ภาพรวม
- เอเสเคียล บทที่ 22 เอเสเคียลพยากรณ์ถึงการพิพากษาของพระเจ้า ที่จะมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม ที่เต็มไปด้วยความบาปชั่ว
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอเสเคียล บทที่ 22
พระเจ้าสั่งให้เอเสเคียลพิพากษาเยรูซาเล็ม เมืองที่แปดเปื้อนด้วยโลหิต ว่า
นี่เป็นเมืองแปดเปื้อนด้วยโลหิต
เมืองที่สร้างรูปเคารพ ทำให้ตัวเองเป็นมลทิน
เวลากำหนดของเมืองนี้มาถึงแล้ว
พระเจ้าทำให้เมืองนี้จะเป็นที่ดูหมิ่น เยาะเย้ย ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
บาปของเมืองนี้ ได้แก่
– เจ้านายของอิสราเอล ฆ่าคนด้วยอำนาจของเขา
– บุตรเหยียดหยาม บิดามารดา
– ข่มเหง คนต่างด้าว ลูกกำพร้าและหญิงม่าย
– ดูหมิ่นพระวิหารของพระเจ้า
– ลบหลู่สะบาโตของพระเจ้า
– ใส่ร้ายเพื่อฆ่าคน
– เต็มด้วยการล่วงประเวณี
– ชายบางคนล่วงประเวณีกับภรรยาของบิดา
– บางคนข่มขืนผู้หญิง
– บางคนทำการน่าสะอิดสะเอียนกับภรรยาเพื่อนบ้าน
– บางคน ล่วงเกินลูกสะใภ้ของตน อย่างน่าอุจาด
– บางคนข่มขืนน้องสาวของตน
– บางคนรับสินบนเพื่อฆ่าคน
– บางคนคตโกงเพื่อนบ้าน ด้วยการบีบบังคับ
– และพวกเขาได้ลืมพระเจ้าเสีย
พระเจ้าจึงยื่นกำปั้นใส่พวกเขา
พวกเขาจะทนไม่ได้ ในวันที่พระองค์จะจัดการกับพวกเขา
พระเจ้าจะกระจายพวกเขาไปในหมู่ประชาชาติ
พระองค์จะขจัดมลทินให้หมดไปจากเมืองนี้
สำหรับพระเจ้า แล้วคนอิสราเอลจะกลายเป็นขี้โลหะในเตาหลอม
ที่จะถูกเผาให้ละลายไป ด้วยความกริ้วของพระเจ้า
– บรรดาผู้นำของอิสราเอล ฆ่าคน เพื่อริบสมบัติและสิ่งมีค่าไป
– พวกเขาเพิ่มพูนหญิงม่ายขึ้นมากมาย
– พวกปุโรหิต ได้ละเมิดธรรมบัญญัติ และลบหลู่สิ่งบริสุทธิ์ และวันสะบาโต
– ผู้เผยพระวจนะ ก็ฉาบปูนขาวให้กับพวกเขา ด้วยการทำนายเท็จแก่เขา
– ประชาชนก็ข่มเหงและปล้นกัน
– พวกเขาบีบบังคับ คนยากจนและคนต่างด้าว อย่างไม่ยุติธรรม
พระเจ้าแสวงหาคนหนึ่งในพวกเขาที่จะสร้างกำแพง
และยืนอยู่ตรงช่องโหว่ต่อหน้าพระเจ้า
เพื่อแผ่นดินนั้น เพื่อพระเจ้าจะไม่ทำลายมันเสีย
แต่พระเจ้าก็หาไม่ได้สักคนเดียว
ดังนั้นพระเจ้าจึงเทความเกรี้ยวกราด ลงเหนือพวกเขา
ทำให้พวกเขาหมดสิ้นไปด้วยไฟพิโรธของพระองค์
1. คนในเยรูซาเล็ม ดูหมิ่นพระเจ้าด้วยการทำสิ่งชั่วร้าย
ดังนั้นพวกเขาจึงจะถูกดูหมิ่นและเยาะเย้ย
พวกเขาฆ่าคน เพื่อริบสมบัติของคนอื่น
ดังนั้นพวกเขาจึงถูกฆ่า และถูกยึดสมบัติไป
พวกเขาทำให้ผู้หญิงมากมายต้องเป็นม่าย
ดังนั้นภรรยาของพวกเขาจึงกลายเป็นม่าย
พวกเขากดขี่ข่มเหง คนยากจนและคนต่างด้าว
ดังนั้นพวกเขาจึงตกเป็นเชลยในต่างแดน ขัดสน และถูกกดขี่ข่มเหง
การพิพากษาของพระเจ้า ยุติธรรมเสมอ
2. พระเจ้าประทานเยรูซาเล็มให้แก่คนอิสราเอล
แต่พวกเขาทำให้เมืองนั้นเต็มไปด้วยมลทินบาป
พระเจ้าจึงขจัดมลทินบาปออกจากที่นั่น โดยกระจายพวกเขาออกไป
แล้วจึงนำพวกเขา ที่เรียนรู้แล้ว กลับมาอีกครั้ง
หากเราไม่ใช้สิ่งที่พระเจ้าประทานให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
แต่ใช้ลบหลู่พระเจ้า
พระเจ้าอาจจะนำสิ่งนั้นออกไปจากเรา
จนกว่าเราจะกลับใจใหม่อย่างแท้จริง
3. พระเจ้าตรัสว่า ไม่มีคนหนึ่งในพวกอิสราเอล ที่จะอธิษฐาน สารภาพบาป กลับใจ เพื่อแผ่นดินอิสราเอล
ไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษรเสียทีเดียว
เพราะเวลานั้น เยเรมีย์ , บารุค และคนของพระเจ้าคนอื่นๆ ก็ยังอยู่ในเยรูซาเล็ม
แต่หมายความว่า ท่ามกลางคนทำชั่วเหล่านั้น ไม่รวมคนของพระเจ้า
ไม่มีใครสักคนเลยที่คิดจะกลับใจ
ถ้ามีสักคน ที่กลับใจ อธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้า พระองค์จะได้ไม่ทำลายพวกเขาเสีย
ส่วนเยรมีย์เอง ใน ยรม. 11:14 พระเจ้าก็ห้ามเขาไม่ให้อธิษฐาน ขอให้พระเจ้าอวยพรคนอิสราเอล (..เจ้าเองอย่าอธิษฐานเพื่อชนชาตินี้ อย่าวิงวอนหรืออธิษฐานเพื่อพวกเขา …) เพราะพวกเขาไม่คิดจะกลับใจ ยังคงจงใจทำชั่วร้ายต่อไป
ดูเหมือนคำอธิษฐานสำคัญที่เราควรอธิษฐานเผื่อ คนในชุมชน ในประเทศชาติของเรา
อาจจะไม่ใช่ให้พระเจ้าอวยพระพรพวกเขา
แต่ให้พวกเขากลับใจใหม่ กลับมาหาพระเจ้า
เพื่อจะพบกับพระพรของพระองค์
“ ขอให้เราเป็นคนนั้น ที่จะยืนที่ช่องโหว่ ที่จะอธิษฐานต่อพระเจ้า
เพื่อครอบครัว เพื่อคริสตจักร และเพื่อประเทศของเรา ”