ภาพรวม
- มาระโก บทที่ 7 พระเยซูตำหนิพวกนักศาสนาที่สนใจพิธีกรรมไม่สนใจทำตามพระคำของพระเจ้า พระเยซูรักษาลูกของหญิงชาวซีเรียฟีนิเซีย และรักษาคนหูหนวกพูดติดอ่าง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
มาระโก บทที่ 7
พวกฟาริสีกับพวกธรรมาจารย์ มาห้อมล้อมพระเยซู แล้วถามว่า
ทำไมพวกสาวกของพระเยซู ไม่ประพฤติตามคำสอนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
แต่กลับรับประทานอาหารด้วยมือที่เป็นมลทิน?”
เนื่องจากพวกเขาเห็นสาวกของพระเยซู รับประทานอาหารโดยไม่ทำพิธีชำระมือ
เพราะเมื่อพวกเขามาจากตลาด จะทำพิธีชำระล้างก่อน จึงจะรับประทานอาหาร
และยังมีธรรมเนียมอื่นๆ เช่น การล้างถ้วย เหยือกและภาชนะทองสัมฤทธิ์
พระองค์ตรัสตอบ ว่า
คนหน้าซื่อใจคด ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจห่างไกลจากพระองค์
นมัสการพระเจ้าโดยเปล่าประโยชน์
เพราะเอากฎเกณฑ์ของมนุษย์ มาสอนว่าเป็นพระดำรัสของพระเจ้า
แล้วละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า
พวกท่านสอนว่า
ใครพูดกับ บิดามารดาว่า “โกระบาน” ก็ไม่ต้องให้เกียรติหรือดูแลบิดามารดาอีกต่อไป
แล้วพระองค์ตรัสกับฝูงชน ว่า
ไม่มีสิ่งใดภายนอกที่เข้าไปภายในมนุษย์ จะทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้
แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในมนุษย์นั่นแหละ ที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน
ต่อมาพระเยซูอธิบาย ให้พวกสาวกฟัง ว่า
สิ่งที่กินเข้านั้น ไม่ได้เข้าไปในใจ แต่ลงไปในท้อง แล้วก็ถ่ายออกลงส้วมไป”
แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในมนุษย์ หมายถึง ความคิดชั่วร้าย ได้แก่
การล่วงประเวณี การลักขโมย การฆ่าคน
การเป็นชู้ การโลภ การอธรรม การล่อลวง ราคะตัณหา การอิจฉา
การใส่ร้าย ความเย่อหยิ่ง ความเขลา
ความชั่วเหล่านี้ มาจากภายใน และทำให้มนุษย์เป็นมลทิน
ที่เขตแดนเมืองไทระและเมืองไซดอน
ผู้หญิง ชาวซีเรียฟีนิเซียคนหนึ่ง เป็นคนต่างศาสนา ลูกสาวเล็กๆของนาง ถูกผีโสโครกสิง
นางมากราบลง อ้อนวอน พระเยซูให้ช่วยลูกของนาง
พระเยซูตรัสกับนางว่า
“ให้ลูกๆ กินกันอิ่มเสียก่อน เพราะว่าไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกๆ โยนให้กับพวกสุนัข”
แต่นางตอบว่า
“จริงเจ้าค่ะ แต่สุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะนั้น ย่อมกินอาหารเหลือเดนของลูกๆ”
แล้วพระองค์ตรัสกับนาง ว่า
“เพราะถ้อยคำนี้ท่านจงกลับไปเถิด ผีออกจากตัวลูกสาวของท่านแล้ว”
แล้วลูกของนางก็หายเป็นปกติ
ที่เขตแดนแคว้นทศบุรี พวกเขาพาชายหูหนวก พูดติดอ่าง คนหนึ่ง มาขอให้พระองค์วางมือบนคนนั้น
พระองค์จึงทรงพาคนนั้นออกห่างจากฝูงชนไปอยู่ตามลำพัง
แล้วทรงเอานิ้วแยงเข้าที่หูทั้งสองของเขา
และทรงบ้วนน้ำลาย เอานิ้วพระหัตถ์จิ้มแตะลิ้นของคนนั้น
แล้วพระองค์แหงนพระพักตร์ดูฟ้าสวรรค์
แล้ว”ถอนใจ”
และตรัสกับคนนั้นว่า “จงเปิดออก”
แล้วหูของคนนั้นก็ปกติ และพูดได้ชัด
พระองค์ทรงห้ามปรามคนทั้งหลายไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร
แต่พระองค์ยิ่งทรงห้ามปราม พวกเขาก็ยิ่งเล่าลือออกไป
1. พิธีล้างมือ คือ การปล่อยให้น้ำไหลจากหลังมือถึงข้อศอก
พิธีล้างถ้วย คือ เอาถ้วยจุ่มลงในอ่างที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ โดยที่
ถ้วยที่จุ่มตอนเช้า ใช้ทานตอนเที่ยง
ถ้วยที่จุ่มตอนเที่ยง ใช้ทานตอนเย็น
ถ้วยที่จุ่มตอนเย็น ใช้ทานตอนเช้า
(โดยไม่มีการกล่าวถึงการที่ต้องเปลี่ยนน้ำใหม่)
ส่วนพิธีล้างเหยือกและภาชนะทองสัมฤทธิ์ นั้น
จะจุ่มแล้วเอามาดื่มตอนไหนก็ได้
(ข้อมูจาก John Gill’s Exposition of the Entire Bible)
ซึ่งพิธีเหล่านี้ ไม่ใช่เพื่อสุขอนามัยเลย เป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น
พระเยซูจึงบอกว่าการกระทำภายนอก ไม่มีผลให้คนนั้นมีมลทิน หรือไม่มีมลทิน
แต่ความชั่วร้ายภายในต่างหาก ทำให้คนนั้นเป็นมลทิน
หมายเหตุ :
“ไม่มีสิ่งใดภายนอกที่เข้าไปภายในมนุษย์ จะทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้ “
ดังนั้น ผู้หญิงที่ถูกข่มขืน จึงไม่ได้เป็นผู้มีมลทิน ในสายพระเนตรของพระเจ้า
แต่เป็นผู้ที่สมควรรับความรัก พระเมตตา และการปลอบประโลมจากพระเจ้า
2. หญิงชาวซีเรียฟินีเซีย เป็นคนต่างชาติ ไม่ได้นมัสการพระเจ้าแต่นมัสการพระของตน
ไม่ใช่ประชากรของพระเจ้า ไม่ใช่ลูกของพระเจ้า
ด้วยคำตอบของพระเยซู
ทำให้รู้ว่า เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า
และทำให้รู้ว่า คนที่ไม่สมควรจะได้รับที่ปรารถนาอย่างจริงใจ อยากจะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า จะได้รับพระเมตตาเสมอ
วันนี้ เมื่อเราอ้อนวอนต่อพระเยซู คำตอบที่พระองค์ประทานแก่เรานั้น
เต็มไปด้วยพระเมตตาของพระเจ้า
แม้เรายังไม่เข้าใจ ก็ให้เรายังคงยึดมั่น วางใจ และพึ่งพาพระองค์แต่เพียงผู้เดียวต่อไป
แล้วเราจะพบพระเมตตาของพระเจ้าแน่นอน
3. การประยุกต์ใช้ มาระโก บทที่ 7 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2lE3xsk
คำคม
“ อย่าทำให้พระเยซูถอนใจ เพราะความไม่เชื่อของคุณ ”