สรุป อาโมส 9

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 9 พระเจ้าประกาศถึงความพินาศของอิสราเอลที่กำลังจะมาถึง และบอกถึงการฟื้นฟูราชอาณาจักรของดาวิดในอนาคต

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 9

อาโมสเห็นนิมิต พระเจ้าทรงอยู่ที่แท่นบูชา
และทรงสั่งให้อาโมส ตีที่หัวเสา และหักมันเป็นชิ้นๆ ให้ตกใส่ศีรษะของประชาชนทั้งหมด

พระเจ้าตรัสว่า
คนที่ยังเหลืออยู่ จะถูกสังหาร จะไม่มีใครหนีไปได้เลย สักคนเดียว
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามซ่อนตัวอยู่ที่ใดก็ตาม

พระเจ้าจะจ้องมองพวกเขาอยู่ เป็นการมองร้าย ไม่ใช่มองดี

พระเจ้า ผู้ทรงแตะต้องแผ่นดินโลกและมันก็ละลายไป
พระองค์ได้พาอิสราเอล ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
แต่พวกเขาก็ยังทำบาปมากมายต่อพระองค์
เมื่อพระเจ้าพยายามคัดแยกคนอิสราเอลออกจากประชาชาชาติ
ปรากฏว่า พวกเขาไม่ยอมแตกต่าง แต่ทำตามประชาชาติทั้งหลายทุกประการ
พระองค์จะลงโทษพวกเขา แต่จะไม่ทำลายพงศ์พันธุ์ยาโคบให้สิ้นทีเดียว

เมื่อเวลามาถึง ในวันนั้นพระเจ้าจะยกเรือนของดาวิดที่ล้มลงแล้วนั้น ให้ตั้งขึ้นใหม่
และซ่อมส่วนต่างๆ ที่ชำรุด และสร้างใหม่อย่างในสมัยโบราณ

วันเวลาจะมาถึง เมื่อคนที่ไถจะทันคนที่เกี่ยว
พระเจ้าจะให้ประชากรของพระองค์ กลับสู่สภาพเดิม
พระองค์จะปลูกเขาไว้ในแผ่นดินของพวกเขา
และจะไม่ถูกถอนออกไปอีกเลย

1. เมื่อพระเจ้าจ้องมอง มาที่คนอธรรม พวกเขาจะพบกับสิ่งร้าย ในทุกอย่างที่พวกเขากระทำ
แต่เมื่อพระเจ้าจ้องมอง มาที่คนชอบธรรม(โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์) อย่างพวกเรา
พวกเราจะพบกับพระพร ในทุกอย่างที่พวกเรากระทำ

2. พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด เพียงแค่พระองค์แตะต้องแผ่นดินโลกและมันก็ละลายไป
ทุกสรรพสิ่งในโลก สมควรที่จะเกรงกลัว และยำเกรงพระองค์

พระองค์ทรงเมตตาอิสราเอล ช่วยพวกเขาออกจากการเป็นทาส
แยกพวกเขาออกจากชนชาติทั้งหลาย
แต่ปรากฏว่าพวกเขา กลับทำบาปมากมายต่อพระองค์
และไม่ยอมเป็นชนชาติที่แยกออกเพื่อพระเจ้า

พระเจ้าทรงนำเราออกจากการเป็นทาสบาป
พระองค์ทรงทำให้เราบริสุทธิ์ แยกออกเพื่อพระเจ้า
เราสมควรดำเนินชีวิตในความบริสุทะธิ์ มีชีวิตแตกต่างจากคนแห่งโลกนี้
เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์

3. แม้พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล
แต่ก็ยังคงเมตตาประชากรของพระองค์
ได้ทรงจัดเตรียมแผนการแห่งการช่วยกู้ ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ให้แก่พวกเขา
และเมื่อการอวยพรจากพระเจ้ามาถึง ชีวิตของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
คนที่ไถจะทันคนที่เกี่ยว คือ
เมื่อได้เวลาไถดินรอบใหม่แล้ว ปรากฏว่ายังเกี่ยวเก็บผลรอบที่แล้ว ที่มีมากมาย ยังไม่หมดเลย

พระเจ้าทรงเมตตาประชากรของพระองค์ และพร้อมที่จะประทานพระพรมากมายให้แก่เรา

คำคม

“ คนที่ปรารถนาจะรับพระเมตตาของพระเจ้า จะพบพระเมตตาของพระองค์ ”

สรุป อาโมส 8

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 8 พระเจ้าสำแดงนิมิตกระจาดผลไม้ฤดูร้อน แก่อาโมส เพื่อบอกว่า วันแห่งการลงโทษอิสราเอลมาถึงแล้ว

