ภาพรวม
- เยเรมีย์ บทที่ 52 คำพยากรณ์ที่เยเรมีย์ได้บอกไว้เกิดขึ้นเป็นจริงทั้งหมด
เยรูซาเล็มถูกเผาทำลายสิ้น
สิ่งของในพระนิเวศน์ทั้งหมดถูกนำไปบาบิโลน
เศเดคียาห์ถูกจับและไปตายที่บาบิโลน
พวกข้าราชการของเศเดคียาห์ถูกฆ่าตายหมด
ประชาชนถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เยเรมีย์ บทที่ 52
กษัตริย์เศเดคียาห์ แห่งยูดาห์ ทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเจ้า
และพระเจ้าทรงพระพิโรธต่อชาวเยรูซาเล็มและยูดาห์ ที่ทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย
พระองค์จึงทรงเหวี่ยงพวกเขาไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์
ในปีที่ 9 แห่งรัชกาลของเศเดคียาห์ เขาได้กบฏต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
ในวันที่ 10 ของเดือนที่ 10 เนบูคัดเนสซาร์ พร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นได้มาล้อมเยรูซาเล็มไว้
จนถึง วันที่ 9 ของเดือนที่ 4 ปีที่ 11 แห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ กรุงนั้นก็แตก
เศเดคียาห์พยายามหนีไป แต่ก็ถูกทหารบาบิโลนจับได้
แล้วนำมาพบ กษัตริย์แห่งบาบิโลน ที่เมืองริบลาห์
กษัตริย์แห่งบาบิโลน ได้ประหารบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อหน้าเขา
และทรงประหารเจ้านายทั้งสิ้นแห่งยูดาห์เสีย
และได้ทำ ตาของเศเดคียาห์ ให้บอด แล้วตีตรวนนำไปขังคุกในบาบิโลน จนถึงวันตาย
วันที่ 10 ในเดือนที่ 5 ปีที่ 19 ของรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้เข้าไปในกรุงเยรูซาเล็ม
และพระนิเวศของพระเจ้า และพระราชวัง และบ้านเรือนทั้งสิ้น
และได้ทลายกำแพงเมือง
และได้จับประชาชนที่เหลืออยู่ผู้อยู่ในนคร ไปเป็นเชลย
แต่ได้ละคนยากจนที่สุดในแผ่นดินไว้บ้าง เพื่อให้เป็นคนทำสวนองุ่นและทำไร่ไถนา
คนเคลเดียได้ขนเอาของใช้ในพระวิหาร ที่เป็นทองคำ เงิน และทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดไปยังบาบิโลน
อันไหนที่ขนยาก ก็ทุบหรือหลอม เป็นทองคำ เป็นเงิน แล้วค่อยเอาไป
ทองสัมฤทธิ์ที่ได้มาก็มากมาย จนชั่งกันไม่ไหว
และได้จับเสไรยาห์มหาปุโรหิต เศฟันยาห์ปุโรหิตรอง พวกข้าราชการ และที่ปรึกษาของกษัตริย์
แล้วนำไปพบกษัตริย์แห่งบาบิโลน ที่ริบลาห์
และกษัตริย์แห่งบาบิโลน ก็ประหารชีวิตพวกเขาเสีย
จำนวนประชาชนชาวยิวซึ่งเนบูคัดเนสซาร์จับไปเป็นเชลย
ในปีที่ 7 จำนวน 3,023 คน
ในปีที่ 18 จำนวน 832 คน
ในปีที่ 23 จำนวน 745 คน
รวมคนยิวทั้งหมดเป็น 4,600 คน
ในปีที่ 37 แห่งการเป็นเชลยของเยโฮยาคีน กษัตริย์แห่งยูดาห์นั้น
เอวิลเมโรดักกษัตริย์แห่งบาบิโลน ทรงพระกรุณาต่อเยโฮยาคีน ทรงนำเขาออกมาจากเรือนจำ
และประทานที่นั่งที่มีเกียรติกว่ากษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ในบาบิโลน
ดังนั้นเยโฮยาคีนจึงได้เสวยที่โต๊ะเสวยของกษัตริย์ทุกวันตลอดชีวิต
ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นก็ได้รับพระราชทานจากกษัตริย์ตามความต้องการรายวันตลอดชีวิต
1. น่าเศร้าที่กษัตริย์เศเดคียาห์ บรรดาเจ้านาย และประชาชน ไม่เชื่อคำเตือนจากพระเจ้า ที่ผ่านมาทางเยเรมีย์
จนในที่สุดพวกเขาและบ้านเมืองต้องพบกับหายนะอันน่าสลด
วันนี้อย่าให้เรามีใจแข็งกระด้างต่อการเตือนจากพระคำของพระเจ้า
ให้เรารีบถ่อมใจลง กลับใจใหม่ สารภาพความผิดต่อพระเจ้า
แล้วเราจะได้รับการอภัย ได้รับการฟื้นฟูชีวิต เริ่มต้นชีวิตใหม่
แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าสายเกินไป
2. พระเจ้ายอมให้พระวิหารของพระเจ้า ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
เพื่อให้ประชากรของพระเจ้าได้เรียนรู้ และหันกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
เพราะสำหรับพระเจ้าแล้ว ตัวอาคารอันงดงามโอ่อ่าตระการ ไม่สำคัญอะไรเลย
เมื่อเทียบกับจิตวิญญาณของประขากรของพระองค์ ที่พระองค์ทรงรัก
อย่าให้เรารักตัวอาคารหรือสิ่งของ มากกว่าจิตวิญญาณของคน
น่าเสียดายที่มีคริสตจักรจำนวนไม่น้อย ทุ่มงบประมาณและกำลังมหาศาลสำหรับการสร้างตัวอาคาร (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก) แต่พวกเขากลับละเลย หรือ ใช้งบประมาณหรือกำลังเพียงเล็กน้อยในการดูแล ติดตาม ช่วยเหลือจิตวิญญาณของสมาชิก
รวมถึงการทุ่มงบประมาณหรือกำลังเพียงเล็กน้อย นำจิตวิญญาณที่กำลังจะพินาศ ให้มาถึงความรอดในพระเยซูคริสต์
คำคม
“ หัวใจของพระเจ้าใส่ใจจิตวิญญาณของผู้คน ไม่ใช่มหาวิหารอันงดงาม ”