สรุป เอเสเคียล 1

ภาพรวม

  • เอเสเคียล เป็นปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ ที่ถูกจับไปเป็นเชลยในบาบิโลน ตั้งแต่ก่อนที่กรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย
  • พระเจ้าทรงใช้เขาเตือนคนอิสราเอลทั้งในบาบิโลนและในเยรูซาเล็ม ให้กลับใจ
  • พระเจ้าทรงเปิดเผยนิมิตให้แก่เขา เพื่อบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
  • เอเสเคียล บทที่ 1 พระเจ้าได้สำแดงนิมิตแก่เอเสเคียล ให้เขาเห็นสิ่งมีชีวิตทั้ง 4 ตน แล้วพระเจ้าก็ตรัสกับเอเสเคียล

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

เอเสเคียล บทที่ 1

ใน​วัน​ที่ 5 เดือน​ที่ 4 ปี​ที่ 30 ของอาณาจักรบาบิโลน
(ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่ 625 ปี ก่อน ค.ศ. สมัยพ่อของเนบูคัสเนสซาร์)
พระเจ้าได้สำแดงนิมิตแก่เอเสเคียล ที่​ริม​แม่​น้ำ​เค​บาร์ ขณะ​ที่เขา​เป็นเชลย

ท้องฟ้าได้เปิดออก
เอเสเคียล ก็เห็น ลม​พายุ​พัด​มา​จาก​ทาง​เหนือ
มี​เมฆ​ก้อน​ใหญ่​ ที่​มี​ความ​สว่าง​โดย​รอบ และ​มี​ไฟ​ลุก​วาบ​ออก​มา​ตลอดเวลา

ใน​ไฟ​นั้น​ มี​สิ่ง​มี​ชี​วิต 4 ตน
– ​รูป​ลักษณ์เหมือน​มนุษย์
– แต่​ละ​ตน​มี​หน้า 4 หน้า และ​มี​ปีก 4 ปีก
– ขา​ตรง ฝ่า​เท้า​​เป็น​ประ​กาย​เหมือน​ทอง​สัม​ฤทธิ์​
– ​ใต้​ปีก​มี​มือ
– ​ใบหน้า​ ​
>> ด้าน​หน้า​ เป็น​หน้า​คน
>> ด้าน​ขวา​ เป็น​หน้า​สิงโต
>> ด้าน​ซ้าย​ เป็น​หน้า​โค
>> ด้าน​หลัง ​เป็น​หน้า​นก​อินทรี
– บินไปตามที่วิญ​ญาณของตน​จะ​นำไป
– รูปร่าง​เหมือน​ถ่าน​ลุกโชน
– เคลื่อนที่​พุ่ง​ไป​พุ่งมา​เหมือน​​สาย​ฟ้า​แลบ
– มี​วง​ล้อ​ 1 วง บน​พื้นดิน ​อยู่​ข้าง​กาย ลักษณะวงล้อนั้น
>> เหมือน​เพ​ทาย
>> เหมือน​วง​ล้อ​หลายๆอันซ้อนกัน​อยู่
>> ขอบ​วง​ล้อ​​สูง​และ​ดู​น่า​สะพรึง​กลัว
>> ​เต็ม​ด้วย​ดวง​ตา​อยู่​​รอบวงล้อ
>> เคลื่อน​ตาม​ไป​ข้างๆ ​สิ่ง​มี​ชีวิต​เหล่านั้น
>> ​วิญ​ญาณ​ของ​สิ่ง​มี​ชี​วิต​เหล่า​นั้น​อยู่​ใน​วง​ล้อ

มีแก้วผลึกเหนือ​ศีรษะ​ของ​สิ่ง​มี​ชี​วิต​เหล่า​นั้น​ ​คล้าย​พื้น​ฟ้า

เมื่อ​สิ่ง​มี​ชีวิต​เหล่า​นั้น​บินไป ​เสียง​ปีก​เหมือน​เสียง​ของ​น้ำ​ไหล​เชี่ยว เหมือนเสียง​โก​ลา​หล​ เหมือน​เสียง​กอง​ทหาร
เมื่อ​พวก​เขา​ยืน​นิ่ง ปีก​ก็​จะ​หุบ​ลง

และ​มี​เสียง​จาก​ข้าง​บน​พื้น​ฟ้า​ที่​อยู่​เหนือ​ศีรษะ​พวก​เขา จากพระ​ที่​นั่ง​ซึ่ง​​เหมือน​ไพ​ลิน
แล้วพวกเขาก็​ยืน​นิ่ง หุบปีก​ทั้ง​หลาย​ลง
และ​มี​ผู้​มี​ลักษณะ​เหมือน​มนุษย์​อยู่​บนพระที่นั่ง​นั้น

ลักษณะของผู้นั้น
ส่วนบน คล้าย​ทอง​สัม​ฤทธิ์​แวบ​วาบ
จาก​ส่วน​บั้น​เอว​ลง​มา คล้ายไฟ​
​มี​ความ​สุก​ใส​เหมือนรุ้ง อยู่​รอบๆ ท่าน​ผู้​นั้น

เมื่อ​เอเสเคียลเห็น​แล้ว ก็​ซบ​หน้า​ลง​ถึง​ดิน
และ​​ได้​ยิน​เสียงพระเจ้าตรัส

1. เอเสเคียล เป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อ ผู้ยำเกรงพระเจ้า
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่ต้องถูกจับมาเป็นเชลยเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำบาป ทำชั่ว ลบหลู่พระเจ้า

แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนเหล่านั้น ก็คือ
ท่ามกลางการเป็นเชลยนั้น
เอเสเคียลยังคงพบกับพระเจ้า
ยังคงรับใช้พระเจ้าได้
ยังคงถวายเกียรติแด่พระเจ้า
และยังคงเป็นพระพรต่อผู้คนมากมาย จนมาถึงพวกเราให้ทุกวันนี้

สถานการณ์ที่กำลังเกิดกับเราวันนี้ หากเรายำเกรงพระเจ้าต่อไป
เราก็สามารถถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเป็นพระพรแก่ผู้คนมากมายได้
ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีในสายตาของมนุษย์ก็ตาม

2. สิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ที่เอเสเคียลเห็น รูปร่างประหลาด อัศจรรย์
แม้แต่วงล้อยังดู​น่า​สะพรึง​กลัว
ซึ่งแน่นอนเอเสเคียลคงไม่สามารถบรรยายสิ่งที่เห็นทั้งหมดออกมาเป็นตัวอักษรได้ครบถ้วน
ในฝ่ายวิญญาณนั้น ยังมีมากมายที่เกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้
และเป็นสิ่งที่มีพลังมากมายเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้
ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ยังเกรงกลัวต่อพระเจ้า ผู้สมควรแก่การยำเกรง

เรา ผู้เป็นมนุษย์ เป็นเพียงเนื้อหนัง
เรายิ่งสมควรเกรงกลัวพระเจ้า ด้วยความยำเกรงมากยิ่งสักเพียงใด

และเพราะพระเจ้าทรงเมตตา ประทานให้เราเป็นลูกของพระองค์
เรายิ่งสมควรซาบซึ้งพระคุณ รักและเทิดทูนพระองค์ มากยิ่งสักเพียงใด

คำคม

“ พระเจ้า ทรงเป็นผู้ที่เราควรยำเกรงอย่างยิ่ง ”