองของพวกเขา
คนที่เคยถูกผีสิงนั้น อ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไปด้วย
แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต
พระองค์ทรงใช้เขา ให้ไปบอกพวกพ้อง ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงทำแก่เขา
คนนั้นจึงเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี
และคนทั้งหลายก็ประหลาดใจ
เมื่อพระเยซูข้ามฟากกลับมาแล้ว
มีนายธรรมศาลา ชื่อไยรัส มาอ้อนวอนพระองค์
ให้เสด็จไปวางพระหัตถ์บนลูกสาวของเขาที่ป่วยหนัก
พระองค์จึงไปกับเขา ฝูงชนตามไปด้วย
มีผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นโรคโลหิตตกมา 12 ปีแล้ว
เธอทนทุกข์ลำบากมาก ไม่มีหมอที่จะรักษาโรคนั้นให้บรรเทาลงได้
เธอก็เดินเข้ามาทางข้างหลังพระเยซู
และแตะต้องฉลองพระองค์
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกตัวว่า โรคหายแล้ว
พระเยซูทรงเหลียวหลังมา ดูรอบๆ ถามว่า
“ใครแตะต้องเสื้อของเรา?”
หญิงผู้นั้นก็กลัวจนตัวสั่น
จึงมากราบลงทูลพระองค์ตามความจริง
พระองค์ตรัสกับเธอว่า
“ลูกหญิงเอ๋ย ที่หายโรคนั้นก็เพราะลูกเชื่อ
จงไปเป็นสุขและหายโรคนี้เถิด”
มีคนมาบอกว่า
ลูกสาวของไยรัสตายแล้ว ไม่ต้องรบกวนพระเยซูให้ไปอีกแล้ว
แต่พระเยซูไม่ใส่ใจ สิ่งที่พวกเขากล่าวนั้น
พระองค์ตรัสกับไยรัสว่า
“อย่าวิตกเลย จงเชื่อเท่านั้น”
เมื่อพระองค์เสด็จไปถึงบ้านของไยรัส คนก็กำลังวุ่นวายร้องไห้คร่ำครวญอย่างมาก
พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า
เด็กคนนั้นยังไม่ตาย เพียงแต่นอนหลับอยู่เท่านั้น
พวกเขาก็พากันหัวเราะเยาะพระองค์
หลังจากพระองค์ไล่คนเหล่านั้นออกไปแล้ว
จึงพาบิดามารดาและพวกสาวก ที่มานั้น เข้าไปในที่ที่เด็กอยู่
พระองค์ทรงจับมือของเด็กหญิง แล้วเรียกให้เธอลุกขึ้น
เธอก็ลุกขึ้นเดินทันที
1. ผีโสโครกเหล่านั้น อ้อนวอนพระเยซู พระองค์ทรงอนุญาตพวกมัน
แต่ชายผู้รับการรักษาที่ปรารถนาจะติดตามพระเยซู อ้อนวอนพระเยซู พระองค์ทรงปฏิเสธ
ส่วนไยรัส อ้อนวอนพระเยซู ให้ไปกับเขา พระองค์ก็ทรงยอมไป
ชี้ให้เห็นว่า เมื่อใครก็ตามที่อ้อนวอนต่อพระเยซู โดยปกติพระองค์จะยอมทำสิ่งที่พวกเขาอ้อนวอน
ทั้งที่สิ่งที่อ้อนวอนอาจจะดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
เช่น ถ้าไยรัสขอให้พระเยซูตรัส ลูกสาวเขาก็จะหาย แล้วไม่ต้องตายก่อนด้วย
แต่ในบางกรณี ที่พระองค์ปฏิเสธคำอ้อนวอน นั่นเป็นกรณีพิเศษ
เพราะพระองค์มีพระประสงค์พิเศษบางอย่างสำหรับคนนั้น
อย่างคนที่เคยถูกผีสิง การปฏิเสธคำอ้อนวอนของเขา
ทำให้ทั่วแคว้นทศบุรีได้ยินข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์
วันนี้ถ้าเราอธิษฐานอ้อนวอนต่อพระเยซู เรารู้แน่ว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของเราเป็นแน่
และถ้าหากพระองค์ปฏิเสธ เรายิ่งรู้แน่ว่า พระองค์เตรียมสิ่งที่พิเศษที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเรา
2. คนที่มาแจ้งข่าวการตายชองลูกสาวไยรัส เชื่อว่า
ต่อให้พระเยซูไปถึงบ้านไยรัส ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
แต่พระเยซูบอกให้ไยรัสอย่าไปเชื่อคำพูดของคนที่ขาดความเชื่อเหล่านั้น
ให้เขายังคงยึดมั่นในความเชื่อต่อไป
เหมือนกับตอนแรกที่เขาเชื่อว่า ถ้าพระเยซูไปที่บ้านของเขา สถานการณ์จะคลี่คลายในทางที่ดี
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูเหมือนสิ้นหวัง อย่าให้เรายอมเชื่อตามคำพูดของเหล่าคนที่ไม่มีความเชื่อ
ให้เรายังคงเชื่อวางใจในพระเยซู และหวังในพระองค์ต่อไป อย่างมั่นคง
แล้วเราจะไม่ผิดหวัง อย่างแน่นอน
3. การประยุกต์ใช้ มาระโก บทที่ 5 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2lFtSq8
คำคม
“ จงอ้อนวอนสิ่งที่ท่านปรารถนา ต่อพระเยซู ”