สรุป เอเสเคียล 17

ภาพรวม

  • เอเสเคียล บทที่ 17 พระเจ้าตรัสกับคนอิสราเอล ด้วยคำอุปมาเรื่องนกอินทรีย์ ต้นสนสีดาร์ และเถาองุ่น

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

เอเสเคียล บทที่ 17

พระเจ้าสั่งให้เอเสเคียล​ ให้กล่าวอุปมา แก่​คนอิส​รา​เอล ว่า

มี​นก​อิน​ทรี​มหึ​มา​ตัว​หนึ่ง มี​ปีก​ใหญ่​และ​ขน​ปีก​ยาว ทั้ง​มี​ขน​มาก​มาย​และหลาก​สี
​มา​ยัง​เล​บา​นอน แล้วเด็ด​ยอด​กิ่ง​อ่อน​ของ​ต้น​สน​สีดาร์ ​ไป​ยัง​แผ่น​ดิน​พา​ณิชย์
แล้ว​นกอินทรีย์นั้น​ก็​เอา​เมล็ด​พืช​แห่ง​แผ่น​ดิน ไป​ปลูก​ไว้​ใน​ดิน​อุดม ​ข้าง​น้ำ​มาก​หลาย
เมล็ด​ก็​งอก​งาม เติบ​โต​ขึ้น เป็น​เถา​องุ่น แผ่​แขนง ​แตก​หน่อ​และ​งอก​กิ่ง​ก้าน​ใหญ่

แต่​มี​นก​อิน​ทรี​ตัว​มหึ​มา​อีก​ตัว​หนึ่ง มี​ปีก​ใหญ่​และ​มี​ขน​มาก
เถา​องุ่น​นี้​ก็​ชอน​ราก ไป​หา​นก​อิน​ทรี​ตัว​นี้ เพื่อ​ให้​นก​นี้​รด​น้ำ​ให้​มัน
และ​ทอด​กิ่ง​ไป​ยัง​นก​ตัว​นี้

เถา​องุ่นนั้น​จะ​ไม่เจริญ
นก​ตัว​นั้น​จะ​ถอน​ราก​มัน​ขึ้น และ​เด็ด​ผล​มัน​ไป และ​เถา​นั้น​ก็​เหี่ยว​แห้งไป

สิ่ง​เหล่า​นี้​​หมาย​ถึง พระ​รา​ชา​แห่ง​บา​บิ​โลน​ได้​มา​ยัง​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม
แล้ว​นำ​เอา​กษัตริย์​และ​เจ้า​นาย​ทั้ง​หลายไปที่​กรุง​บา​บิ​โลน
และ​เขา​ได้​เอา​เชื้อ​พระ​วงศ์​ผู้​หนึ่ง​มา แล้ว​ทำ​พันธ​สัญ​ญา​กับ​ผู้​นั้น​
แต่​เขา​ผู้​นั้น​ได้​กบฏ​ต่อ​พระ​รา​ชา
โดย​ส่ง​ทูต​ของ​เขา​ไป​ยัง​อียิปต์ ด้วย​หวัง​ว่า​จะ​ได้​ม้า​และ​กำ​ลัง​คน​มา​มาก​มาย

แต่เขาจะ​หนี​ไม่รอด​
เขา​จะ​ต้อง​ตาย​ใน​​กรุง​บาบิโลน​
ฟา​โรห์​ผู้​มี​กอง​ทัพ​ใหญ่​โต ​จะ​ไม่​ช่วย​เขา​​
เพราะ​เขา​​ดู​หมิ่น​คำ​สา​บาน​และ​หัก​พันธ​สัญ​ญา

ดังนั้นยิ่งกว่านั้นอีก คำ​ปฏิ​ญาณ​ของพระเจ้า​ที่​คนอิสราเอลได้​ดู​หมิ่น และ​หักพันธ​สัญ​ญา​ของ​พระเจ้าเสีย
พระเจ้าจะ​ลง​ทัณฑ์พวกเขา
พวกเขา​จะ​ติด​กับ และ​​จะถูก​นำ​ไป​บา​บิ​โลน
และพระเจ้า​จะ​พิพาก​ษาพวก​เขา​ที่​นั่น​