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 8

นอกจากพระเจ้าทรงสำแดงนิมิตแก่อาโมส 3 อย่างแล้ว(ในบทที่ 7)
ยังทรงสำแดงนิมิตอย่างที่ 4 เป็น กระจาดผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่ง
เพื่อเป็นการประกาศว่า
วันสิ้นสุดมาถึงอิสราเอลแล้ว ไม่สามารถเลื่อนการลงโทษได้อีกต่อไป

ในวันนั้น จะมีแต่เสียงร่ำไห้ ในพระวิหาร
จะมีศพมากมายทิ้งไว้ทุกแห่ง

เพราะพวกเขาเหยียบย่ำคนขัดสน ดูหมิ่นวันสะบาโต
คดโกง และเอารัดเอาเปรียบคนจน
พระเจ้าจะไม่มีวันลืม การกระทำทุกอย่างของพวกเขาแน่นอน

ในวันนั้น ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวัน โลกมืดไปในเวลากลางวันแสกๆ
พระเจ้าจะให้งานเลี้ยงของพวกเขากลับเป็นการไว้ทุกข์
และวาระสุดท้ายก็จะเหมือนวันที่ขมขื่น

พระเจ้าจะส่งความกันดารพระวจนะของพระเจ้า
พวกเขาจะพยายามแสวงหาพระวจนะของพระเจ้า แต่จะหาไม่พบ
คนหนุ่มสาว จะสลบไสลเพราะความกระหาย
บรรดาผู้ที่สาบานออกนามรูปเคารพจะล้มลง
และจะลุกขึ้นไม่ได้อีกเลย

1. “กระจาดผลไม้ฤดูร้อน” ในภาษาฮีบรู ออกเสียง คล้ายกับคำว่า “วันสิ้นสุด”
พระเจ้าทรงสำแดงนิมิตนี้ เพื่อบอกให้อิสราเอลรู้ว่า
ในที่สุดวันสิ้นสุดของการให้โอกาสกลับใจ ก็มาถึงพวกเขา
จากนี้ไปเป็นวาระแห่งการลงโทษจากพระเจ้า

พระเจ้าทรงให้โอกาสอิสราเอลที่จะกลับใจ มาเป็นเวลานาน
แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ก็มีวันสิ้นสุด

พระเจ้าทรงให้โอกาสแก่เราในการกลับใจเช่นกัน
จงรีบกลับใจ ก่อนที่จะหมดเวลา

2. สิ่งที่พระเจ้าทรงรังเกียจ คือ การข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า หรือข่มเหงเอาเปรียบคนยากจน
คนที่ทำเช่นนั้น พระเจ้าจะทรงแก้แค้นเขา แทนคนอ่อนแอ และคนยากจนเหล่านั้น

วันนี้ ให้เราระมัดระวังในการดำเนินชีวิตที่จะไม่ทำสิ่งที่พระเจ้าทรงรังเกียจเหล่านี้

3. พระเจ้าส่งผู้เผยพระวจนะคนแล้วคนเล่า มาพูดกับคนอิสราเอล
แต่พวกเขาไม่ฟัง
จนในที่สุด พระเจ้าก็ทำให้เกิดการกันการกันดารพระวจนะเกิดขึ้น
คือพวกเขาจะไม่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าอีกเป็นเวลานาน
ไม่ว่าจะพยายามหรือแสวงหามากเพียงใด ก็จะไม่พบ

วันนี้ เราได้รับโอกาสที่จะได้อ่าน ได้ฟัง พระวจนะของพระเจ้า อย่างง่ายดาย
เหมือนเปิดก็อกน้ำ ก็มีน้ำไหลออกมาให้ดื่ม ให้ใช้
แต่หากเราไม่ใส่ใจ เอาสนใจใยดี ต่อพระวจนะของพระเจ้า
วันเวลาอาจจะมาถึง คือ วันที่เราไม่อาจจะพบหรือได้ยินพระวจนะแท้ที่มาจากพระเจ้าอีกต่อไป

คำคม

“ มีวาระสำหรับทุกสิ่ง วันนี้ยังอยู่ในวาระของการกลับใจได้ทัน ”

สรุป อาโมส 7

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 7 พระเจ้าทรงสำแดงนิมิต 3 อย่าง แก่อาโมส ได้แก่ ตั๊กแตน ไฟ และสายดิ่ง
ส่วนอามาซิยาห์ ผู้ขัดขวางการเผยพระวจนะของอาโมส ก็จะได้รับการลงโทษจากพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 7

พระเจ้าทรงสำแดงนิมิตแก่อาโมส 3 อย่าง

นิมิตที่ 1
พระเจ้าทรงสร้างตั๊กแตน มากินพืชผักในแผ่นดินนั้นจนหมด

นิมิตที่ 2
พระเจ้าทรงเรียกให้มีไฟมาเผาผลาญแผ่นดินเสีย

อาโมสจึงอธิษฐาน ว่า
อิสราเอลคงรับไม่ไหว เพราะเขาเล็กนิดเดียว
พระเจ้าจึงเปลี่ยนพระทัย ไม่ให้ทั้ง 2 นิมิตนั้นเกิดขึ้น

นิมิตที่ 3
อาโมส เห็น องค์เจ้านายทรงยืนอยู่ข้างกำแพง มีสายดิ่งอยู่ในพระหัตถ์
ทรงตรัสว่า
พระองค์กำลังเอาสายดิ่งวัด ท่ามกลางอิสราเอล และจะไม่อภัยโทษพวกเขาอีก
เมืองและสถานนมัสการทั้งหลายของอิสราเอล จะถูกทำให้ร้างเปล่า

แล้วอามาซิยาห์ ปุโรหิตแห่งเบธเอล ก็ส่งคนไปฟ้อง กษัตริย์เยโรโบอัมแห่งอิสราเอล ว่า
อาโมสได้คิดกบฏ และคำพูดก็ทำลายบ้านเมือง
โดยบอกว่า เยโรโบอัมจะตายด้วยดาบ และอิสราเอลจะตกเป็นเชลย

และอามาซิยาห์บอกให้อาโมส หนีไปทำมาหากินและไปเผยพระวจนะ ที่แผ่นดินยูดาห์
ไม่ต้องมาเผยพระวจนะที่เบธเอลอีกเลย

อาโมสจึงตอบอามาซิยาห์ว่า
อาโมสไม่ใช่ผู้เผยพระวจนะ เป็นแค่คนเลี้ยงสัตว์ และคนดูแลสวนมะเดื่อ
แต่พระเจ้าทรงเรียกเขา ให้มาเผยพระวจนะแก่อิสราเอล ประชากรของพระองค์

ดังนั้น เพราะอามาซิยาห์ บังอาจมาห้ามไม่ให้เผยพระวจนะกล่าวโทษอิสราเอล
พระเจ้าจะทำให้ภรรยาของเขาเป็นหญิงโสเภณีที่ในเมือง
บุตรชายหญิงของเขาจะล้มตายด้วยดาบ
ที่ดินของเขา จะถูกแบ่งสันปันส่วน
ตัวเขาเองจะสิ้นชีวิตในแผ่นดินที่เป็นมลทิน
และอิสราเอลจะต้องตกเป็นเชลย อย่างแน่นอน

1. พระเจ้าทรงเปิดเผยนิมิต ที่จะลงโทษอิสราเอล แก่อาโมส
เพื่อให้อาโมสอธิษฐานเผื่ออิสราเอล
แล้วพระเจ้าก็ทรงตอบคำอธิษฐานของอาโมส โดยเมตตาแก่อิสราเอล

วันนี้ ที่พระเจ้าทรงเปิดเผยบางสิ่งของใครบางคนให้เราได้รับรู้
ก็เพื่อเราจะอธิษฐานเพื่อเขา
เพื่อพระองค์จะสำแดงพระเมตตาแก่เขา โดยการตอบคำอธิษฐานของเรา

2. พระเจ้าทรงวัดอิสราเอล ด้วยสายดิ่ง และพบว่าพวกเขาไม่ซื่อตรง
ดังนั้นพวกเขาจึงถูกลงโทษ

วันนี้เรากำลังเดินตรงไปในทางของพระเจ้า อยู่หรือไม่?

3. อามาซิยาห์ ปุโรหิตของรูปเคารพแห่งเบธเอล พยายามขัดขวางอาโมส ไม่ให้ทำตามบัญชาของพระเจ้า
ผลก็คือ อาโมสยังคงทำจนสำเร็จ แต่อามาซิยาห์และครอบครัวต้องพบกับความพินาศ

หากมีใครขัดขวางไม่ให้เรากระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
ให้เรายังคงเชื่อฟังพระเจ้าต่อไป และอธิษฐานเผื่อคนที่ขัดขวางนั้น
เพราะว่าเรากำลังจะได้รับพระพร แต่พวกเขากำลังจะได้รับอันตราย

คำคม

“ พระเจ้าทรงเปิดเผยให้เรารู้ เพื่อเราจะอธิษฐาน ”

สรุป อาโมส 6

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 6 พระเจ้าเตือนอิสราเอลว่า จะถูกทำลาย เพราะพวกเขานิ่งนอนใจ ไม่สนใจคำเตือนของพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 6

พระเจ้าตรัส ว่า

วิบัติแก่ผู้ที่อยู่อย่างสบายในศิโยน และในสะมาเรีย
พระเจ้าทรงทำให้พวกเขามีชื่อเสียงโดดเด่นยิ่งใหญ่กว่าประเทศเพื่อนบ้าน

พวกเขาอยากให้วันหายนะ ถูกเลื่อนออกไป
แต่กลับทำชั่วมากขึ้น ซึ่งเป็นการนำเอาหายนะเข้ามาใกล้

