ภาพรวม
- เยเรมีย์ บทที่ 7 พระเจ้าทรงเรียกให้คนอิสราเอลกลับใจ แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง กลับทำบาปชั่วมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เยเรมีย์ บทที่ 7
พระเจ้าตรัสสั่งเยเรมีย์ ว่า
ให้เขาไปยืนอยู่ในประตูกำแพงพระนิเวศ
และร้องประกาศแก่บรรดาคนยูดาห์ ผู้เข้ามาเพื่อจะนมัสการพระเจ้า ว่า
จงซ่อมทางและการกระทำของพวกเขาเสีย
และพระเจ้าจะให้พวกเขาอาศัยอยู่ในสถานที่นี้
อย่าไว้วางใจในคำหลอกลวง ที่บอกว่า
เพราะพระวิหารของพระเจ้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจะปลอดภัย
จงซ่อมทางและการกระทำ โดย
– ให้ความยุติธรรมต่อกัน
– ไม่ข่มเหงคนต่างด้าว หรือคนไร้ที่พึ่ง
– ไม่ฆ่าคนที่ไร้ความผิด
– ไม่ติดตามพระอื่นไปให้เจ็บตัวเอง
แล้วพวกเขาจะสามารถอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ ตลอดไปเป็นนิตย์
ถ้าพวกเขาวางใจในคำหลอกลวง ที่ว่า
แม้ว่าทำชั่ว แต่ถ้ามายืนต่อหน้าพระเจ้าในนิเวศนี้ แล้วจะได้รับการช่วยกู้
จงดู เมืองชิโลห์ ซึ่งตอนแรกพลับพลาของพระเจ้า ได้อยู่ที่นั่น
แต่เพราะความชั่วร้ายของอิสราเอล ที่นั่นจึงถูกทำลาย
บัดนี้ พระเจ้าพูดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่พวกเขาไม่ได้ฟัง
พระเจ้าได้เรียกพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้ตอบ
ดังนั้นพระเจ้าจะทำต่อนิเวศนี้ เหมือนได้ทำต่อชิโลห์
พระเจ้าตรัสกับเยเรมีย์ ว่า
อย่าอธิษฐานหรือวิงวอน เพื่อประชากรเหล่านี้ เพราะพระเจ้าจะไม่ฟังเยเรมีย์ จนกว่าพวกเขาจะกลับใจจริงๆ
ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ต่างช่วยกันทำขนมถวายรูปเคารพ เพื่อยั่วยุให้พระเจ้าโกรธ
ซึ่งพวกเขากำลังทำให้ตนเองได้รับความอับอาย
ดังนั้นความกริ้วของพระเจ้าจะเทลงบนสถานที่นี้
บนมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ และพืชผลของแผ่นดิน
สิ่งเหล่านี้จะถูกเผาผลาญเสียและจะดับไม่ได้
ในวันที่ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ พระเจ้าไม่ได้สั่งเขาเรื่องเครื่องบูชา
แต่สั่งให้เชื่อฟังเสียงของพระเจ้า และดำเนินในหนทางของพระองค์
แต่พวกเขาไม่ได้เชื่อฟังหรือเงี่ยหูฟัง
แต่กลับดำเนินตามแผนการของตนเอง ตามความดื้อกระด้างในจิตใจชั่วของพวกเขา
และเดินถอยหลัง แทนที่จะเดินไปข้างหน้า
แม้พระเจ้าได้ส่งผู้เผยพระวจนะไปเตือนพวกเขา ครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกเขาก็ยังไม่ฟังเรา หรือเงี่ยหูฟัง
แต่ได้ทำให้คอของตนแข็ง ได้ทำชั่วยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
พวกเขาไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า และไม่ยอมรับการตีสอน
พระเจ้าจึงทรงปฏิเสธ และทรงละทิ้งชาติพันธุ์ที่ยั่วยุพระพิโรธของพระองค์
พวกเขาทำความชั่วร้าย และน่าสะอิดสะเอียน
ได้เผาบุตรชายหญิงด้วยไฟ ถวายแด่รูปเคารพ
การฆ่าฟันกันใหญ่โต จะมาถึงสถานที่ที่พวกเขาเผาบุตรของเขานั้น (หุบเขาเบนฮินโนม)
และศพของประชาชนนี้จะเป็นอาหารของนก และของสัตว์
เสียงบันเทิงและเสียงรื่นเริง จะขาดไปเสียจากเมืองต่างๆ ของยูดาห์
แผ่นดินนั้นจะต้องเป็นที่ทิ้งร้าง
1. คนอิสราเอลมาหาพระเจ้า เพื่อถวายเครื่องบูชา
แต่ไม่ยอมฟังคำเตือนจากพระเจ้า ไม่ยอมกลับใจ
พระเจ้าเรียกร้องให้พวกเขาซ่อมแซมพฤติกรรมของพวกเขา
ที่กำลังเสื่อมทรามลง ให้กลับดีดังเดิม
เพื่อพระเจ้าจะอวยพระพรแก่พวกเขา
แต่พวกเขาไม่ฟัง กลับทำชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น
จนพระเจ้าประกาศว่า เหตุร้ายจะมาถึงพวกเขา แทนที่จะเป็นพระพร
การถวายเครื่องบูชาไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากพวกเขาไม่ยอมกลับใจ
การรับใช้พระเจ้าไม่ว่าจะมากมายสักเพียงใด ก็ไร้ความหมาย
หากเราไม่ยอมฟังคำเตือนจากพระเจ้าแล้วกลับใจจากสิ่งที่ไม่ถูกต้องนั้น
2. พระเจ้าบอกเยเรมีย์ว่า ไม่ต้องมาขอให้พระเจ้ายกโทษให้กับคนอิสราเอล
เพราะพระเจ้าจะไม่ยกโทษให้ จนกว่าพวกเขาจะกลับใจ
จะให้พระเจ้ายกโทษให้พวกเขาได้อย่างไร
ในขณะที่พวกเขายังเปรมปรีดิ์ ในการเผาบูชายันต์ลูกๆของตน ถวายแก่รูปเคารพอยู่เลย
เราต้องกลับใจจริงๆก่อน แล้วเราก็จะพบการอภัยจากพระเจ้า
3. ที่ หุบเขาเบนฮินโนม เมื่อคนอิสราเอลนำบุตรของตนมาเผาบูชายันต์นั้น
ขณะที่เด็กกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเขาก็จะโห่ร้องยินดีด้วยเสียงอันดัง
เพื่อกลับเสียงกรีดร้องนั้น
เมื่อการพิพากษาของพระเจ้ามาถึง ณ หุบเขาเบนฮินโนม ที่ซึ่งพวกเขาทำให้เด็กเหล่านั้นตายนั้น
พวกเขาจะถูกฆ่าตายอย่างมากมาย และศพถูกทิ้งให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า
แล้วพระเจ้าจะเอาเสียงโห่ร้องยินดีออกไป ไม่ใช่เพียงเอาออกจากที่นั่น
แต่ในเมืองทุกเมืองของพวกเขา
เมื่อการพิพากษาของพระเจ้ามาถึง จะน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความชั่วร้ายที่มนุษย์ทำ
คำคม
“ พระเจ้าพร้อมที่จะให้อภัย แก่ทุกคนที่ยินดีที่จะกลับใจ ”