สรุป มาลาคี 4

ภาพรวม

  • มาลาคี บทที่ 4 กล่าวถึงวันแห่งพระเจ้าเพราะถึงในอนาคต แต่ก่อนวันนั้น ทูตของพระมาซีฮาจะมาก่อน(ยอห์น ผู้ให้บัพติศมา) แล้วพระมาซีฮาก็จะมาตาม(พระเยซูคริสต์)

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

มาลาคี บทที่ 4

พระเจ้า​ตรัส​ว่า
นี่​แน่ะ วัน​นั้น​จะ​มา​ถึง คือ​วัน​ที่​จะ​เผา​ผลาญ​เหมือน​เตา​อบ
​คน​​เย่อ​หยิ่ง​ทั้ง​สิ้น และ​คน​ที่​ประ​กอบ​การ​อธรรม​ทั้ง​หมด​ จะ​เป็น​เหมือน​ตอ​ข้าว
วัน​ที่​จะ​มา​นั้น​ จะ​ไหม้​พวกเขา​หมด จน​ไม่​มี​ราก​หรือ​กิ่ง​เหลือ​อยู่​เลย

แต่​สำ​หรับ​คน​​ที่​ยำ​เกรง​พระเจ้า
ดวง​อา​ทิตย์​แห่ง​ความ​ชอบ​ธรรม ​ซึ่ง​มี​ปีก​รัก​ษา​โรค​ภัย​ได้ จะ​ปรา​กฏ​ขึ้น
แล้วพวกเขา​จะ​กระ​โดด​โลด​เต้น​ออก​ไป ​เหมือน​ลูก​วัว​ออก​ไป​จาก​คอก
และพวกเขา​จะ​เหยียบ​ย่ำ​คน​อธรรม เหมือนเหยียบ​ขี้เถ้า

จง​จด​จำ​ธรรม​บัญ​ญัติ​ของ​โม​เสส ซึ่งพระเจ้าได้​บัญ​ชา​คนอิสราเอล ที่​ภูเขา​โฮ​เรบ​

พระเจ้า​จะ​ส่ง​เอ​ลี​ยาห์​ ​มา​ยังคนอิสราเอล ​ก่อน​วัน​แห่ง​พระเจ้า
ซึ่งเป็น​วัน​ที่​ใหญ่​ยิ่ง​และ​น่า​สะพรึง​กลัว​
และ​ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​ทำ​ให้​จิต​ใจ​ของ​พ่อ​หัน​ไป​หา​ลูก และ​จิต​ใจ​ของ​ลูก​หัน​ไป​หา​พ่อ
หาไม่แล้ว พระเจ้า​จะ​โจม​ตี​แผ่น​ดิน​นั้น​ด้วย​คำ​สาป​แช่ง

1. ในวันแห่งการพิพากษานั้น
คนอธรรม ที่เย่อหยิ่งไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์ จะถูกเผาชั่วนิรันดร์
คนที่เคยอธรรม แต่ถ่อมใจลง ยอมให้พระเยซูคริสต์ เปลี่ยนเขาเป็นคนชอบธรรม จะพบกับความเต้นโลดยินดี

วันนี้ โดยทางพระเยซูคริสต์ เราจึงได้เป็นผู้ชอบธรรมแล้ว
สมควรที่เราจะใช้ชีวิตของเราที่เหลืออยู่ในโลกนี้
ถวายเกียรติแด่พระองค์ ผู้ทรงรักและเมตตาเรา

2. พระเจ้าได้บอกกับคนอิสราเอลล่วงหน้าว่า
ต่อไปจะมี ผู้นำหน้า พระมาซีฮา มาปรากฏ
แล้ว 400 ปี ต่อมา ยอห์นผู้ให้บัพติศมา ก็ปรากฏตัวขึ้น
ประกาศให้คนติดตามพระเยซู

พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ

คำคม

“ พระคัมภีร์เดิมจบลง ว่า ใครไม่ทำตามจะถูกแช่งสาป
พระคัมภีร์ใหม่เริ่มต้น ว่า คนที่เชื่อในพระเจ้าจะได้รับพระพร ”

สรุป มาลาคี 3

ภาพรวม

  • มาลาคี บทที่ 3 พระเจ้าตรัสถึงการเสด็จมาของพระมาซีฮา(พระเยซูคริสต์) และความผิดของคนอิสราเอล และคนเหล

