ภาพรวม
- เอสเธอร์ทูลกษัตริย์ว่า ฮามานคิดจะฆ่าพระนางและชนชาติของพระนางให้หมด และเมื่อความโกรธของกษัตริย์พลุ่งขึ้น จึงสั่งให้ฆ่าฮามานด้วยตะแลงแกงในบ้านของเขาเอง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอสเธอร์ บทที่ 7 เมื่อกษัตริย์อาหสุเอรัสได้สั่งให้ฮามานไปยกย่องให้เกียรติแก่โมรเดคัย ให้ทุกคนได้รับรู้ ซึ่งทำให้ฮามานอับอายอย่างยิ่ง แล้วขันทีก็มาเชิญฮามานให้ไปร่วมงานเลี้ยงของเอสเธอร์
กษัตริย์จึงเสด็จไปพร้อมกับฮามาน เพื่อร่วมงานเลี้ยงในวันที่สอง
ขณะกำลังดื่มเหล้าองุ่นอยู่ กษัตริย์ถามพระนางเอสเธอร์ ถึงสิ่งที่พระนางต้องการ
พระนางตอบว่า
ขอไว้ชีวิตพระนางและชนชาติของพระนางด้วยเถิด
เพราะพระนางและชนชาติของพระนาง ถูกขายเพื่อให้ถูกทำลายสิ้น
กษัตริย์จึงถามว่า
“คนที่บังอาจคิดทำเช่นนั้นคือใคร?”
พระนางเอสเธอร์ทูลว่า
คือ ฮามานคนชั่วช้าผู้นี้
ฮามานก็ตกใจกลัว
กษัตริย์ก็ทรงลุกขึ้นจากงานเลี้ยงด้วยพระพิโรธ
แต่ฮามานยังอยู่เพื่อทูลขอชีวิตจากพระราชินีเอสเธอร์ ต่อไป
เมื่อกษัตริย์กลับเข้ามาอีก
เห็นฮามานยังกราบอยู่ที่แท่นซึ่งพระนางเอสเธอร์นั่งอยู่นั้น
กษัตริย์จึงคิดว่า ฮามานจะข่มขืนเอสเธอร์
ขันทีคนหนึ่ง ทูลว่า
ฮามานได้ทำตะแลงแกงสูง 22 เมตร เตรียมไว้สำหรับโมรเดคัย
กษัตริย์จึงตรัสว่า “แขวนคอมันบนนั้นแหละ”
ฮามานจึงถูกแขวนคอบนตะแลงแกงนั้น
1. ฮามาน ผู้มีตำแหน่งสูงส่ง ร่วงหล่นลงสู่ดินในวันเดียว และถูกฆ่าด้วยเครื่องมือที่เขาเตรียมไว้ฆ่าคนอื่น
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาทำผิดพลาดใหญ่อย่างน้อย 3 ประการ คือ 1.เย่อหยิ่งยโส 2. เคียดแค้นชิงชัง 3.ไม่ดูตาม้าตาเรือ บังอาจคิดจะมาทำร้ายประชากรของพระเจ้า
ขอให้ความผิดพลาดของฮามานนี้จะเตือนสติเรา ที่จะถ่อมใจลงต่อพระเจ้า , ยกโทษให้อภัยผู้อื่นเหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงอภัยแก่เรา และไม่ทำร้ายคนของพระเจ้า ไม่ว่าด้วยการกระทำ คำพูด หรือการคิดร้ายต่อพวกเขา
2. เอสเธอร์ , โมรเดคัย และคนยิวในเมืองสุสา ร่วมกันอดอาหารอธิษฐาน
เพื่อให้เอสเธอร์สามารถอ้อนวอนกษัตริย์ ให้ยกเลิกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว
เพราะดูเหมือนเป็นการยากมากๆ
ตั้งแต่การหาโอกาสที่จะเข้าเฝ้า
จังหวะที่จะทูลเรื่องนี้
และยังมีเรื่องของกฤษฏีกาของเปอร์เซียที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย
แต่เมื่อถึงเวลาเผชิญกับสถานการณ์นั้นเข้าจริงๆ
เอสเธอร์พูดเพียงนิดเดียว
ที่เหลือเป็นเพราะ
– กษัตริย์เข้าใจผิดคิดว่าฮามานจะข่มขืนเอสเธอร์
– และเพราะฮามานดันไปทำตะแลงแกง เพื่อเตรียมฆ่าคน ที่กษัตริย์เพิ่งทราบโดยบังเอิญ เมื่อเช้านี้ ว่าเป็นผู้มีบุญคุณต่อกษัตริย์
ขอเพียงเราพึ่งพาพระเจ้าอย่างสุดกำลัง
ทำส่วนของเราอย่างสัตย์ซื่อ ให้ดีที่สุด
ที่เหลือเมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้
พระเจ้าเองจะเป็นผู้จัดการกับสถานการณ์ยากลำบากที่เราเผชิญนั้น
คำคม
“ จงสัตย์ซื่อต่อไป แล้วเราจะเห็นแผนการช่วยกู้ของพระเจ้า อันเกินความเข้าใจของเรา ”