เหล่าทหารในกอง​ทัพ​จะ​ล้ม​ลง​ด้วย​ดาบ
และ​พวก​ที่​รอด​ตาย​จะ​กระ​จาย​ไป​

พระเจ้า​จะ​เอา​จาก​ปลาย​ยอด​สูง ของ​ต้น​สน​สีดาร์​มา​ปัก​ไว้
พระเจ้า​จะ​หัก​หน่อ​อ่อน และ​จะ​ปลูก​​ไว้ บน​ภูเขา​ที่​สูง​เด่นของ​อิส​รา​เอล
แล้วหน่อนั้น​จะ​แตก​กิ่ง​และ​เกิด​ผล และ​กลาย​เป็น​ต้น​สน​สีดาร์​ที่​งามสง่า
แล้ว​นก​ทุก​ชนิด​จะ​มา​อาศัย​ ​มา​ทำ​รัง ที่​ร่ม​เงา​ของ​กิ่ง​ของต้นนั้น

พระเจ้าทำ​ต้น​ไม้​สูง​ให้​เตี้ย​ลง และ​ทำ​ต้น​ไม้​เตี้ย​ให้​สูง​ขึ้น
พระเจ้าทำ​ต้น​ไม้​เขียว​ให้​แห้ง​ไป และ​ทำ​ต้น​ไม้​แห้ง​ให้​งาม​สด​ชื่น
เมื่อ​ลั่น​วา​จา​แล้ว พระองค์จะ​ทำ​เช่น​นั้น

1. ความหมายคำอุปมานี้
นกอินทรีย์ตัวแรก คือ เนบูคัสเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
ยอดอ่อนของต้นสนสีดาร์ คือ เชื้อสายของดาวิด ถูกนำไปยังบาบิโลน (เยโฮยาคีน)
เถาองุ่น คือ เศเดคียาห์ ผู้ซึ่งเนบูคัสเนซาร์ ตั้งให้เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์
นกอินทรีย์ตัวที่สอง คือ ฟาโรห์ กษัตริย์แห่งอียิปต์

เนบูคัสเนสซาร์ ได้จับเยโฮยาคีน ไปบาบิโลน
แล้วตั้งเศเดคียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
แต่เศดคียาห์ หักพันธสัญญา โดยกบฏต่อบาบิโลน
แล้วไปขอความช่วยเหลือจากอียิปต์
แต่อียิปต์ก็ไม่ได้ช่วยเขา
ในที่สุด บาบิโลนมาบุกและทำลายเยรูซาเล็ม
จับเศเดตียาห์ไปบาบิโลน และตายที่นั่น

แต่ต่อมาพระเจ้าจะเอาหน่อจากต้นสีดาร์(เชื้อสายของดาวิด) มาปลูกที่อิสราเอล
แล้วหน่อนั้น (หมายถึง พระเยซู) จะแตก​กิ่ง เกิด​ผล และ​กลาย​เป็น​ต้น​สน​สีดาร์​ที่​งามสง่า
จนนกทุกชนิด (คนทุกชนชาติ) มาอาศัยอยู่ในต้นนั้น อย่างปลอดภัย

2. เศเดคียาห์ ผู้หักพันธสัญญาที่มีกับมนุษย์(เนบูคัสเนสซาร์) ยังถูกลงโทษ
แล้วคนอิสราเอลผู้หักพันธสัญญาที่ทีกับพระเจ้า จะพ้นโทษได้อย่างไร

ให้เรายึดมั่นในพันธสัญญากับพระเจ้า
เราวางใจในพระองค์ และ พระองค์ปกป้องดูแลชีวิตของเรา

3. พระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้​ต้น​ไม้​สูงขึ้นหรือ​เตี้ย​ลง เขียวสดหรือ​เหี่ยว​แห้ง​ไป
ชีวิตของเราก็เหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทั้งหมดอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า
ผู้ทรงรักเราอย่างที่สุด

คำคม

เมื่อพระเจ้าลั่นวาจาแล้ว พระองค์จะทำให้สำเร็จเสมอ