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

มาลาคี บทที่ 3

พระเจ้า​ตรัส​กับอิสราเอล ว่า
พระเจ้ากำลัง​ส่ง​ทูต​ของ​พระองค์​ไป ​เพื่อ​ตระ​เตรียม​หน​ทาง​ไว้​ข้าง​หน้า​
และ​องค์​เจ้า​นาย​ ผู้​ซึ่ง​พวกเขา​แสวง​หา​นั้น ​จะ​เสด็จ​มา​ยัง​พระ​วิหาร​ของ​พระ​องค์ ​อย่าง​กะ​ทัน​หัน

แต่​ใคร​จะ​ทน​อยู่​ได้​ใน​วัน​ที่​ท่าน​มา​ปรา​กฏ​ตัว?
เพราะท่าน​เป็น​ประ​ดุจ​ไฟ​ถลุง​แร่
และ​ประ​ดุจ​สบู่​ของ​ช่าง​ซัก​ฟอก

ท่าน​จะ​ชำระ​บุตร​หลาน​ของ​เลวี​ให้​บริ​สุทธิ์
และ​ถลุง​พวก​เขา​อย่าง​ถลุง​ทอง​คำ​และ​ถลุง​เงิน
จน​กว่าพวกเขา​จะ​นำ​เครื่อง​บูชา​มา​ถวาย​แด่​พระเจ้า​ด้วย​ความ​ชอบ​ธรรม
แล้ว​เครื่อง​บูชา​ของ​ยู​ดาห์​และ​เย​รู​ซา​เล็ม​จะ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระเจ้า

แล้วพระเจ้า​จะ​มา​ ​เพื่อ​การ​พิพาก​ษา
พระองค์จะกล่าว​โทษ​
– นัก​วิท​ยา​คม
– พวก​ผิด​ประ​เวณี
– ผู้​สบถ​เท็จ
– ผู้​​บีบ​บัง​คับ​ลูก​จ้าง​ใน​เรื่อง​ค่า​จ้าง
– ผู้​บีบ​บัง​คับ​แม่​ม่าย​และ​ลูก​กำ​พร้า
– ผู้​ผลัก​ไส​คน​ต่าง​ด้าว​ให้​ไป​เสีย
– ​ผู้​ที่​ไม่​ยำ​เกรง​พระเจ้า

เพราะ​ว่า​พระเจ้าไม่​มี​ผัน​แปร อิสราเอล​จึง​ไม่​ถูก​ทำ​ลาย​หมด
พวกเขาได้​หัน​เห​ไป​เสีย​จาก​กฎ​เกณฑ์​ของ​พระเจ้า
พระเจ้าจีงเรียกให้พวกเขา ​กลับ​มา​หา​พระองค์
และพระองค์​จะ​กลับ​มา​หา​พวกเขา

พวกเขาได้ฉ้อโกงพระเจ้าใน​เรื่อง​ทศางค์(สิบลด)​และ​เครื่อง​บูชา​
หากพวกเขา​นำ​ทศางค์​เต็ม​ขนาด​มา​ไว้​ใน​คลังพระนิเวศ​ของ​พระเจ้า
พระเจ้าจะ​เปิด​หน้า​ต่าง​ใน​ฟ้า​สวรรค์​ และ​เท​พร​อย่าง​ล้น​ไหล​มา​ให้​พวกเขา
พระองค์จะ​ขจัดตัวทำลายไปจาก​พื้น​ดิน​ของ​พวกเขา

แล้ว​ประ​ชา​ชาติ​ทั้ง​สิ้น​จะ​เรียกพวกเขา​ว่า “ผู้​ที่​ได้​รับ​พระ​พร”

คนอิสราเอลได้​กล่าว​ใส่​ร้าย​พระเจ้า ​ว่า
– การที่​จะ​ปรน​นิบัติ​พระ​เจ้า​ก็​เปล่า​ประ​โยชน์
– การรัก​ษา​พระ​บัญชา​ของ​พระ​องค์​จะ​ไม่เกิด​ผล​ดี​
– ​คน​อวด​ดี​เป็น​คน​ได้​รับ​พร
– คน​ที่​ประ​กอบ​การ​อธรรม​ก็​เจริญ​ขึ้น​
– คนที่​ทด​ลอง​พระ​เจ้า​ก็ไม่ถูกลงโทษ​