วิบัติแก่ผู้ที่นอนบนเตียงงาช้าง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
โดยไม่เป็นทุกข์โศก ในเรื่องความพินาศที่กำลังจะมาถึง
ดังนั้น คนเหล่านี้จึงต้องเป็นพวกแรกที่ตกไปเป็นเชลย

พระเจ้าทรงสะอิดสะเอียนความเย่อหยิ่งของยาโคบ
พระองค์จะมอบเมืองของพวกเขาแก่ศัตรู

ความพินาศที่น่ากลัวจะมาถึง
จนกระทั่งผู้คนหวาดกลัว จนไม่กล้าออกพระนามของพระเจ้า

พวกเขาทำสิ่งที่ไม่ควรทำ
ได้เปลี่ยนความยุติธรรม และความชอบธรรม ให้กลายเป็นยาพิษ

พวกเขาเย่อหยิ่งยโส ที่สามารถยึดเมืองเล็กๆ อย่างโลเดบาร์ และคารนาอิม มาได้
แต่พระเจ้าจะยกชาติหนึ่งขึ้นต่อสู้พวกเขา
และพวกเขาจะถูกข่มเหงตั้งแต่เหนือจรดใต้

1. คนอิสราเอลไม่อยากพบกับวันหายนะ
แต่แทนที่พวกเขาจะกลับใจ ละทิ้งบาป
กลับทำชั่วมากขึ้น ซึ่งเป็นการเร่งหายนะเข้ามา

หากไม่อยากพบกับหายนะ จงรีบกลับใจ

2. เมื่อคำเตือนจากพระเจ้ามาถึง
คนที่ไม่กลับใจ จะถูกลงโทษ
แต่พวกแรกที่ถูกลงโทษคือ คนที่ไม่กลับใจ แล้วยังไม่ใส่ใจ ในคำเตือนเหล่านั้นเลย
ส่วนพวกที่ยังเกรงๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กลับใจ
ในที่สุดก็จะถูกลงโทษเช่นกัน

วันนี้ ถ้าเราเกรงกลัวพระเจ้า ในคำเตือนที่มาถึงเรา
เราอาจยังพอมีเวลาที่จะกลับใจ จงรีบกลับใจก่อนที่จะสายเกินไป
แต่ถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่สนใจใยดี ต่อคำเตือนนั้น
ก็เตรียมรับผลที่จะตามมาได้เลย ไม่นานเกินรอ

3. พระเจ้าไม่พอพระทัยในผู้ที่เย่อหยิ่งยโส
คนที่เย่อหยิ่งยโส จะถูกทำให้ต่ำลง โดยสิ่งที่พวกเขาเคยภาคภูมิ นั่นเอง

คำคม

“ คนที่ไม่ทุกข์ร้อนในคำเตือนจากพระเจ้า จะพบความเดือดร้อนเพราะคำเตือนนั้น ”

สรุป อาโมส 5

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 5 อาโมสคร่ำครวญที่อิสราเอลละทิ้งพระเจ้า และกฏเกณฑ์ของพระองค์ ไปปรนนิบัติรูปเคารพ เพราะนั่นจะนำภัยพิบัติมาสู่พวกเขา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 5

อาโมสคร่ำครวญถึงอิสราเอลว่า
อิสราเอล คือสาวพรหมจารี เธอล้มลงแล้ว ไม่มีใครพยุงเธอขึ้นอีก
เมืองที่ส่งทหารออกไปหนึ่งพัน จะเหลือกลับมาหนึ่งร้อย

เพราะพระเจ้าเรียกให้พวกเขา แสวงหาพระองค์และดำรงชีวิตอยู่
อย่าแสวงหาที่จะไปพึ่งรูปเคารพ ที่เบธเอล ที่กิลกาล หรือที่เบเออร์เชบา

พวกเขาบิดเบือนความยุติธรรม และความชอบธรรม
พวกเขาเกลียดผู้ที่กล่าวเตือน และผู้ที่พูดความจริง
พวกเขาข่มเหงคนยากจน
ดังนั้นพวกเขาจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่แย่งชิงมานั้น
พวกเขาข่มเหงคนชอบธรรม รับสินบน และขับไล่คนขัดสนออกไปจากศาล

พวกเขาควรแสวงหาความดี ไม่ใช่แสวงหาความชั่ว
พวกเขาควรเกลียดความชั่ว และรักความดี และตั้งความยุติธรรมไว้
แล้วพระเจ้าอาจทรงพระกรุณาต่อพวกเขา

ดังนั้นพระเจ้าตรัสว่า
ทุกแห่งในเมือง และในสวนองุ่น จะมีการร่ำไห้

วิบัติแก่เจ้าผู้ปรารถนาวันแห่งพระเจ้า
วันนั้นเป็นความมืด มิใช่ความสว่าง
เป็นความมืดครึ้ม มิใช่ความเจิดจ้าเลย

เพราะพระเจ้าเกลียดชังบรรดาวันเทศกาลเลี้ยงของพวกเขา
รวมทั้งถวายเครื่องบูชาของพวกเขา

เพราะสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้พวกเขาทำ ไม่ใช่ถวายเครื่องบูชา
แต่ให้พวกเขากระทำความยุติธรรม และความชอบธรรม

40 ปี ในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่แสวงหาพระเจ้า
แต่ติดตามพระสัคคูท และพระไควันดาว รูปเคารพทั้งสองของพวกเขา
ดังนั้น พระเจ้าจะนำพวกเขาไปเป็นเชลย ณ ที่เลยเมืองดามัสกัสไป

1. คนอิสราเอลทำสิ่งชั่วร้าย แล้วมาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
พระเจ้าไม่พอพระทัยพวกเขา
แทนที่พวกเขาจะกลับใจทิ้งสิ่งชั่วร้าย
พวกเขาจึงเลือกทำสิ่งชั่วร้ายต่อไป
แล้วทิ้งพระเจ้าไปถวายเครื่องบูชาแก่รูปเคารพ

เราไม่สามารถเข้าใกล้พระเจ้าได้ หากเราไม่ยอมที่จะกลับใจ
คนที่เลือกถอยห่างจากพระเจ้า เพื่อจะไม่ต้องกลับใจ
เขากำลังเดินไปสู่หายนะอันน่าสะพรึงกลัว

2. สิ่งที่พระเจ้าปรารถนาให้ประชากรของพระองค์ทำ มากยิ่งกว่าการทำพิธีกรรมทางศาสนา
ก็คือ ทำความยุติธรรม และ ทำสิ่งที่ชอบธรรม

ในสายพระเนตรของพระเจ้า การเชื่อฟังพระเจ้า มีค่ายิ่งกว่า กิจกรรมใดๆทางศาสนา

3. วันแห่งพระเจ้า สำหรับคนชอบธรรมเป็นวันที่น่าปรารถนา เป็นวันแห่งความสว่าง
แต่สำหรับคนชั่วร้าย นั่นเป็นวันแห่งวิบัติ เป็นวันแห่งความมืด

วันแห่งการพิพากษา ใกล้เข้ามาแล้ว
เราอยากให้วันนั้นเป็นเช่นไร สำหรับเรา
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทำอะไรของเรา ในวันนี้

คำคม

“ จงแสวงหาพระเจ้า และดำรงชีวิตอยู่ ”

สรุป อาโมส 4

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 4 พระเจ้าทรงให้สิ่งร้ายต่างๆเกิดขึ้นกลับอิสราเอล ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่กลับมาหาพระองค์ ดังนั้นพวกเขา จงเตรียมตัวเผชิญกับการลงโทษของจริงจากพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 4

พระเจ้าตรัสกับอิสราเอล ว่า

พวกเขาได้บีบบังคับคนยากจนและขยี้คนขัดสน
ดังนั้น วันเวลาจะมาถึง พระเจ้าจะลงโทษพวกเขา

พวกเขามาที่กิลกาล เพื่อถวายเครื่องสัตวบูชาแก่รูปเคารพทุกเช้า
และนำทศางค์มาถวายทุกสามวัน

พระเจ้าทำให้
– พวกเขาอดอยากในทุกเมือง
– ขาดแคลนอาหารในทุกแห่ง
– ไม่มีฝน 3 เดือนก่อนถึงฤดูเกี่ยว
– ฝนตกในบางเมือง
– พืชผลของพวกเขามีโรคและเชื้อรา
– ตั๊กแตนก็มากินพืชผล
– เกิดโรคระบาดอย่างที่เกิดในอียิปต์
– คนหนุ่มของพวกเขาถูกฆ่าด้วยดาบ
– ม้าของพวกเขาถูกยึดไปเสีย
– บางคน ถูกทำลายเหมือนอย่าง เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่กลับมาหาพระเจ้า

ดังนั้น พวกเขา จงเตรียมตัวเพื่อจะเผชิญพระเจ้า
พบกับการลงโทษจากพระองค์

1. ก่อนการพิพากษาที่จะมาถึงอิสราเอล
พระเจ้าได้ส่งคำเตือนมาครั้งแล้วครั้งเล่า
เพื่อให้พวกเขากลับมาหาพระเจ้า
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ยอมกลับมาหาพระองค์ จนต้องพบหายนะครั้งใหญ่

วันนี้ เมื่อพระเจ้าทรงเตือนเรา ด้วยเหตุการณ์ต่างๆรอบตัว
ให้เรารีบถ่อมใจลง หันกลับมาหาพระเจ้า
และกลับใจเสียใหม่ สารภาพต่อพระองค์
แล้วรับการอภัยและการช่วยกู้จากพระเจ้า

2. คนอิสราเอลละทิ้งพระเจ้า ผู้เป็นทางออกของทุกปัญหาของพวกเขา
ไม่ทุ่มเท แสวงหาการช่วยเหลือจากรูปเคารพ ซึ่งช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย
มีแต่จะยิ่งทำให้พระพิโรธของพระเจ้า ลงมาสู่พวกเขามากขึ้น

