สรุป เอสรา 8

ภาพรวม

  • เอสราและคนอิสราเอลจำนวนหนึ่ง ได้มายังเยรูซาเล็มอย่างปลอดภัย แล้ว มอบเงินทองและของถวาย ให้แก่ปุโรหิตผู้ดูแลพระนิเวศของพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

เอสรา บทที่ 8 เมื่อเอสราได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์ ให้กลับมายังเยรูซาเล็มเพื่อสอนพระบัญญัติของพระเจ้าแก่ผู้คนที่นั่น เขาจึงกลับมาพร้อมกับคนอิสราเอลจำนวนหนึ่ง

เอสรา​ได้​รวบ​รวมคนที่จะไปด้วยมาตั้ง​ค่าย​อยู่ 3 วัน บริเวณ​แม่​น้ำ​ที่​ไหล​สู่​อา​หะ​วา
เอสรา​พบ​ว่า ไม่มีคนในพงศ์​พันธุ์​ของ​เลวี​ที่​นั่น​เลย
เอสราจึง​ส่งคนไป​หา ​อิด​โด ผู้เป็นหัว​หน้า​ใน​สถาน​ที่​ ชื่อ​คา​สิ​เฟีย
ซึ่งมีพงศ์พันธุ์ของ​บ่าว​ไพร่​ประ​จำ​พระ​วิหาร​ที่นั่น
เพื่อขอให้พวกเขาส่งคนเลวีไปกับเอสราด้วย

โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า พวก​เขา​ได้​นำ​คน​ที่​มี​ความ​สุขุม​มา​ให้ เป็นคนเลวี 80 ​คน
และ​บ่าว​ไพร่​ประ​จำ​พระ​วิหาร 220 คน

ดังนั้นคนอิสราเอลที่กลับมาพร้อมเอสรา จากพงศ์พันธุ์ต่างๆจึงมีทั้งสิ้น 1,758 คน


แล้ว​เอสราก็​ประ​กาศ​ให้​ถือ​อด​อา​หาร​ ​ที่​แม่​น้ำ​อา​หะ​วา
เพื่อ​ถ่อม​ตัว​ลง​ต่อ​พระ​เจ้า เพื่อ​จะ​ทูล​ขอ​หน​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง​จาก​พระ​องค์​
เนื่องจากเอสรา ไม่ต้องการ​ที่​จะ​ทูล​ขอ​กอง​ทหาร​และ​พล​ม้า​จาก​กษัตริย์
​เพื่อ​ช่วยพวกเขาสู้​ศัตรู​ตาม​ทาง
เพราะว่าเอสราได้บอก​กษัตริย์​ ​ว่า
พระ​เจ้าจะช่วยผู้ที่แสวงหาพระองค์ให้​เกิด​ผล​ดี
และพระเจ้าจะต่อ​สู้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ละ​ทิ้ง​พระ​องค์

พวกเขา​จึง​อด​อา​หาร​และ​วิง​วอน​พระ​เจ้า​ เพื่อ​เรื่อง​นี้
และ​พระ​องค์​ทรง​ฟัง​เสียง​ร้อง​ทูล​ของ​พวกเขา

เอสราได้​ชั่ง​เงิน​และ​ทอง​คำ​และ​เครื่อง​ใช้​กับ​เครื่อง​ถวายต่างๆ สำ​หรับ​พระ​นิเวศ​
มอบ​ให้บรรดา​ปุ​โร​หิต​และ​คน​เลวีเป็นผู้ดูแล ​เป็น​เงิน 22 ตัน และ​​ทอง​คำ 3,400 กิ​โล​กรัม และเครื่อง​ใช้อื่นๆอีกหลายอย่าง

แล้วเอสรากับพวกก็​ออก​จาก​แม่​น้ำ​อา​หะ​วา​ใน​วัน​ที่​ 12 ของ​เดือน​ที่ 1
และ​พระเจ้าทรง​อยู่​กับ​พวกเขา และ​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​กู้​พวกเขา​ให้​พ้น​จาก​มือ​ของ​ศัตรู​และ​จาก​พวกโจร
พวกเขาจึงมา​ถึง​เย​รู​ซา​เล็มอย่างปลอดภัย
​และ​พัก​อยู่​ที่​นั่น 3 ​วัน
ใน​วัน​ที่​ 4 พวกเขาก็​ได้ชั่ง​ทอง​คำ และ​เครื่อง​ใช้​ ​และ​บันทึก​น้ำ​หนัก​ของ​ทุก​สิ่ง​ไว้
แล้วสิ่งเหล่านั้นมอบแก่​ปุ​โร​หิตผู้ดูแลพระนิเวศ

