ภาพรวม
- ลูกา บทที่ 11 พระเยซูสอนสาวกให้อธิษฐาน ทรงตำหนิพวกฟาริสีและธรรมาจารย์ที่หน้าซื่อใจคด
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
ลูกา บทที่ 11
เมื่อพระเยซูทรงอธิษฐานอยู่ในที่แห่งหนึ่ง
สาวกได้มาขอให้พระองค์สอนพวกเขาอธิษฐาน
พระองค์จึงตรัส ว่า
เมื่ออธิษฐาน จงกล่าวว่า
“ข้าแต่พระบิดา
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ
ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่
ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ทุกๆ วัน
ขอทรงยกโทษบาปผิดของพวกข้าพระองค์
ขออย่าทรงนำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง”
เพื่อนที่ถูกรบเร้าอย่างมาก ยังยอมให้ตามที่เพื่อนเขาขอ
พระบิดา ย่อมให้แก่ทุกคนที่ขออย่างแน่นอน
จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
เมื่อลูกขอสิ่งที่ดี ที่จำเป็นจากพ่อ
พ่อย่อมให้อย่างแน่นอน
มีบางคนกล่าวหาพระเยซู ว่า ขับผีออกได้โดยอาศัยนายผี
ส่วนคนอื่นๆ ก็ทดลองพระองค์ โดยขอให้แสดงหมายสำคัญจากท้องฟ้า
พระเยซูตรัสกับเขา ว่า
ถ้าซาตานแตกแยกกันเอง อาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร?
แต่ถ้าพระองค์ขับผีออกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้า
แสดงว่า แผ่นดินของพระเจ้าก็มาถึงพวกเขาแล้ว
พระเยซูสอน ว่า
เมื่อผีโสโครกออกมาจากใครแล้ว
แต่ไม่ยอมให้พระเจ้าครอบครองในชีวิต
ในที่สุดคนนั้นก็ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรก
พระเยซูตรัส ว่า
คนที่ได้ยินพระวจนะ แล้วถือรักษาไว้ เป็นผู้ที่เป็นสุข ยิ่งกว่าคนที่ได้เป็นมารดาของพระเยซูเสียอีก
พระเยซูตรัส ว่า
คนในยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย ชอบแสวงหาหมายสำคัญ
พระเยซูก็จะเป็นหมายสำคัญ ให้กับคนยุคนี้
เหมือนโยนาห์เคยเป็นหมายสำคัญ ให้กับชาวนีนะเวห์
ไม่มีใครเมื่อจุดตะเกียง แล้วจะตั้งไว้ในที่ลี้ลับหรือเอาถังครอบไว้
แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อคนที่เข้ามาจะเห็นแสงสว่าง
ระวังให้ดี อย่าให้ความสว่างที่อยู่ในตัวท่าน กลายเป็นความมืด
พวกฟาริสีคนหนึ่งเชิญพระองค์ไปร่วมรับประทานอาหาร
เมื่อเขาเห็นว่าพระองค์ไม่ได้ทำพิธีชำระก่อนรับประทานอาหาร ก็ประหลาดใจ
พระเยซูตรัสกับเขา ว่า
ฟาริสีย่อมชำระถ้วยชามแต่เพียงภายนอก
แต่ภายในพวกท่านเต็มไปด้วยความโลภและความชั่วร้าย
ดังนั้นจงให้ทานด้วยสิ่งที่อยู่ภายใน
แล้วทุกสิ่งจะสะอาดบริสุทธิ์
วิบัติแก่พวกฟาริสี เพราะว่า
– ท่านถวายสิบลด แต่กลับละเว้นความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า
– ท่านชอบที่นั่งอันมีเกียรติในธรรมศาลา และชอบให้เขาคำนับกลางตลาด
– ท่านเป็นเหมือนอุโมงค์ฝังศพที่ไม่ปรากฏให้เห็น
วิบัติแก่พวกผู้เชี่ยวชาญบัญญัติ เพราะว่า
– ท่านบอกให้คนอื่นทำ แต่ตนเองไม่ทำ
– ท่านเห็นชอบกับการกระทำของบรรพบุรุษ ที่ฆ่าผู้เผยพระวจนะ
– ท่านไม่เข้าหาพระเจ้า และเมื่อมีคนจะเข้าไป ท่านก็ขัดขวางไว้
พระเจ้าจะใช้พวกผู้เผยพระวจนะและ อัครทูตไปหาพวกเขา
แล้วบางคนจะถูกพวกเขาข่มเหง และฆ่า
ดังนั้นคนยุคนี้แหละ ที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องโลหิตของบรรดาผู้เผยพระวจนะ
พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ก็เริ่มผูกพยาบาทพระเยซู
1. โยนาห์อยู่ในท้องปลา 3 วัน และได้รับการช่วยออกมา
เพื่อไปประกาศแก่ชาวนีนะเวห์ แล้วทำให้พวกเขาพ้นจากการพิพากษา
พระเยซูถูกฝังในอุโมงค์ 3 วัน และทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย
เพื่อประกาศแก่คนในยุคนี้ แล้วคนที่เชื่อจะรอดพ้นจากการพิพากษา
พระเยซูบอกว่าไม่ให้หมายสำคัญใดๆแก่คนในยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย
แต่ก็ยังให้หมายสำคัญที่สำคัญยิ่งแก่พวกเขา
คือ พระองค์เอง จะประทานชีวิตเพื่อช่วยพวกเขา
พระเยซูทรงปฏิบัติต่อคนชั่วร้ายด้วยพระเมตตา
2. ฟาริสีเชิญพระเยซูไปทานอาหาร
แต่ปรากฏว่า พระเยซูกลับตำหนิเขา อย่างไม่เกรงใจ
ดูแล้วเหมือนเสียมารยาทมาก ที่ทำเช่นนั้น
แต่พระเยซูไม่สนใจธรรมเนียมหรือมารยาท
เพราะมีบางอย่างที่สำคัญกว่า
คือการเตือนฟาริสี คนหน้าซื่อใจคด ที่พระองค์ทรงรัก
ให้เขากลับใจใหม่ หันกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้องก่อนจะสายเกินไป
วันนี้ มีบางอย่างเร่งด่วนกว่า การมัวแต่เกรงใจ
จนไม่กล้าบอกคนใกล้ชิดเรื่องความรอดในพระเยซูคริสต์
เพราะนี่เป็นเรื่องเร่งด่วนและคอขาดบาดตาย
จนไม่สามารถมัวแต่เกรงใจกันอยู่ ได้อีกต่อไป
ต้องเตือนพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. การประยุกต์ใช้ ลูกา บทที่ 11 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2mADP8Y
คำคม
“ จิตใจที่รักและเชื่อฟังพระเจ้า มีค่ายิ่งกว่า กิจกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ”