ภาพรวม
- เอเสเคียล บทที่ 30 เอเสเคียลพยากรณ์ถึงการพิพากษาที่จะมาถึงอียิปต์และพันธมิตรของอียิปต์
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
เอเสเคียล บทที่ 30
พระเจ้าให้เอเสเคียล เผยพระวจนะ เกี่ยวกับอียิปต์ ว่า
วันแห่งพระยาห์เวห์ใกล้เข้ามาแล้ว จะเป็นเวลาแห่งความหายนะของประชาชาติ
ดาบเล่มหนึ่งจะมาเหนืออียิปต์ คนมากมายจะถูกฆ่า
และทรัพย์สมบัติจะถูกขนไป
และรากฐานของอียิปต์ก็ถูกทลายลง
พันธมิตรทั้งหลายของอียิปต์ก็จะล้มลงด้วยดาบ เช่นกัน
เมืองต่างๆ จะถูกทิ้งร้าง
คนคูชที่มั่นใจ จะคร้ามกลัวและความทุกข์ระทม ในวันหายนะของอียิปต์
พระเจ้าจะทำให้ไพร่พลของอียิปต์สิ้นสุดลง
ด้วยมือของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์บาบิโลน
พระเจ้าจะทำให้แผ่นดินและสารพัดที่อยู่ในนั้นร้างเปล่า
พระเจ้าจะทำลายรูปเคารพทั้งหลาย และเจ้านาย ของอียิปต์เสีย
และจะใส่ความหวาดกลัวในแผ่นดินอียิปต์
พระเจ้าจะเทความโกรธลงเหนืออียิปต์ และจะขจัดไพร่พลไปเสีย
พระเจ้าจะให้ไฟเผาอียิปต์ ชายฉกรรจ์จะล้มลงด้วยดาบ
พระเจ้าจะทำลายแอกของอียิปต์ และอานุภาพอันผยองของอียิปต์จะสิ้นสุดลง
และคนอียิปต์จะตกไปเป็นเชลย
วันที่ 7 เดือนที่ 1 ในปีที่ 11 ที่กษัตริย์เยโฮยาคีนตกเป็นเชลย
พระเจ้าตรัสกับเอเสเคียล ว่า
พระเจ้าได้หักแขนที่แข็งแรงของฟาโรห์ กษัตริย์แห่งอียิปต์
และดาบจะหลุดจากมือของเขา
พระองค์จะทรงเป็นปฏิปักษ์กับเขา
พระเจ้าจะให้คนอียิปต์กระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางประชาชาติ
พระเจ้าจะเสริมกำลังแขนของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และเอาดาบใส่มือเขา
แต่พระเจ้าจะหักแขนของฟาโรห์ และฟาโรห์จะคร่ำครวญต่อหน้าเขา
1. พระเจ้าจะทำลายแอกและอานุภาพอันผยอง ของอียิปต์
อียิปต์กดขี่ข่มเหง ชนชาติอื่นมาเป็นเวลานาน
บัดนี้ตนเอง จึงถูกกดขี่ข่มเหงอย่างเหี้ยมโหด โดยบาบิโลน
การพิพากษาของพระเจ้า ยุติธรรม และน่าสะพรึงกลัว
2. พระเจ้าหักแขนของฟาโรห์ และดาบจะหลุดจากมือของเขา
หมายถึง พระเจ้าได้ทำลายอำนาจของเขา กองทัพของเขา จนเขาไม่อาจทำร้ายใครได้อีก
แต่พระเจ้าเสริมกำลังแขนของกษัตริย์บาบิโลน และเอาดาบใส่มือเขา
พระองค์ทำให้เขาเข้มแข็ง และเต็มด้วยอำนาจในการทำลายร้าง
พระเจ้าจะทำให้ผู้ใดอ่อนแอลง คนนั้นก็จะอ่อนแอ
จะให้ใครเข้มแข็งขึ้น เขาก็จะเข้มแข็ง
ทั้งหมดสุดแล้วแต่การตัดสินใจของพระเจ้า
ในยามที่เราอ่อนแอ จงเข้ามาหาพระองค์ ขอประทานกำลังแก่เรา
ในยามที่เราเข้มแข็ง จงเข้ามาหาพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ที่ประทานกำลังนั้นแก่เรา
คำคม
“ ความเข้มแข็งที่แท้จริงของเรา มีอยู่ในพระเจ้าเท่านั้น ”