วันนี้ เรากำลังมุ่งหาสิ่งใด เพื่อจะแก้ไขปัญหาชีวิตของเรา
อย่าให้เราเหมือนคนอิสราเอล ที่ละทิ้งพระเจ้าผู้เป็นทางออก ไปแสวงหาสิ่งไร้ค่าซึ่งเป็นทางตัน
ให้เราหันกลับมาแสวงหาพระเจ้าด้วยสุดใจ
แล้วจะพบทางออกที่แท้จริงของชีวิต

คำคม

“ หากเตือนด้วยตัวอย่างแล้วไม่ฟัง ก็จงเตรียมตัวพบกับ การตีสอนของจริง ”

สรุป อาโมส 3

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 3 พระเจ้าทรงกล่าวโทษอิสราเอลในความผิดที่พวกเขาทำ ซึ่งพระองค์จะนำการลงโทษมาสู่พวกเขา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 3

อาโมสประกาศพระวจนะ กล่าวโทษคนอิสราเอล ว่า

ในบรรดาชนชาติทั้งสิ้นในโลกนี้ พระเจ้าได้ทรงเลือกพวกเขาไว้
ดังนั้นพระเจ้าจะลงโทษพวกเขา เพราะความผิดบาปทั้งสิ้นของพวกเขา

สองคนจะเดินไปด้วยกัน ต้องตกลงกันไว้ก่อน
พระเจ้าทรงมีพันธสัญญากับอิสราเอลแล้ว
ว่าถ้าพวกเขาเชื่อฟังจะได้รับพระพร ถ้าไม่เชื่อฟังจะรับการลงโทษ

เหตุที่สิงห์เปล่งเสียงคำราม ก็เพราะมันจับเหยื่อได้
เหตุที่พระเจ้าพิโรธเพราะคนอิสราเอลทำผิดบาป

เหตุที่นกติดกับ ก็เพราะอยากกินเหยื่อ จึงลงไปติดกับเอง
เหตุที่คนอิสราเอลต้องรับการลงโทษ เพราะพวกเขาทำตัวเอง

ปกติเมื่อมีข้าศึกบุกมา ทหารยามเป่าเขาสัตว์เตือน
ประชาชนย่อมตกใจกลัว
แล้วเมื่อมีประกาศภัยที่มาจากพระเจ้า ผู้ทรงควบคุมทุกสิ่ง
พวกเขายังไม่ยอมเกรงกลัว ไม่ยอมกลับใจ

เนื่องจากพระเจ้าทรงสั่งให้อาโมสเผยพระวจนะ เขาจึงต้องทำ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
โดยเผยพระวจนะว่า

เมืองอัชโดด(อัสซีเรีย) และอียิปต์ จะบุกมาที่บนภูเขาสะมาเรีย
คนอิสราเอล ผู้ที่สะสมความทารุณ และการโจรกรรมไว้
ดังนั้นศัตรูจะโจมตีเมืองจนแตก และจะถูกปล้นเอาสิ่งต่างๆไป

แกะที่อยู่ในปากสิงห์แล้ว ผู้เลี้ยงแกะชิง ขา หรือหู ออกมาไม่ได้ ฉันใด
ก็จะไม่มีใครช่วย คนอิสราเอลผู้อยู่ในสะมาเรีย จากการลงโทษของพระเจ้าได้

ในวันที่พระเจ้าทำโทษอิสราเอลนั้น
บรรดาแท่นบูชาของเมืองเบธเอล จะถูกพังลง
เรือนหรูหรา และเรือนที่ทำด้วยงาช้างจะพินาศ และเรือนใหญ่ๆ ทั้งหลายจะสูญสิ้นไป

1. พระเจ้าทรงเลือกอิสราเอลให้เป็นประชากรของพระองค์
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าพวกเขาทำสิ่งชั่วร้าย แล้วจะไม่ถูกลงโทษ
พระเจ้าจะไม่ทำลายเขาอย่างสิ้นเชิง แต่จะลงโทษพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะกลับใจใหม่

วันนี้เราเป็นประชากรของพระเจ้าแล้ว
พระเยซูช่วยเราพ้นจากการลงโทษในบึงไฟนรก
แต่ถ้าเรายังดำเนินชีวิตในบาปโดยไม่ยอมกลับใจ
พระองค์ ผู้ทรงรักเราจะยอมไม่ได้
พระองค์จะตีสอนเรา จนกว่าเราจะยอมกลับใจอย่างแท้จริง

2. การดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้านั้น เรามีข้อตกลงกับพระองค์
ถ้าเราเชื่อฟัง จะได้รับพระพร
ถ้าไม่เชื่อฟัง จะรับการตีสอน