แล้ว​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระเจ้าจะ​พูด​คุย​กัน
พระเจ้า​ทรง​ฟัง​และ​ทรง​ได้​ยิน
มี​หนัง​สือ​บัน​ทึก​ชื่อ ​ผู้​ที่​เกรง​กลัว​และ​ยก​ย่อง​พระเจ้า เอา​ไว้
คนเหล่านั้นจะเป็น​กรรม​สิทธิ์​พิเศษ​ของพระเจ้า
ใน​วัน​ที่​พระเจ้า​จะ​ประ​กอบ​กิจ พระเจ้าจะ​เมต​ตา​คน​เหล่า​นี้​
ดัง​ชาย​ที่​เมต​ตา​บุตร​ผู้​ปรน​นิบัติ​เขา

แล้ว​เจ้า​จะ​สัง​เกต​เห็น​ความ​แตก​ต่าง​
ระหว่าง​ คน​ชอบ​ธรรม​ และ ​คน​อธรรม
ระหว่าง​ คน​ที่​ปรน​นิบัติ​พระ​เจ้า​ กับ​ คน​ที่​ไม่​ปรน​นิบัติ​พระ​องค์​
ได้​อีก​ครั้ง​หนึ่ง

1. เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลกนี้
ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีใคร​ทน​อยู่​ได้
ที่จะสามารถยืนขึ้นแล้ว ภาคภูมิใจในความชอบธรรมของตน
(เช่น พระองค์สอนว่า ผู้ใดมองหญิงด้วยใจกำหนัด ก็ล่วงประเวณีในใจกับหญิงนั้นแล้ว)
พระองค์​เป็น​ประ​ดุจ​ไฟ​ถลุง​แร่
โดยพระเยซูคริสต์นั้น แร่ที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจึงถูกถลุงให้บริสุทธ์
จน​คนที่วางใจในพระองค์ สามารถถวาย​ความ​ชอบ​ธรรม เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าได้
และพระเจ้าทรง​พอ​พระ​ทัย​ในเครื่องบูชานั้น

ขอบคุณพระเยซู โดยพระองค์เราจึงเป็นคนชอบธรรมแล้ว

2. พระเจ้าทรงเรียกให้ประชากรของพระเจ้า กลับมาหาพระองค์
โดยละทิ้งสิ่งที่ผิด หันกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้อง ตามพระคำของพระเจ้า
เช่น พวกเขาละเลยการถวายสิบลด จึงขาดพระพร แต่เต็มไปด้วยความขัดสน และความยุ่งยากในชีวิต
ถ้าพวกเขาหันกลับมาถวายแด่พระเจ้าด้วยจริงใจ
พวกเขาจะได้ชื่อว่า “ผู้​ที่​ได้​รับ​พระ​พร”

วันนี้ ถ้าเรากลับใจจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
หันมาดำเนินตามทางของพระเจ้า สิ่งร้ายจะถูกหันออกไปจากชีวิตของเรา
และพระพรเหลือล้น จะหลั่งไหลเข้ามาสู่ชีวิตของเรา

3. คนที่พูดหรือสอน ขัดแย้งกับพระคำของพระเจ้า
กำลังใส่ร้ายพระเจ้าพวกเขา พระองค์พูดโกหก

ขอให้สิ่งนี้ห่างไกลจาก เราผู้เป็นประชากรของพระเจ้าเถิด

4. ในวันสุดท้าย​จะเห็น​ความ​แตก​ต่าง​
ระหว่าง​ คน​ชอบ​ธรรม​ และ ​คน​อธรรม
ระหว่าง​ คน​ที่​ปรน​นิบัติ​พระ​เจ้า​ กับ​ คน​ที่​ไม่​ปรน​นิบัติ​พระ​องค์​

วันนี้ อาจจะดูไม่แตกต่าง แต่อีกไม่นาน
สิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้นั้น ก็จะเกิดขึ้นเป็นจริง

คำคม

 การไม่เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า เป็นการใส่ร้ายพระองค์

สรุป มาลาคี 2

ภาพรวม

  • มาลาคี บทที่ 2 พระเจ้าทรงตำหนิปุโรหิตและคนอิสราเอล ที่ละทิ้งบัญญัติของพระเจ้า หันไปทำสิ่งชั่วร้าย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

