ภาพรวม
- เยเรมีย์ บทที่ 11 เพราะคนอิสราเอลไม่เชื่อฟังถ้อยคำในพระสัญญาของพระเจ้า ดังนั้นแทนที่พวกเขาจะได้รับพระพรตามพระสัญญา พวกเขากลับจะพบเหตุร้ายที่เตือนเอาไว้แล้วในพระสัญญานั้นแทน
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เยเรมีย์ บทที่ 11
พระเจ้าทรงสั่งเยเรมีย์ ให้ไปบอกแก่คนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม ว่า
คนอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังถ้อยคำในพันธสัญญาของพระเจ้า จะถูกแช่งเถิด
คือพันธสัญญาที่กล่าวกับคนอิสราเอลที่ออกมาจากอียิปต์ ว่า
จงฟังเสียงของพระเจ้า และจงทำทุกอย่างที่พระเจ้าบัญชา
แล้วพวกเขาจะเป็นประชากรของพระเจ้า และพระองค์จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
เพื่อให้สิ่งพระเจ้าปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาสำเร็จ
แต่คนอิสราเอลก็ไม่เชื่อฟังหรือเงี่ยหูฟัง
ทุกคนดำเนินตามความดื้อด้านแห่งจิตใจอันชั่วร้ายของตน
ดังนั้นคำแช่งสาปที่อยู่ในพันธสัญญานั้น จึงได้ตกมาเหนือพวกเขาเหล่านั้น
คนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม ก็ได้หันไปหาความผิดบาปแบบเดียวกันนั้น
โดยไม่ยอมฟังถ้อยคำของพระเจ้า หันไปติดตามพระอื่นๆ
ดังนั้นพระเจ้าจะนำเหตุร้ายมาเหนือพวกเขา
ถึงเขาจะร้องทุกข์ต่อพระเจ้า พระองค์ก็จะไม่ฟังเขา จนกว่าพวกเขาจะกลับใจอย่างแท้จริง
พวกเขาจะไปร้องทุกข์ต่อพระ แต่พระเหล่านั้นช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
อิสราเอลผู้เป็นที่รักของพระเจ้า ได้ทำการชั่วช้ามากมาย
เครื่องสักการบูชาของพวกเขาจะหันเหโทษไปจากพวกเขา
เพราะความชั่วช้าซึ่งพวกเขาได้กระทำ ได้ยั่วยุพระเจ้าด้วยการเผาเครื่องหอมถวายแก่พระบาอัล
ต่อมาพระเจ้าทรงสำแดงแก่เยเรมีย์ ว่า
คนตำบลอานาโธท บ้านเกิดของเยเรมีย์ ได้วางแผนทำร้าย ทำลายชื่อเสียง และหมายจะฆ่าเยเรมีย์เสีย
เพราะเยเรมีย์เผยพระวจนะในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากได้ยิน
เยเรมีย์จึงร้องทุกข์ต่อพระเจ้า และมอบเรื่องนี้ไว้กับพระองค์
พระเจ้าตรัสว่า
พระเจ้าจะลงโทษพวกเขา คนหนุ่มจะตายด้วยดาบ บรรดาบุตรชายหญิงของพวกเขาจะตายด้วยการกันดารอาหาร จะไม่มีใครเหลือเลย เมื่อปีแห่งการลงโทษพวกเขามาถึง
1. พระเจ้าทรงสัญญากับบรรพบุรุษของอิสราเอล ว่าถ้าลูกหลานของพวกเขาเชื่อฟังจะได้รับพระพรอย่างเหลือล้น
เพื่อให้คำสัญญานี้สำเร็จพระเจ้าจึงทรงนำลูกหลานของพวกเขาออกจากการเป็นทาสในอียิปต์
แล้วย้ำว่า พระองค์จะรักษาสัญญาที่มีไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา ขอเพียงพวกเขาเชื่อฟังพระองค์ก็พอ
แต่ถ้าไม่เชื่อฟังจะพบกับคำแช่งสาป
ปรากฏว่าคนเหล่านั้นไม่เชื่อฟังพระเจ้า จนพบกับกับเหตุร้ายมากมาย
วันเวลาผ่านไปมาถึงในสมัยของเยเรมีย์
ลูกหลานของคนเหล่านั้น ก็ทำเหมือนปู่ย่าตาทวดของพวกเขา
ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และลบหลู่พระองค์ด้วยการหันไปกราบไหว้รูปเคารพ
พระเจ้าจึงเตือนว่า สิ่งที่พระเจ้าเตือนปู่ย่าตาทวดของพวกเขา เป็นจริงทุกประการฉันใด
สิ่งที่พระเจ้าเตือนพวกเขาในวันนี้ เป็นจริงทุกประการฉันนั้น
ดังนั้นจงกลับใจก่อนจะสายเกินไป
วันนี้ก็เช่นกัน สิ่งที่พระเจ้าสัญญาไว้ทุกประการจะเป็นจริงในชีวิตของเรา เมื่อเราเชื่อฟังดำเนินตามพระสัญญา
และสิ่งที่พระเจ้าเตือนไว้ จะเป็นจริงในชีวิตของเราเช่นกัน เมื่อเราไม่เชื่อฟังถ้อยคำในพระสัญญานั้น
2. คนตำบลอานาโธทวางแผนที่จะทำร้ายเยเรมีย์ เพราะไม่พอใจสิ่งที่เยเรมีย์ทำ ซึ่งเป็นการเชื่อฟังพระเจ้า
ดังนั้นพระเจ้าเองจึงเป็นผู้ปกป้องเยเรมีย์และจัดการกับศัตรูของเขา
เยเรมีย์ไม่ได้หาทางตอบโต้หรือแก้แค้นพวกเขา
สิ่งที่เยเรมีย์ทำก็คือ ร้องทุกข์ต่อพระเจ้า และมอบเรื่องนี้ไว้กับพระองค์
หากเราถูกเอาเปรียบ ถูกรังเกียจ หรือถูกทำสิ่งไม่ดีใดๆก็ตาม
เพราะเราเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ใช่ธุระของเราเลยที่จะจัดการกับเหตุการณ์นี้
ปล่อยให้เป็นธุระของพระเจ้า พระองค์จะจัดการอย่างยุติธรรมอย่่างแน่นอน
คำคม
“ ผู้ที่ไม่เชื่อพระสัญญา จะไม่มีสิทธิได้รับพระพรตามพระสัญญา ”