3. คนอิสราเอลไม่ยอมเกรงกลัว เมื่อได้รับคำเตือนเรื่องการลงโทษจากพระเจ้า
พวกเขาจึงไม่ยอมกลับใจ
และในที่สุดพวกเขาจึงต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าสลด

วันนี้ พระเจ้าเตือนเรา
ให้เราเกรงกลัว ยำเกรงพระเจ้า และรีบกลับใจเสียใหม่ในทันที

คำคม

“ เมื่อพระเจ้าเตือน ใครกล้าไม่เกรงกลัว? ”

สรุป อาโมส 2

ภาพรวม

อาโมส บทที่ 2 พระเจ้าให้อาโมสประกาศการพิพากษาเหนือ โมอับ ยูดาห์ และ อิสราเอล

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 2

พระเจ้าตรัส ว่า

การละเมิดของโมอับครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะพวกเขาได้ทำกับศัตรูอย่างโหดเหี้ยม
พระเจ้าจะส่งการลงโทษมาบนโมอับ
เมืองของพวกเขาจะถูกทำลายเสีย
และโมอับจะตายท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เหมือนที่พวกเขาทำกับผู้อื่น
ผู้ครอบครอง และ บรรดาเจ้านาย ของโมอับจะถูกฆ่าเสีย

การละเมิดของยูดาห์ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะว่าพวกเขาปฏิเสธธรรมบัญญัติของพระเจ้า
และหลงเจิ่นไปตามบรรดาพระเท็จของพวกเขา
พระเจ้าจะนำการลงโทษมาบนยูดาห์ และกรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย

การละเมิดของอิสราเอล ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะพวกเขาขายคนชอบธรรมเอาเงิน และข่มเหงคนขัดสน
ทั้งพ่อทั้งลูกของพวกเขา หลับนอนกับหญิงสาวคนเดียวกัน
ทำให้นามบริสุทธิ์ของพระเจ้าเป็นมลทิน
พวกเขาข่มเหง เอาเปรียบคนอื่น และนอนข้างแท่นบูชารูปเคารพ

พระเจ้าได้ทำลายล้างคนอาโมไรต์
และได้นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์
และนำเจ้าถึง 40 ปีในถิ่นทุรกันดาร เพื่อพวกเขาจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินของคนอาโมไรต์
พระเจ้าได้ตั้ง ผู้เผยพระวจนะ และ พวกนาศีร์ ให้แก่คนอิสราเอล
แต่พวกเขากลับลบหลู่คนเหล่านั้น

พระเจ้าจะลงโทษพวกเขา
ไม่ว่า ผู้ที่รวดเร็ว หรือ ผู้ที่แข็งแรง หรือ ผู้ที่เก่งกล้า ก็จะหนีไม่พ้น
แม้แต่ผู้ที่มีใจห้าวหาญ ในวันนั้นจะหนีไปแต่ตัวล่อนจ้อน

1. โมอับกระทำต่อผู้อื่นอย่างโหดร้าย
เมื่อการพิพากษามาถึง พวกเขาจึงถูกทำลายอย่างโหดร้ายทำนองเดียวกับที่ได้เคยทำแก่ผู้อื่น

สิ่งชั่วร้ายที่ได้หว่านลงไป วันนี้อาจจะไม่เห็นมีอะไรกิดขึ้น
แต่เมื่อวันแห่งการพิพากษามาถึง
คนนั้นจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่ได้หว่านไปนั้น มากกว่าที่ได้หว่านลงไปเสียอีก

2. พระเจ้าตำหนิชนชาติต่างๆ เพราะพวกเขาทำสิ่งไม่ดีต่อชนชาติอื่น
แต่พระเจ้าตำหนิยูดาห์และอิสราเอล เพราะพวกเขาไม่ได้ทำตามบัญญัติของพระองค์

สำหรับประชากรของพระเจ้านั้น
มาตรฐานที่จะวัด ก็คือ การเชื่อฟังพระเจ้า

ต่อให้ไม่ได้ทำร้ายชนชาติอื่น แต่ไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า
นั่นก็ทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย

พระเจ้าตำหนิพวกเขาที่ละทิ้งพระเจ้า
และละทิ้งบัญญัติของพระองค์ ที่สั่งให้มีชีวิตที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเมตตาผู้อื่น

แต่พวกเขาไม่เชื่อฟัง ไม่ยอมทำตาม
การลงโทษจากพระเจ้าจึงตกมาสู่พวกเขา

สิ่งที่พระเจ้า เรียกให้เราผู้เป็นประชากรของพระเจ้า ให้กระทำ ก็คือ
จงเชื่อฟัง
เมื่อเชื่อฟังจะพบพระพร เมื่อไม่เชื่อฟังจะพบสิ่งร้ายในชีวิต

คำคม

“ ผู้ที่เป็นประชากรของพระเจ้า จะเชื่อฟังพระคำของพระองค์ ”

