ภาพรวม
- คนอิสราเอล จำนวนหนึ่งได้กลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน และเมื่อมาถึงเยรูซาเล็ม พวกเขาได้ถวายเพื่อใช้สำหรับการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอสรา บทที่ 2 เมื่อพระเจ้าทรงเร้าใจให้กษัตริย์ไซรัส และคนที่อยู่แวดล้อมคนอิสราเอล สนับสนุนคนอิสราเอลให้กลับมายังเยรูซาเล็มเพื่อสร้างพระวิหารและสร้างเมืองขึ้นมาใหม่
แล้วคนอิสราเอลก็กลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน กลับมายังเยรูซาเล็มและยูดาห์
และแต่ละคนต่างก็ไปยังเมืองของตน
คนที่กลับมาได้แก่
– เศรุบบาเบล หัวหน้าทีม
– เยชูอา มหาปุโรหิต
– และผู้นำคนอื่นๆ
– เนหะมีย์ น่าจะเป็นคนละคนกับเนหะมีย์ผู้สร้างกำแพง(นหม. 1:1)
– โมรเดคัย น่าจะคนละคนกับลุงของเอสเธอร์ (อสธ. 2:5)
ประชาชนอิสราเอล ที่กลับมาได้แก่
พงศ์พันธุ์ต่างๆราว 40 กว่า พงศ์พันธุ์
และพงศ์พันธุ์ของปุโรหิต
และพงศ์พันธุ์ของคนเลวี ที่เป็นพวกผู้ปรนนิบัติในพระวิหาร เป็นพวกนักร้อง และเป็นพวกคนเฝ้าประตู
และยังมี พงศ์พันธุ์ของบ่าวไพร่ประจำพระวิหาร
แต่มีบางพงศ์พันธุ์พิสูจน์ตระกูลของเขาหรือเชื้อสายของเขาไม่ได้ ว่า
เขาเป็นคนอิสราเอลหรือไม่
ซึ่งมีอยู่ 652 คน
และจากพงศ์พันธุ์ปุโรหิต บางพงศ์พันธุ์ไม่พบชื่อในทะเบียนตามสำมะโนครัวเชื้อสาย
จึงถือว่าเป็นคนสามัญ และถูกตัดออกจากการเป็นปุโรหิต
ผู้ว่าราชการเมืองจึงสั่งเขาไม่ให้รับอาหารบริสุทธิ์ที่สุด
จนกว่าจะมีปุโรหิตปรึกษากับอูริมและทูมมิมเสียก่อน
ประชาชนที่กลับมาทั้งหมด มี 42,360 คน
นอกเหนือจากคนใช้และนักร้องชายหญิง อีก 7,537 คน
คนที่กลับมามี ม้า 736 ตัว ล่อ 245 ตัว อูฐ 435 ตัว และลา 6,720 ตัว
หัวหน้าครอบครัวบางคน เมื่อเขามาถึงพระนิเวศของพระเจ้า
ได้ถวายตามความสมัครใจเพื่อพระนิเวศของพระเจ้า
เขาถวายตามกำลังของเขาแก่กองทรัพย์เพื่องานนี้
เป็นทองคำ 500 กิโลกรัม เงิน 2,800 กิโลกรัม และเครื่องแต่งกายปุโรหิต 100 ตัว
แล้วพวกปุโรหิต คนเลวี และบ่าวไพร่ประจำพระวิหารอยู่ตามเมืองของตน ซึ่งกระจายอยู่ตามเผ่าต่างๆ
ส่วนอิสราเอลทั้งปวงอยู่ตามเมืองของพวกเขา
1. คนที่กลับจากการเป็นเชลย ราว 40,000 กว่าคน
มีเพียง 600 กว่าคนเท่านั้นที่พิสูจน์ตระกูลหรือเชื้อสายของตนไม่ได้
นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก
และเห็นการจัดเตรียมของพระเจ้าในแผนการนิรันดร์ของพระองค์อย่างชัดเจน
ถ้าลองถามคนไทยสัก 40,000 คน ดูว่า ใครบ้างที่ทราบว่า ใครเป็นต้นตระกูลของเขาเมื่อ 700 ปีก่อน
สถิติของคำตอบที่ได้รับ คงแตกต่างจากสถิติในบทนี้อย่างมาก
เพราะขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ค่านิยม ฯลฯ ทำให้คนอิสราเอลมีการบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า
ตนเป็นลูกหลานของใคร พงศ์พันธุ์ไหน
จึงทำให้ เมื่อถึงเวลาที่พระคริสต์มาบังเกิด สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า
พระเยซูคริสต์เป็นเชื้อสายของดาวิดตามที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
แผนการและการจัดเตรียมของพระเจ้า ลึกซึ้งเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้หมด
2. เมื่อสังเกตจากจำนวน ม้า ล่อ อูฐ และลา ของคนที่กลับมากว่า 40,000 คนนั้น
ทำให้เห็นว่า ฐานะความเป็นอยู่ของเขาค่อนข้างลำบากและขัดสน
ถึงกระนั้นเมื่อมีการถวายเพื่อให้ในการสร้างพระวิหารนั้น
กลับได้ ทองคำ เงิน และเครื่องแต่งกายปุโรหิต จำนวนมากพอสมควรเลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับจำนวนสัตว์ที่พวกเขามี
สำหรับคนที่รักพระเจ้าสุดหัวใจ ไม่ว่าเขาจะยากจนแค่ไหน
เขาก็ยังสามารถถวายแด่พระเจ้าได้เสมอ
และพระเจ้าเองจะทรงเสริมเติมให้แก่เขา
คำคม
“ พระเจ้าทรงดีรอบคอบ ในทุกรายละเอียดเสมอ ”