ภาพรวม
- ลูกา บทที่ 9 พระเยซูทรงส่งสาวก 12 คนออกประกาศ ทรงเลี้ยงคน 5,000 คน ทรงจำแลงพระกาย ทรงขับผีออกจากเด็ก ทรงบอกถึงการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นมา ทรงสอนถึงการเสียสละในการเป็นสาวกของพระองค์
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ลูกา บทที่ 9
พระเยซูประทานฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจ แก่อัครสาวก 12 คน
แล้ทรงใช้พวกเขาไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและรักษาคนป่วยให้หาย
ตามหมู่บ้านต่างๆ
เฮโรดเจ้าเมือง ได้ยินเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ก็รู้สึกสับสนมาก
เพราะบางคนบอกว่ายอห์น ที่เขาได้ประหารไปแล้วนั้น เป็นขึ้นจากตาย
แล้วเฮโรดจึงหาโอกาสที่จะพบพระองค์
เมื่อพวกอัครทูตกลับมาแล้ว
พวกเขาทูลพระเยซูถึงสิ่งที่ได้ทำนั้น
พระองค์จึงพาพวกเขาออกไปตามลำพัง
แต่เมื่อฝูงชนรู้แล้ว จึงพากันมาหาพระเยซู
เพื่อฟัง และรับการรักษา จากพระองค์
เมื่อกำลังจะใกล้ค่ำ พระเยซูบอกให้พวกสาวกเลี้ยงอาหารฝูงชน
พวกเขาทูลว่า
พวกเขามีแค่ขนมปัง 5 ก้อน กับปลา 2 ตัว
พระองค์จึงสั่งพวกสาวกบอก ให้ฝูงชนนั่งลงเป็นหมู่ๆ
พระเยซูทรงขอพระพร สำหรับขนมปังและปลา
แล้วทรงหักส่งให้พวกสาวกเอาไปแจกจ่ายฝูงชน
พวกเขาก็ได้กินอิ่มกันทุกคน
และเหลืออาหารอีก 12 ตะกร้า
พระเยซูทรงถามสาวกว่า พวกเขาคิดว่าพระองค์เป็นใคร?
เปโตรทูลตอบว่า
“เป็นพระคริสต์ของพระเจ้า”
พระเยซูจึงบอกพวกสาวก ว่า
พระองค์จะต้องทนทุกข์ และต้องถูกประหารชีวิต
แต่ในวันที่สาม พระเจ้าจะทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาใหม่
ถ้าใครต้องการจะมาติดตามพระองค์
ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกทุกวันและตามพระองค์มา
ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่พระองค์ คนนั้นจะได้ชีวิตรอด
เพราะถ้าได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ทำลายหรือสูญเสียตัวเองไป จะได้ประโยชน์อะไร?
ถ้าใครมีความอายเพราะพระเยซู
พระองค์ก็จะมีความอายเพราะคนนั้น เมื่อพระองค์มาด้วยพระรัศมี
8 วัน ต่อมา พระเยซูพาเปโตร ยอห์น และยากอบ ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะอธิษฐาน
แล้วหน้าและเสื้อของพระองค์ก็เปลี่ยนไป
โมเสสและเอลียาห์ ก็มาสนทนากับพระองค์
เปโตรทูลพระเยซูว่า
น่าจะทำเพิงขึ้น สำหรับทั้ง 3 ท่าน
มีเมฆมาปกคลุมพวกเขา
แล้วมีพระสุรเสียง ว่า
“ผู้นี้เป็นบุตรของเรา เป็นผู้ที่เราเลือกสรรไว้ จงเชื่อฟังท่านเถิด”
เมื่อลงมาจากภูเขาแล้ว
มีชายคนหนึ่ง มาอ้อนวอน ขอให้พระเยซูช่วยรักษาลูกของเขา ที่ถูกผีสิง
เพราะพวกสาวกของพระเยซู ขับผีนั้นไม่ออก
พระเยซูจึงตรัสว่า “โอ นี่เป็นยุคที่ขาดความเชื่อและวิปลาส เราจะต้องอยู่กับพวกท่านนานแค่ไหน?”
พระเยซูจึงขับผีนั้นออก และทรงรักษาเด็กให้หาย
พวกสาวกเถียงกัน ว่า ในพวกเขาใครยิ่งใหญ่ที่สุด?
พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขา ว่า
“ถ้าใครยอมรับเด็กเล็กๆ คนนี้ในนามของเรา
คนนั้นก็ยอมรับเรา
เพราะคนที่เล็กน้อยที่สุดในพวกท่าน คือ คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
พระเยซูตั้งใจที่จะไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
จึงทรงใช้ผู้ส่งข่าวล่วงหน้าไปก่อน
แต่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรีย ไม่ต้อนรับพระองค์
เพราะพระองค์จะไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
พระองค์จึงเดินทางต่อไปที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
มีคนหนึ่งมาขอติดตามพระเยซู
พระเยซูตรัส ว่า
“หมาจิ้งจอกยังมีโพรงและนกในอากาศก็ยังมีรัง
แต่บุตรมนุษย์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ”
อีกคนหนึ่งกล่าวว่า
ขอไปฝังศพพ่อก่อน (รอจนกว่าพ่อจะจากโลกนี้ไปก่อน) แล้วจะติดตามพระองค์
แต่พระเยซูตรัส ว่า
“ปล่อยให้คนตายฝังคนตายของเขาเองเถิด
ส่วนท่านจงไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้า”
อีกคนหนึ่งกล่าวว่า
ขอไปอำลาคนที่บ้านก่อน แล้วจะติดตามพระองค์
พระเยซูตรัส ว่า
“ใครที่เอามือจับคันไถแล้วหันหลังกลับ จะไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า”
1. เมื่อพวกสาวกกลับมารายงาน ความสำเร็จในการรับใช้พระเจ้าของพวกเขา
พระเยซูจึงพาพวกเขาไปที่สงบ เพื่ออธิษฐาน
เมื่อเราประสบความสำเร็จ นั่นกลับเป็นช่วงเวลาที่เราต้องใช้เวลาอธิษฐานมากเป็นพิเศษ
เพื่อเราจะถ่อมใจลง ต่อจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า
และรู้ความจริงว่า ความสำเร็จเหล่านั้นทั้งหมด มาจากพระเจ้า
2. พระเยซูตำหนิพวกสาวกที่ขาดความเชื่อ จึงขับผีออกจากเด็กนั้นไม่ได้
พระองค์ไม่ได้ตำหนิที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ
แต่ตำหนิเพระาพวกเขาทำโดยขาดความเชื่อ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พวกเขามีประสบการณ์อธิษฐานรักษาโรคและขับผีมามากมายแล้ว
แต่ครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขากลับขาดความเชื่อ
การที่เรามีความเชื่อมากในอดีต
ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า เรายังจะมีความเชื่อในปัจจุบัน
จงมีความเชื่อ ในวันนี้เถิด
3. การประยุกต์ใช้ ลูกา บทที่ 9 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2m31zlL
คำคม
“ การติดตามพระเยซู ต้องทำอย่างจริงจังเท่านั้น ทำเป็นเล่นไม่ได้ ”