มาลาคี บทที่ 2

พระเจ้าตรัสกับ พวกปุโร​หิตของอิสราเอล ว่า

ถ้า​พวกเขาไม่​ฟัง และ​ไม่​จำ​ใส่​ใจ​ ที่​จะ​ถวาย​เกียรติ​แด่พระเจ้า
พระองค์จะ​ส่ง​คำ​แช่ง​มายังพวกเขา
พระองค์​จะ​สาป​แช่ง​ พระ​พร​ซึ่ง​เคย​มา​ถึงพวกเขา

พระเจ้าจะทำให้พวกเขาและ​ลูก​หลาน พบกัยความอับอายขายหน้า

พระเจ้าทรงเตือนเขาเช่นนี้ เพื่อ​ว่า​พันธ​สัญ​ญา ที่​ให้​ชีวิต​และ​สันติ​ภาพ
ซึ่ง​ทำ​ไว้​กับ​เลวี​นั้น​ยัง​คง​อยู่ต่อไป สำหรับพวกเขา
พระองค์ให้​พันธ​สัญ​ญาแห่พวกเขา​ เพื่อ​พวกเขา​จะ​ได้​ยำ​เกรงพระองค์

พวกเขาควร ​สั่ง​สอน​ความ​จริง
พวกเขาควร ​ดำ​เนิน​ติดตามพระเจ้า ด้วย​สันติ​และ​ความ​เที่ยง​ตรง
พวกเขาควร ​ช่วย​คน​จำ​นวน​มาก​ให้​หัน​จาก​ความ​บาป​ผิด
พวกเขาควร​ รักษาและถ่ายทอด​ความ​รู้เรื่องพระเจ้า
พวกเขาควร ทำให้ประชาชน​แสวง​หา​คำ​สั่ง​สอน​จาก​ปาก​ของ​เขา
พวกเขาควร เป็น​ทูต​ของพระเจ้า

แต่
พวกเขา ได้​หัน​ไป​เสีย​จาก​ทางเหล่า​นั้น
พวกเขา ได้​เป็น​เหตุ​ให้​หลาย​คน​สะดุด​เพราะ​คำ​สั่ง​สอน​ของตน
พวกเขา ​ได้​ทำ​ให้​พันธ​สัญ​ญา​ของ​เลวี​เสื่อม​ไป

ดัง​นั้นพระเจ้าจะ​ทำ​ให้​พวกเขาเป็น​ที่​ดู​หมิ่น​และ​เหยียด​หยาม​
เพราะพวกเขา​ไม่​ได้​เดิน​ตามทาง​ของพระเจ้า
แต่​ได้​ลำ​เอียง​ใน​การ​สั่ง​สอน

มลค. 2:10 เรา​ทุก​คน​มี​บิดา​คน​เดียว​ไม่​ใช่​หรือ?ได้​ทรง​สร้าง​เรา​มิ​ใช่​หรือ? แล้ว​

คนอิสราเอลเอง แม้พวกเขามีพระ​เจ้า​องค์​เดียวกัน
ก็ได้ทร​ยศ​ต่อ​กัน​และ​กัน
ทำ​ให้​พันธ​สัญ​ญา​ของ​บรรพ​บุรุษ​ของพวกเขา เป็น​มลทิน

มีการทำสิ่ง​น่า​เกลียด​น่า​ชัง ​ใน​อิส​รา​เอล​และ​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม
เพราะ​ว่า​ยู​ดาห์​ได้​ทำ​ให้​สถาน​ศักดิ์​สิทธิ์​ของ​พระเจ้า
​ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​รัก​นั้น​เป็น​มลทิน
และ​ได้​ไป​แต่ง​งาน​กับ​หญิงต่าง​ด้าว

ดังนั้น​แม้​ว่า พวกเขา​จะ​นำ​เครื่อง​บูชา​ถวาย​แด่​พระเจ้า
หรือร้องไห้มากมายต่อพระเจ้า
พระองค์ก็จะไม่ฟังและไม่อวยพระพรพวกเขา

