สรุป เนหะมีย์ 5

ภาพรวม

  • คนร่ำรวยในเยรูซาเล็ม ได้เอาเปรียบคนยากจน เนหะมีย์จึงเตือนพวกเขา แล้วพวกเขาก็กลับใจใหม่ เลิกพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

เนหะมีย์ บทที่ 5 เมื่อสันบานลัทและพวก พยายามที่จะขัดขวางการสร้างกำแพงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ แต่เนหะมีย์ได้หนุนใจประชาชนและจัดระบบป้องกันการโจมตีจากศัตรู งานสร้างกำแพงจึงคืบหน้าต่อไป

ปรากฏว่ามีการ​ร้องเรียนเกิดขึ้น
คนยากจน ต้องนำไร่​นา​ สวน​องุ่น​ และ​บ้าน​เรือน​ของพวกเขา ไปจำนำกับคนร่ำรวย เพื่อ​จะ​ได้​ข้าว หรือได้เงินเพื่อนำไปจ่าย​ภาษี​ถวาย​กษัตริย์
และถ้ามีอะไรที่จะจำนำแล้ว ก็​ยัง​ให้นำ​ลูก​ชาย​และ​ลูก​สาว​มา​เป็น​ทาส แทนเงินที่ยืมไปอีกด้วย

เมื่อเนหะมีย์ทราบเรื่อง​ก็​โกรธ​มาก

เนหะมีย์ตรึก​ตรอง​แล้ว​ ก็​นำเรื่องนี้​ไป​ต่อ​ว่า​พวก​ขุน​นาง​และ​เจ้า​หน้า​ที่
และ​​ก็​เรียก​ประชาชนมา​สู้​กับ​พวกเขา

เนหะมีย์กล่าวแก่พวกคนร่ำรวย​ว่า
เขา​ได้​ไถ่​พวกพี่​น้อง​ผู้​ถูก​ขาย​ไป​ต่าง​ประเทศ​คืน​มา ตาม​แต่​เขา​จะ​สา​มารถ​ทำ​ได้
แต่​พวกเขากลับ​ขาย​พี่​น้องให้เป็นทาสอีก
พวกเขา​ควร​จะ​ดำเนิน​ใน​ความ​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า​ เพื่อ​ป้อง​กัน​การ​เยาะ​เย้ย​ของ​​ศัตรู
ดังนั้นขอ​ให้​เลิก​การ​ให้​ยืม​โดย​เรียก​ของ​ประ​กัน​นั้น​เสีย​เถิด
และ​คืนสิ่งที่ยึดมา และ​คืนดอก​เบี้ยที่ได้​รีด​เอา​จาก​พวกคนยากจน

แล้ว​พวก​เขายินยอมทำตาม ​คืน​สิ่ง​เหล่า​นั้น และ​จะ​ไม่​เรียก​ร้อง​สิ่ง​ใดๆ จากคนยากจนอีก
และ​เนหะมีย์​ก็ให้พวกเขา​ทำสัญญา​
แล้วเนหะมีย์ก็สลัด​ชาย​เสื้อ​ที่​พก​ของ​ไว้ ​พูด​ว่า
ถ้า​คน​ใด​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​สัญญา​นี้ ขอ​พระ​เจ้า​ทรง​สลัด​เขา​เสีย​จาก​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​เขา

สำหรับเนหะมีย์นั้น ตลอด 12 ปี ​ที่​เขาได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​ว่า​ราช​การ​ใน​แผ่น​ดิน​ยูดาห์
เขาหรือ​พี่​น้อง​ของ​เขา ไม่​ขอ​รับ​สวัสดิการ​อาหาร​ของ​ตำแหน่ง​ผู้​ว่า​ราช​การเลย
เพราะ​ความ​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า
เขาจึงไม่ต้องการให้ประชาชนที่ทำงานหนักต้องแบกภาระเพิ่มขึ้น
และ​เนหะมีย์ไม่​ได้​หา​กรรม​สิทธิ์​ที่​ดินใดๆ​เลย

เนหะมีย์อธิษฐานว่า
“ข้า​แต่​พระ​เจ้า​ ขอ​ทรง​ระลึก​ถึง​สิ่ง​สารพัด​ที่​ข้า​พระ​องค์​ได้​ทำ​เพื่อ​ชน​ชาติ​นี้ ให้​เกิด​ผล​ดี​เถิด”

1. เนหะมีย์ได้นำคนอิสราเอลจำนวนหนึ่งกลับมาพร้อมกับเขา
คนเหล่านั้นจึงพ้นจากการเป็นทาสในบาบิโลน ได้กลับสู่เยรูซาเล็ม
แต่พวกคนร่ำรวยได้ฉวยโอกาส ทำให้พวกเขาเป็นทาสอีก
จึงทำให้เนหะมีย์โกรธอย่างมาก

ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระเจ้าทรงทำให้เราพ้นจากการเป็นทาสของบาป ทาสแห่งอำนาจมืดแห่งโลกนี้
แล้วถ้าเราจงใจกลับไปเป็นทาสของสิ่งเหล่านั้นอีก
จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้หรือ?

2. เนหะมีย์เตือนว่า หากพวกคนร่ำรวยไม่ยำเกรงพระเจ้า จะทำให้ศัตรูเยาะเย้ยได้
เหมือนใน รม. 2:24 ที่กล่าวว่า
เพราะ​พระ​คัม​ภีร์​เขียน​ไว้​ว่า “พระ​นาม​ของ​พระ​เจ้า​เป็น​ที่​ดู​หมิ่น​ท่าม​กลาง​คน​ต่าง​ชาติ​ก็​เพราะ​พวก​ท่าน”

ถ้าเราผู้เป็นประชากรของพระเจ้า ไม่ยำเกรงพระเจ้า
เรากำลังทำให้พระนามของพระเจ้าเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น
เหมือนบอกกับโลกว่า
“พระเจ้าไม่น่ายำเกรง คิดดูสิ ขนาดประชากรของพระองค์ยังไม่ยำเกรงพระองค์เลย”

3. เนหะมีย์ได้ทุ่มเท เสียสละ และเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน ในการสร้างกำแพงเพื่อพระเจ้า
แล้วเขาจึงอธิษฐานว่า
ขอพระเจ้าทรงระลึกถึงสิ่งที่เขาทำอย่างจริงใจนี้
แล้วขอพระองค์ทรงอวยพระพร งานรับใช้ที่เขาทำนี้ให้เกิดผลดีด้วยเถิด

เขาทุ่มเทเพื่อพระเจ้า แล้วเขาก็ขอพระเจ้าอวยพระพร
ไม่ใช่อวยพรชีวิตของเขาหรือครอบครัวของเขา
แต่อวยพรงานรับใช้ที่เขาทำเพื่อพระองค์นั้น

ท่าทีแห่งการรับใช้ที่ถูกต้อง คือ ไม่ใช่รับใช้เพื่อให้พระเจ้าอวยพรตนเอง
แต่รับใช้เพื่อให้สิ่งที่พระเจ้ามอบหมายให้เราทำนั้นสำเร็จ

คำคม

“ การยำเกรงพระเจ้า เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ”