ภาพรวม
- เอเสเคียล บทที่ 3 พระเจ้าทรงนนำเอเสเคียลให้ไปเตือนพวกเชลยที่ เทลอาบิบ
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอเสเคียล บทที่ 3
เมื่อพระเจ้าทรงยื่นหนังสือม้วนให้แก่เอเสเคียลแล้ว
พระองค์ก็สั่งเอเสเคียล ให้กินเข้าไป
เมื่อเอเสเคียลกิน ขณะหนังสือม้วนอยู่ในปาก ก็หวานเหมือนน้ำผึ้ง
แล้วพระเจ้าก็สั่งเขา ให้ไปกล่าวถ้อยคำของพระเจ้าแก่คนอิสราเอล
พระเจ้าตรัสว่า
ถ้าพระเจ้าใช้เขา ให้ไปหาชนชาติ ที่พูดภาษาที่เขาไม่เข้าใจ พวกเขาก็ยังจะฟังเอเสเคียล
แต่คนอิสราเอล แม้จะเข้าใจสิ่งที่เอเสเคียลพูด
พวกเขาจะไม่ยอมฟังเอเสเคียล เพราะพวกเขาไม่ยอมฟังพระเจ้า
เพราะว่าพวกเขาหัวแข็งและใจดื้อด้าน
พระเจ้าจึงทำให้เอเสเคียลหน้าด้านและหัวแข็ง เหมือนพวกเขา
พระเจ้าสั่งให้เอเสเคียลไม่ต้องกลัว ไม่ต้องท้อถอย
แต่ให้รับถ้อยคำที่ได้ยิน ไว้ในใจ
แล้วไปพูดกับพวกเชลยอิสราเอล ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือปฏิเสธก็ตาม
แล้วพระวิญญาณก็ทรงยกเอเสเคียลขึ้น
มีเสียงกระหึ่มของวงล้อและสิ่งมีชีวิต (ในบทที่1)อยู่ข้างหลังเอเสเคียล
พระวิญญาณทรงนำเขาไป ด้วยความขมขื่น เดือดดาล และพระหัตถ์ของพระเจ้าก็กดอยู่บนเขา
เอเสเคียลจึงมาถึงพวกเชลยที่ เทลอาบิบ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเคบาร์
เอเสเคียลก็นั่งด้วยความตะลึงงันอยู่ที่นั่น 7 วัน
หลังจากนั้น พระเจ้าตรัสกับเขาว่า
พระเจ้าได้ตั้งเขาให้เป็นยามของคนอิสราเอล
เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พระเจ้าตรัส ก็ให้เขากล่าวคำตักเตือนพวกเขา
ถ้าไม่ได้ตักเตือน พวกเขาจะตาย
แต่เขาต้องรับผิดชอบในความตายของพวกเขา
แต่ถ้าได้ตักเตือนแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้กลับใจ พวกเขาจะตาย
แต่เขาจะรอดพ้นการลงโทษ
ถ้าคนชอบธรรมหันไปทำการอยุติธรรม
คนนั้นจะต้องตายและจะไม่มีใครจดจำความชอบธรรมที่เขาเคยทำไว้
แต่ถ้ากลับใจ คนนั้นจะมีชีวิตอยู่แน่นอน
แล้วพระเจ้าให้เอเสเคียล ออกไปยังที่ราบ
แล้วพระสิริของพระเจ้าก็อยู่ที่นั่น เหมือนกับที่ริมแม่น้ำเคบาร์(บทที่1)
แล้วเขาก็ซบหน้าลงถึงดิน
แต่พระวิญญาณก็ทำให้เขายืนขึ้น
พระเจ้าทรงสั่งให้เขาไปขังตัวเองไว้ภายในบ้านของตน
พระเจ้าบอกเขาว่า คนอิสราเอลจะเอาเชือกมัดเอเสเคียลไว้
และพระเจ้าจะทำให้เอเสเคียลเป็นใบ้
แต่เมื่อพระเจ้าพูดกับเขา พระองค์จะทำให้เขาพูดได้อีก
แล้วให้พูด ใครจะฟังหรือจะปฏิเสธ ก็ช่างพวกเขา
1. เมื่อเอเสเคียลตั้งใจเชื่อฟังพระเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา คือ
– ต้องกินหนังสือม้วน (แม้มันจะหวานก็ตาม)
– ต้องถูกทำให้หน้าด้าน หัวแข็ง
– ต้อง ขมขื่น เดือดดาล และหนักอึ้ง
– ต้องนั่งตะลึงงันอยู่ 7 วัน
– ต้องถูกขังในบ้าน
– ต้องถูกมัด
– ต้องเป็นใบ้ บางช่วงเวลา
– ต้องถูกคาดโทษ หากไม่ไปเตือนคนอิสราเอล
ดูเหมือนการรับใช้พระเจ้า ในช่วงสมัยของเรานี้ ช่างง่ายดายเหลือเกิน เมื่อเทียบกับเอเสเคียล
ถึงกระนั้นเอเสเคียลยังคงรับใช้อย่างสัตย์ซื่อ และเชื่อฟังพระเจ้า
วันนี้ จงเลียนแบบเอเสเคียล ในความสัตย์ซื่อและการเชื่อฟังของเขาเถิด
2. ถ้าเอเสเคียลไม่เตือนคนอธรรม หรือไม่ช่วยคนชอบธรมที่หลงทาง
เขาเองต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น
วันนี้เรามีความรับผิดชอบที่จะบอกและเตือน คนทั้งหลายให้หนีพ้นจากบึงไฟนรก
ด้วยการกลับใจใหม่ หันมาเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์
3. พระเจ้าบอกเอเสเคียลให้พูดไปเถอะ
ใครจะฟัง หรือไม่ฟัง ก็ให้พูดต่อไป
ให้เรายังคงประกาศข่าวประเสริฐต่อไป
ใครจะฟังหรือปฏิเสธ ก็ให้เรายังคงประกาศต่อไป อย่าอ่อนระอาใจ
คำคม
“ การรับใช้พระเจ้า เป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ และเรียกร้องหมดทั้งหัวใจของเรา ”