เพราะพวกเขาไม่เชื่อ​ฟัง​พระ​เจ้า
พวกเขาได้​ทร​ยศ​ต่อ​ภรรยาของตน โดยหย่าพวกนาง
เพื่อจะได้ไปแต่งงานกับหญิงต่างด้าว

พวกเขาได้​ทำ​ให้พระเจ้า​อ่อน​ระอา​ใจ ​ด้วย​คำ​พูด​ของพวกเขา
โดย​กล่าว​ว่า
“ทุก​คน​ที่​ทำ​ชั่ว ​ก็​เป็น​คน​ดี​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระเจ้า และ​พระ​องค์​พอ​พระ​ทัย​คน​เหล่า​นั้น”

1. พระเจ้าทรงเลือกปุโรหิต เพื่อให้พวกเขารับพระพร และเป็นพระพรแก่คนอิสราเอล
แต่เมื่อพวกเขาละทิ้งสิ่งที่ควรทำ พระองค์จะนำพระพรเหล่านั้นไปจากพวกเขา

ที่เรามีวันนี้ และรับพระพรเช่นนี้ เพราะพระเจ้าประสงค์ใช้ชีวิตของเราเป็นพระพรแก่ผู้อื่น
แต่หากเราละเลย ที่จะใช้ชีวิตของเราเป็นพระพรแก่ผู้อื่น
พระเจ้าจะเอาพระพรนั้นไปให้ผู้อื่นแทน โดยไม่ต้องผ่านเรา

2. ผู้รับใช้พระเจ้า และ ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ควร
– สั่ง​สอน​พระคำของพระเจ้า ตามความ​จริง โดยไม่ลำเอียงเพื่อประโยชน์ของตน หรือพวกพ้อง
– ดำ​เนิน​ใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า
– ​ช่วย​คน​ให้​หัน​จาก​ความ​บาป​ผิด ของพวกเขา

หากเราคิดว่า ได้เวลาแล้ว ที่เราควรจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ในฝ่ายวิญญาณ
จงพัฒนาในการทำสิ่งเหล่านี้เถิด

3. พวกปุโรหิตที่ดูหมิ่นพระเจ้า ด้วยการกระทำของตน
ในที่สุดพวกเขาจึงกลายเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น

4. การถวายมากมาย หรือ การอธิษฐานร้องห่มร้องไห้
สิ่งเหล่านั้น จะไม่เป็นที่ยอมรับของพระเจ้า
หากคนนั้นไม่ยอมกลับใจจากบาปของตน

5. การทรยศต่อภรรยา ที่เคยปฏิญาณไว้ต่อหน้าพระเจ้า
เท่ากับเป็นการทรยศต่อพระเจ้า

คำคม

“ พระเจ้าประทานพระพรแก่เรา เพื่อพระพรนั้นจะเป็นประโยชน์แก่เราและผู้อื่น ”

สรุป มาลาคี 1

ภาพรวม

  • พระธรรมมาลาคี เป็นพระคัมภีร์เดิมเล่มสุดท้าย หลังจากพระธรรมเล่มนี้ ก็จะเข้าสู่ยุคเงียบ 400 ปี ที่ไม่มีการตรัสจากพระเจ้า มาถึงคนอิสราเอลเลย
  • พระธรรมมาลาคี​ เขียนขึ้นเพื่อ​เตือน​คนอิสราเอลที่​กลับ​จาก​การ​เป็น​เชลย​ ให้​เขา​รักษา​ธรรม​บัญญัติ ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​และด้วย​ความ​ซื่อสัตย์
  • มาลาคี บทที่ 1 พระเจ้าตำหนิคนอิสราเอล ที่ลบหลู่พระเจ้า ด้วยการเอาของที่ไม่ต้องการ มาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

มาลาคี บทที่ 1

พระเจ้าทรงตรัสกับคนอิสราเอล โดย​มา​ลา​คี ว่า

พระเจ้า​ได้​รักพวกเขา แต่พวกเขาหาว่าพระเจ้าไม่รักพวกเขา
เอ​ซาว​(ต้นตระกูลคนเอโดม) เป็น​พี่ชาย​ของ​ยา​โคบ​(ต้นตระกูลคนอิสราเอล)
แต่พระเจ้า​ก็​ยัง​รัก​ยา​โคบ

เมื่อ​เอ​โดม ​ถูก​ทำ​ลาย​ลง​แล้ว ก็ไม่สามารถ​กลับ​มา​สร้าง​​ขึ้น​ใหม่ได้
จน​คน​จะ​เรียก​กัน​ว่า​ เป็น ​เมือง​ชั่ว​ร้าย
เป็น​ชน​ชาติ​ที่​พระเจ้าทรง​กริ้ว​

บุตร​ก็​ย่อม​ให้​เกียรติ​แก่​บิดา
คน​ใช้​ก็​ย่อม​ให้​เกียรติ​นาย
แต่คนอิสราเอลไม่ให้เกียรติ​พระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาและ​เป็น​นาย ของพวกเขา

บรร​ดา​ปุโร​หิต​ของพวกเขาก็​ ดูหมิ่นพระเจ้า
โดย​การ​นำ​อา​หาร​มล​ทิน ​มา​ถวาย​บน​แท่น​ของ​พระเจ้า
นำ​สัตว์​ตา​บอด​ ​สัตว์​ที่​พิการ​หรือ​ป่วย มาถวาย
ซึ่งพวกเขาเองยังไม่กล้าทำ​อย่าง​นั้น​ เมื่อนำของไป​กำ​นัล​ผู้​ว่า​ราช​การ​ของพวกเขาเลย

ดังนั้นจึงไม่พอพระทัยพวกเขา
​ไม่​รับ​เครื่อง​บูชา​จาก​มือ​ของพวกเขา
และไม่ได้ตอบคำอธิษฐานของพวกเขา

ตั้ง​แต่​ที่​ดวง​อา​ทิตย์​ขึ้น​ ถึง​ที่​ดวง​อา​ทิตย์​ตก
​ประ​ชา​ชาติ​ทั้ง​หลาย ต่างเกรงกลัวพระเจ้า
และ​ถวาย​​ของ​ถวาย​ที่​บริ​สุทธิ์​แด่​พระองค์ ทุก​ที่​ทุก​แห่ง

แต่คนอิสราเอลกลับ​ดู​หมิ่นพระองค์ โดยนำของชั้นเลวมาถวายพระเจ้า
แล้วยังมีหน้ามา​ทำ​ฮึด​ฮัด​กับพระเจ้า
บ่นว่า ที่ทำให้พระเจ้า นี่เป็นภาระหนักจริงๆ

คน​ใด​ที่​มี​สัตว์​แข็งแรงสมบูรณ์ ​อยู่​ใน​ฝูง และ​ได้​บน​ไว้
แต่กลับ​เอา​สัตว์​ที่​มี​ตำหนิ​มา​ถวาย​แด่​พระเจ้า
คำ​สาป​แช่ง​จง​ตก​อยู่​กับ​คน​โกงคน​นั้น

1. พระเจ้าทรงรักคนอิสราเอล และสำแดงความรักต่อพวกเขาอย่างมากมาย
แต่พวกเขาไม่รับรู้ ไม่สังเกต
พวกเขาจึงคิดว่า พระเจ้าไม่รักพวกเขา

พระเจ้าทรงสำแดงความรักแก่เรามากมายเช่นกัน
แต่เฉพาะคนที่รับรู้ และสังเกตเท่านั้น จึงสามารถรักตอบพระเจ้าได้
วันนี้เรารับรู้มากเพียงใด?

2. ผู้ที่ให้พระเยซูคริสต์ เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาอย่างแท้จริง
ย่อมให้เกียรติพระองค์ และทุกสิ่งที่ทำแด่พระองค์ย่อมทำอย่างดีที่สุดอย่างเต็มใจ

วันนี้ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อย่างแท้จริงแล้วหรือยัง?

3. คนทั่วโลก แม้พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์ผู้ทรงใหญ่ยิ่งสูงสุด คือใคร?
พวกเขายังพยายามถวายเครื่องบูชาอย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้แด่พระองค์

แล้วเราผู้เป็นประชากรของพระองค์
ผู้รู้แน่ว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด
เราได้ถวายสิ่งใดแด่พระองค์?
และเมื่อถวายนั้นเราทำด้วยสุดจิตสุดใจของเราแล้วหรือยัง?

คำคม

“ สิ่งที่ทำถวายแด่พระเจ้า จงทำอย่างสุดใจ เพราะพระองค์ทรงทอดพระเนตรจิตใจ ”