ใน​วัน​นั้น​คนอิสราเอลได้​ร่วมกันถวาย​เครื่อง​บูชา​แด่​พระ​เจ้า​
และพวกเขา​ได้​มอบกฤษ​ฎีกา​แก่​พวก​ข้า​หลวง​ของ​กษัตริย์
และ​แก่​พวก​ผู้​ว่า​ราช​การ​มณฑล​ฟาก​ตะวัน​ตก​ของ​แม่​น้ำ​ยูเฟร​ติส
และ​พวกเขา​เหล่า​นี้​จึงได้​ช่วย​เหลือ​ประ​ชา​ชน​และ​พระ​นิเวศ​ของ​พระ​เจ้า

1. ตอนแรกคนที่จะกลับไปเยรูซาเล็มพร้อมกับเอสรานั้นไม่มีเลวีเลย มีแต่ปุโรหิต
ความจริงแล้วเอสราได้รับหน้าที่กลับไปสั่งสอนพระธรรมของพระเจ้า
ดังนั้นไม่ว่าจะมีคนเลวีไปด้วยหรือไม่ ก็ไม่สำคัญสำหรับภารกิจของเขานัก

แต่เอสรารู้ดีว่า คนเลวีจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า
เขาจึงใช้คนไปเรียกคนเลวีมาร่วมเดินทางไปด้วย

เมื่อเรารับใช้พระเจ้า สิ่งที่เราควรคำนึงถึงไม่ใช่เพียงว่าทำอย่างไรงานของเราจึงจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเท่านั้น
แต่ควรคำนึงด้วยว่า ทำอย่างจึงจะเป็นประโยชน์ต่องานของพระเจ้าโดยรวมมากที่สุด

รับใช้พระเจ้า ไม่ใช่สนใจแค่งานของตนเอง โดยไม่ใส่ใจสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงานของตน

2. เอสราได้บอกกษัตริย์ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่จะช่วยพวกเขาได้
แล้วเอสราก็ทำตามที่เขาพูดนั้น คือ
เดินทางพร้อมทองคำ 3,400 กิโลกรัม และสมบัติอีกมากมาย
เดินทางราว 1,500 กิโลเมตร เป็นเวลา 4 เดือน
โดยปราศจากทหารคุ้มกัน

เมื่อเอสราพึ่งพาพระเจ้า ไม่พึ่งพากษัตริย์
พระเจ้าไม่ทรงทำให้เขาผิดหวัง
เขารอดพ้นเงื้อมมือศัตรูและพวกที่ดักปล้น
มาถึงเยรูซาเล็มอย่างปลอดภัย

สังเกตได้ว่าการเดินทางนี้ทำให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อยมาก
จนต้องพัก 3 วัน ก่อนที่จะเริ่มทำอะไรต่อไป
แม้จะเหนื่อย แต่ก็ปลอดภัย

เมื่อเรากล้าไว้วางใจในพระเจ้า
เราจะไม่มีวันผิดหวัง
ถึงแม้ว่าหนทาง ระหว่างทาง อาจพบอุปสรรค ความยากลำบากบ้าง
แต่ในที่สุดแล้วเราจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย และถวายเกียรติแด่พระเจ้า

3. เมื่อเอสรานำทองคำ เงิน และเครื่องใช้มากมายมาถึงพระนิเวศแล้ว
เขาไม่ได้ยึดเอาไว้ดูแลเอง แต่มอบทั้งหมดให้แก่ปุโรหิตผู้ดูแลพระนิเวศเป็นผู้ดูแลต่อไป
แล้วเขาเองก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทรัพย์สมบัตินั้นอีก

สิ่งที่พระเจ้ามอบหมายให้เรา นำมาถวายแด่พระเจ้านั้น
เมื่อมอบแด่พระเจ้า เราไม่ควรจะอวดอ้างความดีของตน หรือยึดอำนาจการใช้สิ่งเหล่านั้นไว้ในมือของเราด้วยการถือว่า เพราะตัวเรา ของถวายนี้จึงมาถึงคริสตจักรของพระเจ้า

แต่เราควรมอบให้แก่ผู้ดูแลตามหน้าที่ของเขา
แล้วก็ไม่ต้องไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นอีก
เราเป็นเพียงแค่ผู้ขนสิ่งที่พระเจ้า ปรารถนาจะประทานแก่คริสตจักรของพระองค์ มามอบยังคริสตจักรเท่านั้น

คำคม

“ คนที่พึ่งพาพระเจ้าสุดหัวใจ จะปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ”