ภาพรวม
- คนอิสราเอลจับสลาก ให้คน 1 ใน 10 ของประชาชนอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เนหะมีย์ บทที่ 11 เมื่อผู้นำและประชาชนอิสราเอลได้ปฏิญาณต่อพระเจ้า ที่จะทำตามพระบัญญัติของพระองค์
จากนั้นพวกผู้นำของประชาชนก็ได้อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม
และประชาชนที่เหลือนั้นจับฉลากกัน
เพื่อจะนำเอาคน 1 ใน 10 ส่วนให้เข้าไปอยู่ในเยรูซาเล็ม
อีก 9 ส่วนสิบนั้นให้อยู่ในเมืองต่างๆ
และประชาชนได้ขอบคุณบรรดาผู้ที่สมัครใจไปอยู่ในเยรูซาเล็ม
โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม นับเฉพาะผู้ชายในเผ่าต่างๆ ได้แก่
เผ่ายูดาห์ เชื้อสายของเปเรศ มี 468 คน
เผ่าเบนยามิน มี 928 คน
เผ่าเลวี
– พวกปุโรหิต มี 1,192 คน
– พวกเลวี มี 284 คน
– พวกคนเฝ้าประตู มี 172 คน
รวมทั้งสิ้นเป็น >>>> 3,044 คน
ส่วนคนอิสราเอลที่เหลือก็อยู่ในเมืองทั้งสิ้นของยูดาห์ ในที่ดินมรดกของตน
แต่บ่าวไพร่ประจำพระวิหารอยู่ที่โอเฟล
ศีหะกับกิชปา เป็น ผู้ควบคุมบ่าวไพร่ประจำพระวิหาร
อุสซี เป็น ผู้ดูแลคนเลวีในเยรูซาเล็ม
เปธาหิยาห์ เป็น ผู้สื่อสารระหว่าง กษัตริย์กับประชาชน
ส่วนคนเลวีที่เหลือก็กระจายอยู่ในดินแดนของเผ่ายูดาห์และเผ่าเบนยามิน
1. เมื่อกำแพงเยรูซาเล็มสร้างเสร็จ แต่บ้านเมืองก็ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมามากนัก ยังคงเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง จึงไม่มีใครอยากจะอาศัยอยู่ในเมือง อยากไปอาศัยในที่ดินที่ตนได้รับแบ่งตามมรดกมากกว่า
แต่เนื่องจากพวกเขากลับใจใหม่ และปฏิญาณว่าจะไม่เพิกเฉยต่อพระนิเวศของพระเจ้า
ดังนั้นพวกผู้นำจึงเสียสละอาศัยอยู่ในเมืองต่อไป
และประชาชนก็ร่วมกันจับสลาก เพื่อให้คน 1 ใน 10 ของประชาชน อาศัยอยู่ในเมืองต่อไป
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนอาสาจะอาศัยอยู่ในเมืองอีกด้วย
การกลับใจของคนอิสราเอล สะท้อนออกมาเป็นการเสียสละความสะดวกสบายของพวกเขาและครอบครัว
เพื่อเห็นแก่พระนิเวศของพระเจ้า
การกลับใจแท้ของเรา จะสะท้อนออกมาเป็นการยอมเสียอะไรบางอย่าง เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
คนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม ตอนแรกดูเหมือนต้องเสียสละมากมาย
แต่ต่อมาเมื่อเยรูซาเล็มกลายเป็นเมืองสำคัญในดินแดนนี้แล้ว
แน่นอนลูกหลานของคนเหล่านั้นที่มีกรรมสิทธิ์ที่ดินในเยรูซาเล็ม ย่อมได้รับผลประโยชน์มากมาย
วันนี้สิ่งที่เรายอมสละเพื่อเห็นแก่พระเจ้า
ดูเหมือนจะต้องสูญเสียบางอย่างไป
แต่ความจริงแล้วเป็นการตระเตรียมเพื่อให้ได้รับสิ่งที่ดีกว่า
คำคม
“ การเสียสละเพื่อพระเจ้า เป็นการเปิดประตูพระพรสำหรับชีวิตของตน ”