ภาพรวม
- ลูกา บทที่ 10 พระเยซูส่งสาวก 72 คนออกไปประกาศ เกิดผลดีมากมาย พระเยซูสอนเรื่องชาวสะมาเรียใจดี มารธาปรนนิบัติพระองค์และมารีย์คอยฟังพระองค์
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ลูกา บทที่ 10
พระเยซูทรงแต่งตั้งอีก 72 คน และทรงใช้พวกเขาออกไปเป็นคู่ๆ ล่วงหน้าไปก่อนพระองค์
เข้าไปทุกตำบลที่พระองค์จะเสด็จไปนั้น
พระองค์ตรัสกับพวกเขา ว่า
“ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมาก แต่คนงานยังน้อยอยู่
เพราะฉะนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา
ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์”
“ไปเถอะ เราใช้พวกท่านออกไป
เหมือนอย่างลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า”
“ถ้าเมืองไหน ไม่มีใครต้อนรับท่าน
จงสะบัดผงคลีดินในเมือง ที่ติดอยู่กับเท้าออก
แล้วโทษของเมืองโสโดมในวันนั้น จะยังเบากว่าโทษของเมืองนั้น”
“ผู้ที่ยอมฟังพวกท่าน ก็เท่ากับยอมฟังเรา”
สาวก 72 คน นั้น กลับมาด้วยความยินดีทูลว่า
แม้แต่พวกผี ก็อยู่ใต้บังคับของพวกเขาโดยพระนามของพระเยซู
พระเยซูจึงตรัส ว่า
พระองค์ให้พวกเขามีสิทธิอำนาจยิ่งใหญ่ กว่าฤทธานุภาพของศัตรู
แต่ว่าอย่าชื่นชมยินดีในสิ่งนี้
แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของพวกเขาจดไว้ในสวรรค์
ในเวลานั้นเอง พระเยซูทรงเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตรัสว่า
สรรเสริญพระบิดา ที่ทรงสำแดงความล้ำลึกแห่งสวรรค์ แก่พวกทารก
ไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใครนอกจากพระบุตร
และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้
พระเยซูตรัสกับพวกสาวกว่า
ผู้เผยพระวจนะ และกษัตริย์ จำนวนมาก อยากจะเห็นสิ่งที่พวกเขาเห็น และได้ยิน
แบบพวกสาวก แต่ก็ไม่เคยประสบ
ผู้เชี่ยวชาญบัญญัติ คนหนึ่ง ถามพระเยซู ว่า
เขาจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์?
พระองค์ตอบว่า
เขาอ่านธรรมบัญญัติ แล้วเข้าใจอย่างไร?
เขาทูลตอบว่า
จงรักพระเจ้าของท่านด้วยสุดใจ สุดจิต สุดกำลัง และสุดความคิดของท่าน
และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า
จงไปทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต
แต่คนนั้นต้องการจะรักษาหน้า จึงทูล ว่า
“ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า?”
พระเยซูจึงเล่าเรื่อง ชาวสะมาเรียใจดีให้เขาฟัง ว่า
ชายคนหนึ่ง ถูกพวกโจรปล้น และทำร้ายเกือบจะตายแล้ว
ปุโรหิต และคนเลวี ที่ผ่านมาเจอ ไม่ยอมช่วยอะไรเขา
แต่เมื่อชาวสะมาเรียคนหนึ่ง เห็นก็มีใจสงสาร
เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่
พระเยซูจึงถามเขา ว่า
ใน 3 คนนั้น คนไหนถือได้ว่า เป็นเพื่อนบ้านของคนที่ถูกปล้น?
เขาตอบ ว่า “คือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตาต่อเขา”
พระเยซูจึงตรัส ว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น”
พระเยซูทรงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
มารธาได้ต้อนรับพระองค์ เข้าไปพักที่บ้านของเธอ
มารีย์น้องของเธอ นั่งคอยฟังถ้อยคำของพระองค์
แต่มารธาวุ่นวายกับการปรนนิบัติ
จึงไม่พอใจที่น้อง ไม่มาช่วยเธอ
พระเยซูตรัสกับ มารธาว่า
เธอกระวนกระวายและร้อนใจหลายอย่างเหลือเกิน
แต่มารีย์ได้เลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
1. เมื่อเราไปประกาศข่าวประเสริฐ ตามคำสั่งของพระเยซู
ผู้ที่ยอมฟังเรา ก็เท่ากับยอมฟังพระเยซู
ผู้ที่ปฏิเสธเรา ก็เท่ากับปฏิเสธพระเยซู
ดังนั้น เมื่อคนตอนรับด้วยดี
จงขอบคุณพระเจ้า พวกเขารับพระเยซูไม่ใช่รับเรา
เมื่อคนปฏิเสธ ต่อต้าน ขัดขวาง
จงมอบแด่พระเจ้า พวกเขาต่อต้านพระเยซู ไม่ใช่ต่อต้านเรา
2. ธรรมาจารย์ที่มาถามพระเยซู หาทางแก้ตัวว่า
“ไม่มีเพื่อนบ้านให้รัก”
พระเยซูจึงเล่าเรื่องชาวสะมาเรียใจดี เพื่อชี้ให้เห็นว่า
ถ้าไม่มี หาง่ายนิดเดียว คือเมื่อเริ่มสำแดงความรักต่อใครบางคน
คนนั้นก็จะเป็นเพื่อนบ้านของเรา
ที่จะให้เรา ฝึกรักตามธรรมบัญญัติได้แล้ว
หากเราเริ่มรักเพื่อนบ้าน เราก็จะมีเพื่อนบ้านของเรา ที่จะรัก
หากเราเริ่มรักพระเจ้า เราก็จะมีพระเจ้าของเรา ที่จะรัก
3. การประยุกต์ใช้ ลูกา บทที่ 10 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2mjQzRd
คำคม
“ การมีชื่อจดไว้ในสวรรค์แล้ว เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากยิ่งกว่า ความสำเร็จใดๆในโลกนี้ ”