สรุป สดุดี 133

ภาพรวม

  • ดาวิดแต่งสดุดีบทนี้ สรรเสริญพระเจ้าว่าพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ประชากรของพระองค์ เมื่อพวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

สดุดี บทที่ 133 บทเพลงแห่ขึ้น กล่าวว่า เมื่อเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะได้รับพระพร

ดู​เถิด เป็น​การ​ดี​และ​น่า​ชื่น​ใจ​ ​พี่​น้อง​อาศัย​อยู่​ด้วย​กัน​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว
เป็นเหมือน​น้ำ​มัน​เจิม​ ​บน​อาโรนมหาปุโรหิต ตั้งแต่​ศีรษะ ไหล​ลง​มาจนถึง​คอ​เสื้อ​ของ​ท่าน
เป็นเหมือน​น้ำ​ค้าง​ของ​ภูเขา​เฮอร์​โมนทางภาคเหนือ ที่มา​ตก​ลงไกลถึง​บน​เทือก​เขา​ศิ​โยนทางถายใต้
เพราะ​ว่า​พระเจ้าทรง​บัญ​ชา​พระ​พร​ที่นั่น คือ​ชีวิตจำเริญเป็น​นิตย์

1. พระเจ้าชอบให้ประชากรของพระองค์รักกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
พระองค์จึงเตรียมพระพรมากมายแก่ผู้ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
และหากเราพยายามคงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
แต่คนอื่นก็ไม่ยอมเล่นด้วยสักที
ให้รู้เถิดว่า เรากำลังทำสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
และพระองค์จะทรงอวยพระพรแก่เรา เนื่องจากการกระทำเหล่านั้นแน่นอน

2. พระพรของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เปรียบเหมือน
น้ำมันเจิมมหาปุโรหิต ด้วยการเจิมที่มากล้น ไม่เพียงแค่ศรีษะยังไหลล้นลงมาจนถึงคอเสื้อเลยทีเดียว
คือ พระพรแห่งการเจิมและการทรงสถิตของพระเจ้า

3. พระพรของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เปรียบเหมือน
น้ำค้างภูเขา​เฮอร์​โมน​ ซึ่งอยู่​ทาง​ภาคเหนือ​ของ​อิสราเอล มี​ความ​สูง 2​,​814 เมตร จึง​มี​หิมะ​จับ​อยู่​ที่​ยอด​เขา​ตลอด​ปี ทุกค่ำคืนเมื่อความเย็นจากยอดภูเขาไหลลงมา ทำให้ในยามเช้าทั่วแผ่นดินอิสราเอล ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ไกลมาถึง​ภูเขาศิ​โยนซึ่งอยู่ทางภาคใต้
คือ พระพรที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากการดูแลจากพระเจ้า

4. เมื่อที่ใดที่ประชากรของพระเจ้าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ที่นั่นจะกลายเป็นศูนย์บัญชาการพระพร
พระพรมากมายจะหลั่งไหลมาจากที่นั่น

คำคม

“ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นกุญแจเปิดประตูแห่งพระพร ”

สรุป สดุดี 131

ภาพรวม

  • ผู้แต่งสดุดีบทนี้อธิษฐานต่อพระเจ้าว่าจะหวังใจและวางใจในพระองค์ตลอดไป

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

สดุดี บทที่ 131 บทเพลงแห่ขึ้น กล่าวว่า ขอวางใจในพระเจ้าตลอดไป

ข้า​แต่​พระเจ้า ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์มิ​ได้​ยโส
ข้า​พระ​องค์​มิ​ได้​ไป​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​เกิน​ตัว​ของ​ข้า​พระ​องค์

แต่​ข้า​พระ​องค์​ได้​สงบ​ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์
อย่าง​เด็ก​ที่​หย่า​นม​แล้ว​สงบ​อยู่​ที่​อก​มาร​ดา​ของ​ตน

อิส​รา​เอล​เอ๋ย จง​หวัง​ใน​พระเจ้า ตั้ง​แต่​บัด​นี้​สืบ​ไป​เป็น​นิตย์

1. คนที่ถ่อมตัวลง จนรู้ความจริงว่า ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย
จะวางใจในพระเจ้าได้อย่างจริงใจ
เพราะเขารู้ตัวดีว่า ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงไม่ต้องทำอะไร
เหลือทางเดียว คือ อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
แล้วไว้วางใจในพระองค์

คนที่ยโส คิดว่าตนเองมีปัญญาจะแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนนเอง
จึงไม่สามารถเกิดท่าที ถ่อมใจจนวางใจเช่นนี้ได้

วันนี้ เรากำลังยโสเกินไปหรือเปล่า?

2. เด็กที่หย่านมแล้ว เมื่อนอนที่อกแม่ เขาจะไม่ต้องดิ้นรนเพื่อจะหานมจากอกแม่
เพราะเขารู้ว่า ที่นั่นเขาไม่ต้องทำอะไร หรือดิ้นรนอะไร เพียงแค่นอนพักอย่างสงบเท่านั้นเอง
คนที่อธิษฐานมอบเรื่องราวของเขาไว้กับพระเจ้า
แล้ววางใจในพระองค์ ก็จะเป็นเช่นนั้น

เขารู้ว่า เขาไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีกแล้ว
เขาขอพักอย่างสงบในพระทรวงของพระบิดา แล้วทุกอย่างจะดีเอง

คำคม

“ ผู้วางใจในพระเจ้าอย่างแท้จริง จะพบการพักสงบที่แท้จริง ”