สรุป อาโมส 1

ภาพรวม

อาโมสเป็นผู้เผยพระวจนะจากยูดาห์(อิสราเอลตอนใต้) ที่พระเจ้าทรงใช้ให้ไปเผยพระวจนะในอิสราเอล(ตอนเหนือ) โดยกล่าวถึงการพิพากษาที่จะมาถึงเพราะความชั่วร้ายของพวกเขา
อาโมส บทที่ 1 พระเจ้าให้อาโมสประกาศการพิพากษาเหนือ ซีเรีย ฟิลิสเตีย ไทระ เอโดม และอัมโมน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

อาโมส บทที่ 1

อาโมส เป็น ผู้เลี้ยงแกะแห่งเมืองเทโคอา ซึ่งพระเจ้าทรงใช้ให้ไปเผยพระวจนะเกี่ยวกับอิสราเอล ในรัชกาลอุสซียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และในรัชกาลเยโรโบอัมกษัตริย์แห่งอิสราเอล

อาโมสกล่าวว่า
พระเจ้าตรัสออกมาจากเยรูซาเล็ม ว่า

การละเมิดของเมืองดามัสกัส(ซีเรีย) ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะว่าพวกเขาได้ทำทารุณคนอิสราเอล ในกิเลอาด
พระเจ้าจะลงโทษฮาซาเอล กษัตริย์แห่งซีเรีย
และเมืองดามัสกัส จะถูกทำลาย
และประชาชนซีเรียจะต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยยังเมืองคีร์

การละเมิดของเมืองกาซา(ฟิลิสเตีย) ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะพวกเขาจับคนอิสราเอล ไปมอบให้แก่เอโดม
พระเจ้าจะลงโทษเมืองกาซา
พระองค์จะตัดชาวเมืองออกเสีย ชาวฟีลิสเตียที่เหลืออยู่จะพินาศ

การละเมิดของเมืองไทระ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะพวกเขาจับคนอิสราเอล ไปมอบให้แก่เอโดม
พระเจ้าจะลงโทษเมืองไทระ
เมืองนั้นจะถูกทำลายเสีย

การละเมิดของเอโดม ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะพวกเขาได้ไล่ฆ่าน้องของเขา(อิสราเอล) อย่างไร้ความสงสาร
พระเจ้าจะลงโทษเมืองเทมาน และเมืองโบสราห์ ของเอโดม

การละเมิดของคนอัมโมน ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะว่าพวกเขาได้ผ่าท้องหญิงมีครรภ์ของอิสราเอลในกิเลอาด เพื่อจะขยายอาณาเขตของตน
พระเจ้าจะลงโทษเมืองรับบาห์ และกษัตริย์และพวกเจ้านายของพวกเขาจะตกไปเป็นเชลย

1. พระเจ้าทรงใช้คนเลี้ยงแกะอย่างอาโมส ซึ่งไม่ใช่ปุโรหิตหรือผู้เผยพระวจนะ
ให้ขึ้นไปจากยูดาห์ ไปกล่าวโทษอิสราเอล ซึ่งเป็นศัตรูกับยูดาห์
และกล่าวโทษชนชาติต่างๆ
ช่างเป็นเรื่องยากและอันตรายอย่างยิ่ง

แต่อาโมสก็เชื่อฟัง ทำตาม
และเพราะการเชื่อฟังของเขา ทำให้พระธรรมอาโมสกลายเป็นพระพรต่อผู้คนหลายล้านคน
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

เมื่อเรากล้าเชื่อฟังพระเจ้า พระองค์จะทรงปกป้องและอวยพระพรแก่เราและสิ่งที่เราทำ

2. ฟิลิสเตีย และ ไทระ แม้ไม่ได้ฆ่าหรือทำลาย อิสราเอล โดยตรง
แต่จับคนอิสราเอล ไปให้เอโดมทำลาย
นั่นก็เป็นความผิดมากเช่นกัน

การที่สนับสนุนคนชั่ว ให้ทำสิ่งชั่วร้าย
ก็เป็นการเข้าส่วนทำสิ่งชั่วร้ายร่วมกับเขา
และจะได้รับผลตอบสนองเช่นเดียวกับเขา

3. พระเจ้าตรัสว่าความผิดบาปของชนชาติเหล่านั้น เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
จนในที่สุดการพิพากษา จึงมาถึงพวกเขา

เมื่อผิดพลาดพลั้งบาป การลงโทษยังจะไม่มาถึงในทันที
เพราะให้โอกาสที่จะกลับใจ
แต่หากยังดำเนินในทางนั้นต่อไป โดยไม่คิดจะกลับใจ
ในที่สุดแล้วการลงโทษจากพระเจ้าจะมาถึงคนนั้น

คำคม

“ การทำผิดบาปครั้งแล้ว ครั้งเล่า โดยไม่ยอมกลับใจ กำลังนำภัยมาสู่ชีวิต ”